ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 388

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 388

จู่ ๆ เหลียงซื่อก็ลงมือ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนไม่ทันได้ตั้งตัว

จิ้นกั๋วกงปิดประตูใหญ่แล้ว เดิมทีคิดว่าจะทำให้เหลียงซื่อรู้สึกกลัวได้ ไม่คาดคิดว่านางจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เริ่มลงมือในทันที

ซีเหมินเสี่ยวเยว่ที่ถูกนางกระชากผม ก็กรีดร้องขึ้นมา หลี่ซื่อก็พุ่งเข้าไปช่วยบุตรสาวของนาง แต่ก็ถูกเหลียงซื่อถีบออกไป นางตะคอกเสียงดังลั่น “ถ้าเข้ามาอีก ข้าจะกระชากหนังหัวของนางให้หลุดออกมาเลย!”

พูดพลางก็ออกแรงดึงอีก จนซีเหมินเสี่ยวเหมินเสี่ยวเยว่ลงไปดิ้นทุรุนทุรายอยู่ที่พื้น เจ็บปวดจนต้องร้องโหยหวนออกมา

หลี่ซื่อร้องคร่ำครวญกับจิ้นกั๋วกง “ท่านพ่อ ท่านดูสิ นางกระทำชั่วอย่างไร้ยางอาย”

“ใครกันที่กระทำชั่วอย่างไร้ยางอาย? เรื่องที่นางทำร้ายข้า พวกท่านทุกคนก็ต่างรู้ดี แต่มีสักคนไหมที่จะพูดช่วยข้าบ้าง? ล้วนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ใช่หรือไม่? ทุกคนคิดว่าข้าต้องเป็นผู้ที่ต้องสังเวยชีวิตเพื่อพวกท่านใช่ไหม? วันนั้นหลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น พวกท่านก็รู้ว่าข้าอยู่ที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วน ไม่มีใครมาถามไถ่ถึงอาการบาดเจ็บของข้าเลยสักนิด ข้าจึงกลับไปที่บ้านเดิมของข้า แต่ก็ไม่มีคนในจวนกั๋วกงคนใดไปเยี่ยมข้าสักคน จนกระทั่งวันนี้ที่ข้ากลับมาที่นี่ เมื่อเห็นบาดแผลของข้าแล้ว ก็ยังไม่มีใครถามไถ่สักคำ ความแค้นนี้ ข้าจะกำจัดมันออกไปได้อย่างไร”

“กำจัดไปไม่ได้แล้วเจ้าจะเอาเช่นไร?” จิ้นกั๋วกงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะถูกขับไล่ออกไปสินะ”

“จะไล่หรือไม่ไล่ ข้าก็จะไม่อยู่ที่จวนกั๋วกงแห่งนี้อีกแล้ว ไม่เพียงแค่นี้ ข้ายังจะไปฟ้องร้องที่ศาลาว่าการด้วย ทวงเงินทั้งหมดที่หลายปีมานี้จวนกั๋วกงได้ติดค้างข้าไว้ แต่ว่าบัญชีนี้ค่อยพูดถึงมัน ตอนนี้ข้ากำลังถามผู้หญิงชั่วช้าผู้นี้อยู่ว่าทำไมถึงต้องการจะให้ข้าถูกเผาตายอยู่ที่เรือนด้านข้าง?”

จิ้นกั๋วกงมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที เขานึกขึ้นมาได้ว่าหลายปีที่ผ่านมาล้วนเป็นเหลียงซื่อที่คอยดูแลค้ำจุนจวนแห่งนี้เอาไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะต้องคืนเงิน หากต่อไปไม่มีเหลียงซื่อคอยช่วยเหลือ อีกทั้งในจวนนี้ก็มีไม่กี่คนที่ทำงานในราชสำนัก อาศัยเพียงเงินภาษีที่ดินเพียงน้อยนิด จะไปใช้ดูแลจวนที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้อย่างไร?

“ไม่มีใครต้องการจะให้ท่านถูกเผาตายทั้งนั้น ใคร ๆ ก็ต่างพูดกันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุ” มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวอย่างโมโห

จื่ออันกล่าวอย่างเย็นชา “อุบัติเหตุ? มีอุบัติเหตุมากมายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ไปพูดกับทางศาลาว่าการเอาเถิด ใต้เท้าเซี่ย ไท่เป่าก็พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ท่านยังเน้นย้ำว่าเป็นอุบัติเหตุเช่นเดิมมิเปลี่ยน มีอะไรหรือไม่? ในเมื่อกล้าทำ แล้วเหตุใดถึงไม่กล้ายอมรับเล่า? ใช่ ทางศาลาว่าการจะไต่สวนอย่างไรก็เป็นเรื่องของพวกเขา ข้ากับฮูหยินรองเกือบจะต้องตายในกองเพลิงไปแล้ว บัญชีแค้นนี้ อย่างไรเสียก็ต้องชำระก่อนจะถึงมือของศาลาว่าการ”

“เจ้าจะชำระอย่างไร?” มหาเสนาบดีเซี่ยจ้องไปที่จื่ออัน ด้วยใบหน้าที่แลดูโมโหอย่างเต็มที่แล้ว

จื่ออันกล่าวด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “ง่ายมาก หากทางจวนมหาเสนาบดีอยากจะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ ข้าก็จะพูดกับทางศาลาว่าการอย่างระมัดระวัง แต่ว่าท่านจะต้องหย่ากับท่านแม่

“เจ้าฝันไปเถอะ!” มหาเสนาบดีเซี่ยไม่คิดอะไรทั้งนั้น ตอบปฏิเสธในทันที

จื่ออันพูดอย่างเคร่งขรึม “ก็ดี ตอนที่ทางศาลาว่าการมาหา ข้าจะบอกในสิ่งที่เซี่ยฉวนพูดเอาไว้ก่อนตาย ฮูหยินรอง ก่อนตายเซี่ยฉวน บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่า มหาเสนาบดีเซี่ย และซีเหมินเสี่ยวเยว่สามคนนี้ ร่วมกันสมรู้ร่วมคิดก่อเรื่องวางเพลิง ท่านได้ยินใช่หรือไม่?”

เหลียงซื่อให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “ทุกคำที่เซี่ยฉวนพูดออกมา ข้าได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ และทุก ๆ เสียงร้องโหยหวนของเขา ก็ล้วนอยู่ในสมองของข้า ข้าลืมไม่ลงอย่างแน่นอน”

จื่ออันยิ้มเย้ยหยัน จ้องไปที่มหาเสนาบดีเซี่ย “ท่านมหาเสนาบดีน่าจะคุ้ยเคยกับกฎหมายของต้าโจวอยู่แล้ว หากข้าให้การฝ่ายเดียวอาจดูไม่น่าเขื่อถือ แต่ถ้ามีฮูหยินรองเป็นพยานด้วยอีกคน มันก็จะดูน่าเชื่อถือขึ้นมา หากคำพูดนี้ ถูกใช้เป็นคำให้การ ท่านคิดว่าทางจวนมหาเสนานาบดีจะรอดไปได้อย่างนั้นเหรอ? ท่านกับฮูหยินผู้เฒ่าไตร่ตรองให้ดีเถิด ใช้ความสงบร่มเย็นของจวนมหาเสนาบดีมาแลกกับอิสรภาพของท่านแม่ข้า ใครจะได้เปรียบใครเสียเปรียบกันเล่า? ข้า เซี่ยจื่ออันคนนี้เป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก แม้ว่าการค้าขายจะไม่เป็นธรรม แต่ข้าก็จะไม่เอาเปรียบจวนมหาเสนาบดีของพวกท่านแม้แต่น้อย”

ทางฝั่งของเหลียงซื่อก็กล่าวขึ้นมาอย่างไม่ยอม “ไม่ได้ คุณหนูใหญ่ ทางฝั่งของท่านยอมความกันได้แต่ทางฝั่งข้ายังยอมความไม่ได้ หากผู้หญิงชั่วช้าคนนี้ไม่คุกเข่าโขกหัวขอโทษข้าครบหนึ่งร้อยครั้ง ข้าจะไม่ยอมปล่อยนางไปเด็ดขาด”

จื่ออันโบกมือ มองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าที่ตอนนี้โกรธจนหน้าแทบจะระเบิดออกมา “เช่นนั้นข้าก็หมดหนทางแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าช่วยเกลี้ยกล่อมลูกสะใภ้ท่านก่อนเถิด นอกจากท่านแม่ของข้าหยวนซื่อแล้ว ลูกสะใภ้คนอื่น ๆ ของท่านก็ล้วนเชื่อฟัง และฉลาดปราดเปรื่องกันทั้งนั้น”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท