ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 399

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 399

เฉินหลิวหลิ่วหยุดพูด แล้วจ้องมองไปที่ภาพวาดของจื่ออันด้วยดวงตาที่จดจ่อ “บุรุษผู้นี้คือใครกัน? ดูแข็งแรงกำยำ ทำไมถึงไม่วาดใบหน้าให้ชัดเจนเล่า? แล้วจุดสีดำ ๆ นี่มันอะไรกัน? เอ๋ ขนาดตรงส่วนนี้เจ้ายังวาดออกมาเลย? ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ไร้ยางอายเกินไปแล้ว”

จื่ออันตอบกลับด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “เช็ดน้ำลายของเจ้าด้วย อย่าให้มาแปดเปื้อนภาพวาดของข้า นี่คือภาพเส้นลมปราณกับจุดฝังเข็ม”

“ภาพจุดฝังเข็ม? คือเจ้าจะเอามาใช้ในการฝึกฝนทักษะทางการแพทย์อย่างนั้นหรือ?” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยถาม

“ถูกต้อง” จื่ออันเอาภาพไปเก็บ แล้วมองดูใบหน้าที่ผิดหวังของเฉินหลิวหลิ่ว ”รอจนกว่าเจ้าจะแต่งงาน ก็จะรู้ว่าร่างกายของบุรุษไม่ได้น่ามองอะไรถึงเพียงนั้น”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร? หรือว่าเจ้าเคยเห็น? เจ้าเคยเห็นของผู้ใด?” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยถามนางอย่างอยากรู้เสียเต็มเปี่ยม

“ไม่เคยเห็น”

“ถ้าเจ้าไม่เคยเห็น เหตุใดถึงวาดได้ชัดเจนขนาดนี้? โดยเฉพาะตรงนั้นของบุรุษ แต่ว่าข้าก็เคยเห็นนะ เคยเห็นของลูกพี่ลูกน้องข้า” เฉินหลิวหลิ่วทำท่าทางลึกลับ

“เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ!” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เอาล่ะ เจ้าบอกว่าวันนี้มีเรื่องที่จะต้องทำมิใช่หรือ? เหตุใดถึงยังไม่ไปทำอีกเล่า?”

“ไม่รีบ ตอนกลับก็แค่ต้องแวะไปที่จวนอ๋องหลี่ เพื่อเอาของบางอย่างไปให้ท่านย่าก็เท่านั้น”

“จวนของอ๋องหลี่?” จื่ออันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงคำว่าช็อกที่อ๋องหลี่พูด

“อย่างไรเสียวันนี้ข้าก็ไม่เรื่องอะไรให้ต้องทำอยู่แล้ว เช่นนั้นข้าไปที่จวนอ๋องหลี่เป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ช่วยเหลือข้ายังไม่ได้ไปขอบคุณเขาเลย” จื่ออันกล่าว

เฉินหลิวหลิ่วตอบกลับ “เช่นนั้นก็ดี ยังไงข้าก็ไม่ชอบคุยกับเขาอยู่แล้ว เพราะเขาเคร่งเครียดเกินไป”

จื่ออันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอ๋องหลี่จะเป็นคนทีทะลุมิติมาเหมือนนาง เช่นนั้นในยุคนี้ก็ยังมีคนที่มาจากยุคเดียวอยู่ด้วย จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง

แต่มันจะเป็นไปได้หรือ?

นางไม่คุ้นเคยกับประวัติในยุคนี้เอาเสียเลย การติดต่อค้าขายระหว่างต้าโจวกับต่างชาตินางก็รู้รายละเอียดไม่เยอะ และก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ยุคสมัยนี้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ มันคืออะไรกันแน่

การแพทย์ตะวันตกในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนแพทย์ เป็นวิชาที่มีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์ การทดลองและวิจัยเป็นองค์ประกอบใหม่ในการแพทย์ทั้งหมด หากอิงตามทฤษฎีแล้วน่าจะเริ่มใช้คำว่า ช็อกนี้ในศตวรรษที่สิบเจ็ด ซึ่งคำนี้มาจากภาษาอังกฤษ ตามการพัฒนาอารยธรรมในปัจจุบันของต้าโจว จึงสันนิษฐานว่าคำนี้น่าจะอยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง เช่นนั้นคำว่าช็อกนี้ไม่มีทางที่จะใช้พูดกันในช่วงเวลานี้แน่

ดังนั้นนางจึงตัดสินใจไปหยั่งเชิงอ๋องหลี่เสียหน่อย

พอพูดว่าจะไปก็ไปเลย จื่ออันให้ตาวเหล่าต้าอยู่ที่นี่ และให้เสี่ยวซุนติดตามนางกับเฉินหลิวหลิ่วไปด้วย

ตลอดเส้นทาง เฉินหลิวหลิ่วถามจื่ออันถึงภาพจุดฝังเข็มตลอดว่ามีวัตถุประสงค์อย่างอื่นอีกหรือเปล่า

จื่ออันพูด “ข้ารับปากฮองเฮาเอาไว้ว่าจะรักษาขาของอ๋องเหลียง ตอนนี้ร่างกายของเขาฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว โรคลมชักค่อยรักษา ต้องตัดขาทั้งสองของเขาออกก่อน”

เฉินหลิวหลิ่วตกใจมาก “จื่ออันเจ้าเย้าข้าเล่นใช่หรือไม่?”

จื่ออันยักไหล่ “ไม่ ข้าพูดจริง อ๋องเหลียงโหดเหี้ยมอำมหิต ทำร้ายผู้หญิงมามากมาย ตัดแค่ขาของเขาทั้งสองข้าง ถือว่าปราณีมากแล้ว

สีหน้าของเฉินหลิวหลิวดูจริงจังขึ้นมา เปลี่ยนท่าทีเล็กน้อย “จื่ออัน ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า”

“เรื่องอะไรงั้นหรือ?”

เฉินหลิวหลิ่วกล่าว “ความจริงแล้วเรื่องที่คนภายนอกพูดถึงอ๋องเหลียง ล้วนไม่ยุติธรรมกับเขา เขาไม่ได้โหดร้ายแม้แต่นิดเดียว เขาเป็นคนที่ดีมาก ตอนที่เจ้ารักษาให้เขาอย่าได้ทำร้ายเขาเลยนะ”

จื่ออันอดหัวเราะไม่ได้ “ได้ ข้ารู้ตั้งนานแล้ว แค่แกล้งเจ้าก็เท่านั้น จะว่าไปแล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนดี? เจ้ากับทางจวนอ๋องเหลียงสนิทสนมกันเหรอ?”

“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านย่าของข้า นางเป็นคนที่ชอบคุยโว ชอบคุยเล่นกับพวกแม่ทัพหนุ่ม ๆ มาก”

“อะไรนะ? ข้าฟังไม่ผิดใช่ไหม? เจ้าเพิ่งจะบอกว่าท่านย่าของเจ้าเป็นคนที่ชอบคุยโว?”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท