ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 438
ป้าชุ่ยยู่หยุดคำพูดลง นางเองก็พอจะรู้ว่าหลานยู่นั้นทำเกินกฎเกณฑ์ไป แต่ว่านางคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะปล่อยตามใจนาง
เพียงแค่ฮูหยินผู้เฒ่าให้ความโปรดปรานกับนาง ทำให้นางเลอะเลือนไป จนหลงลืมสถานะของตน
เรื่องของหลานยู่นั้น ปล่อยให้นางได้รับบทเรียนเป็นอุทาหรณ์ อันที่จริงแล้ว นางเองก็ค่อนข้างได้ใจจนหลงลืมไป จนไม่รู้ถึงสถานะของตน
หลานยู่หลังจากที่โดนตาวเหล่าต้าลากออกไปแล้วนั้น ยังคงส่งเสียงกรีดร้องเอะอะโวยวาย ตาวเหล่าต้าเริ่มจะโมโห เอ่ยข่มขู่ออกมาเสียงดัง “หากว่าเจ้ายังคงส่งเสียงเอะอะแล้วล่ะก็ ข้าจะตีเจ้าให้ฟันร่วงเสีย!”
หลานยู่คิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะสั่งให้คนตามมา ดังนั้นจึงไม่ได้แสดงความกลัวออกมา เอ่ยด้วยความโมโห “เจ้ากล้าหรือ? เจ้าหากว่ากล้าแตะต้องข้าแม้เพียงเส้นผม ฮูหยินผู้เฒ่าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ เจ้าสุนัขรับใช้ เจ้าสิ่งของที่มีมารดาคลอดออกมาแต่ไม่มีมารดาคอยเลี้ยงดู ถึงกลับกล้ามาหาเรื่องรังแกถึงบนหัวข้า”
ตาวเหล่าต้านั้นมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หากว่าสร้างความรำคาญให้แก่เขาแล้ว ทุบตีลงไปเป็นพอ อีกทั้งเขาพูดออกมาส่วนใหญ่แล้วมักจะลงมือทำตาม เมื่อได้ยินหลานยู่ยังคงด่าทอไม่หยุดพัก ยังด่าลามปามไปถึงมารดาของเขา โมโหจนไม่อาจลดละได้ จึงหันหลังกลับมาลงมืออกแรงตีปยังปากของหลานยู่ จนฟันสองซี่หลุดร่วงลงมา
หลานยู่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าลงมือตีนาง อีกทั้งลงมืออย่างโหดร้าย นางปิดปากของนางเอาไว้ ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมา
ตาวเหล่าต้าถึงได้ความเงียบสงบกลับคืนมา ลากนางมุ่งหน้าไปยังเซี่ยจื่อหย่วน
ระหว่างทางนั้นพบทาสรับใช้มากมาย เห็นว่าหลานยู่ถูกตาวเหล่าต้าลากไป มีความคิดที่จะเดินเข้ามาช่วยเหลือ แต่ว่าตาวเหล่าต้านั้นใบหน้าเต็มไปด้วยกลิ่นไอฆ่าล้าง ล้วนต่างพากันถอยห่าง ไม่กล้าจะเข้ามา
จื่ออันก่อนที่ตาวเหล่าต้าจะเข้ามานั้น ก็ได้ให้แม่นมหยางนำหยวนชุ่ยอวี่กลับห้องไปพักผ่อนเสียก่อน นางไม่อยากจะให้หยวนชุ่ยอวี่ได้มองเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือดรุนแรง
กลับมายังเซี่ยจื่อหย่วน ตาวเหล่าต้าผลักหลานยู่ในคราเดียว หลานยู่ก็เซลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้น
นางเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าจื่ออันใบหน้าดูมืดมนยืนอยู่ตรงหน้านาง ด้านหลังยังมีองค์หญิงใหญ่และคุณหนูตระกูลเฉิน นางไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจ เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาเพื่อเช็ดเลือดบนริมฝีปาก ส่งเสียงร้องตะโกนออกมา ด้วยความขุ่นเคือง “คุณหนูใหญ่ ทางที่ดีท่านควรมีคำอธิบายให้กับข้า!”
จื่ออันย่อกายลงเพียงครึ่งมองมายังนาง “ดี ข้าควรให้คำอธิบายอันใดกับเจ้า?”
เมื่อพูดจบ นางจึงประคองหลานยู่ขึ้นมา “ไม่ต้องคำนับข้าอย่างเอิกเกริกเยี่ยงนี้ก็ได้ ลุกขึ้นมาพูดคุยกันเถิด”
นางชะงักไปครู่หนึ่ง จึงดึงมือนางให้ลุกขึ้นยืน แต่ยังลุกยืนได้ไม่มั่นคงนัก จื่ออันจู่ ๆ ก็เตะลงไปที่ขาเล็ก ๆ ของนาง นางรู้สึกเจ็บปวด แล้วก็ได้คุกเข่าลงไปอีกครั้ง “เจ้า…”
จื่ออันครั้งนี้ไม่ได้พูดจาอ้อมค้อมอีก วางมาดท่าทีผู้ที่อยู่เหนือกว่ามองมายังนางด้วย ใบหน้าข่มเหงรังแก “เสี่ยวซุนและกุ้ยหยวนเล่า?”
หลานยู่ในตอนแรกนั้นโดนตาวเหล่าต้าทุบตี มาตอนนี้ยังโดนจื่ออันเตะ ในใจนั้นโกรธเป็นอย่างมาก หันกลับมาเหลือบมองแวบหนึ่ง พบว่าฮูหยินผู้เฒ่ายังไม่มา อดไม่ได้ที่ภายในใจจะรู้สึกตื่นตระหนก แต่ว่าก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่แล้วก็หายวับไป นางไม่เชื่อว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเก็บมือไว้ในแขนเสื้อแล้วคอยดูอยู่ข้างสนาม
นางลุกขึ้นยืน เอ่ยออกมาด้วยความทะนงตน “คุณหนูใหญ่นำข้ามาทั้งตบตี ทั้งดุด่า กลับต้องการถามถึงแค่บ่าวรับใช้สองคนไปที่ใดกัน ช่างน่าขบขันยิ่งนัก ข้ายังต้องมาช่วยคุณหนูใหญ่จดจ้องพวกเขาอีกหรือ? คนในจวนนี้ก็คงจะไม่ต้องทำงานกันแล้วกระมัง?”
“เสี่ยวตาว ใช่หรือไม่ใช่ว่าเป็นนางที่ให้เสี่ยวซุนและกุ้ยหยวนออกไปข้างนอก?” จื่ออันเอ่ยถามตาวเหล่าต้า
ตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ “คุณหนูใหญ่ ไม่มีทางผิดไปแน่ขอรับ เป็นแม่มดเฒ่าผู้นี้ที่ให้เสี่ยวซุนและกุ้ยหยวนออกไปซื้อของขอรับ”
จื่ออันจ้องมองหลานยู่ “หืม? ยังไม่ยอมพูดออกมาอีกหรือ?”
หลานยู่ยิ้มเย็น “คุณหนูใหญ่พูดออกมาเยี่ยงนี้ ข้าถึงได้จำขึ้นมาได้ ไม่ผิด ข้ามอบเงินให้แก่พวกเขาเพื่อที่ให้พวกเขาออกไปซื้อของ จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาอีกหรือ? มิไม่ใช่ว่าไปที่ใดเพื่อแอบอู้งานกันหรอกหรือ? ข้าถึงได้บอกว่าคนของเซี่ยจื่อหย่วนนั้นควรที่จะดูแลสั่งสอนให้ดี ช่างไม่รู้จักเคารพเชื่อฟังเสียจริง”