ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 455
ตาวเหล่าต้าเป็นคนที่จริงใจ เขานึกว่าหลานยู่ต้องการขอขมาจริง ๆ จึงถอนหายใจแรง แล้วรับชาไป “อย่าคิดว่ายกชาแล้วโขกหัวขอขมาแล้วเรื่องจะจบนะ เจ้าทำร้ายกุ้ยหยวนจนสาหัสขนาดนั้น ทั้งยังขายเสี่ยวซุนให้กับโรงเหล้าเดือนค้างฟ้าอีก แค่ชาจอกเดียวจบเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะ”
หลานยู่จ้องไปที่ชาจอกนั้น แสดงท่าทีที่ดูนับถืออย่างเปี่ยมล้น “บ่าววู่วามไปชั่วขณะ ทำร้ายกุ้ยหยวนกับเสี่ยวซุน สายเกินไปที่จะกลับใจ คุณหนูใหญ่จะจัดการกับบ่าวอย่างไร บ่าวจะไม่โทษท่านเด็ดขาด แต่ว่าคุณหนูใหญ่โปรดอย่าได้กล่าวโทษฮูหยินผู้เฒ่าเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้เป็นแผนของบ่าวเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฮูหยินผู้เฒ่าแม้แต่น้อย”
จื่ออันรับจอกชามาจากตาวเหล่าต้า นางเปิดฝาออกเหลือบมองเล็กน้อย แต่กลับไม่รีบดื่ม
หลานยู่กลืนน้ำลายดังเอื๊อก กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระชับแน่น มองตรงไปอย่างจดจ่อ แล้วกำมือทั้งสองไว้ เห็นได้ว่านางประหม่าเป็นอย่างยิ่ง
ฮูหยินผู้เฒ่าเหลือบมองไปที่ชุ่ยยู่ด้วยสายตาที่ดุร้าย นางเข้าใจความหมายดี จึงก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าว “คุณหนูใหญ่ ดื่มชาตอนดึกไม่ดีนะเจ้าคะ จะทำให้นอนไม่หลับ บ่าวจะเอาไปเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าให้ท่านเองเจ้าค่ะ”
“ชุ่ยยู่” หลานยู่ขึ้นเสียงดุนางในทันที “นี่คือชาที่ข้าใช้ขอขมาคุณหนูใหญ่ เจ้าอย่าได้มากความ”
จื่ออันมองจอกชาที่ถือไว้อยู่ แล้วก็มองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า มีท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ “ท่านย่าเจ้าขา ท่านพูดสิเจ้าคะ มอบตัวหลานยู่ให้แก่ข้า หรือว่าจะให้ข้าส่งชาจอกนี้ไปให้ทางศาลดีเจ้าคะ?”
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเรียกว่าท่านย่า เรียกออกมาแล้วทำให้คนรู้สึกได้ถึงความฉุนเฉียวที่เย็นชา
ไหล่ของฮูหยินผู้เฒ่าค่อย ๆ ตก นางจ้องไปที่หลานยู่มองดูนางอยู่ครู่หนึ่ง น่าเจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้
สีหน้าของหลานยู่เปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันที
เซี่ยจื่ออันรู้ตั้งแรกแล้วว่าในชานั้นมียาพิษ
ใช่ ฮูหยินผู้เฒ่าพูดถูก นางไม่ใช่เซี่ยจื่ออันคนเก่าก่อนอีกแล้ว แต่ตนเองไม่อยากจะเชื่อ เพราะตลอดมา สำหรับนางแล้วเซี่ยจื่ออันนั้นอ่อนแอและโง่เขลามาก นางจึงลืมไปว่าช่วงไม่นานมานี้ การกระทำของเซี่ยจื่ออันที่แสดงออกมาไม่เพียงแต่จะปราดเปรื่อง แต่ยังมีเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวอีกด้วย
นางไม่ใช่คนที่ประเมินศัตรูต่ำไป แต่ประเมินตนเองสูงไปต่างหาก
อีกทั้งที่ชุ่ยยู่พูดก็ถูก ฮูหยินผู้เฒ่าจะมาเห็นคุณค่าของนางได้อย่างไร นางก็เป็นแค่บ่าวรับใช้เท่านั้น
“ฮูหยินผู้เฒ่า ช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ!” ความตื่นตระหนกอันใหญ่หลวงถาโถมเข้าสู่ใจของหลานยู่ นางมองไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า แล้วกล่าววิงวอนอย่างสิ้นหวัง
ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่จื่ออันด้วยท่าทีที่ปราชัย “บอกข้ามา ว่าเจ้าจะจัดการกับนางอย่างไร?”
ดวงตาของจื่ออันมีประกายทำลายล้างอย่างชัดเจน “จุดนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ต้องมาแทรกแซงเจ้าค่ะ!”
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าแลดูอ้อนวอนเล็กน้อย “อย่างไรเสียนางก็ติดตามข้ามาเนิ่นนานหลายปี เจ้าอย่าได้ทำให้นางลำบากเลย”
จื่ออันคิดว่าตนเองฟังผิดไป ส่งชาที่ถืออยู่ให้แก่ตาวเหล่าต้า “ฮูหยินผู้เฒ่าท่านกำลังบอกข้าว่า อย่าทำให้นางลำบากเหรอเจ้าคะ?”
ใบหน้าที่แลดูอ้อนวอนแปรเปลี่ยนไปเป็นความโมโห แต่ก็ยังต้องกลั้นใจกล่าวออกไป “ใช่ อย่าทำให้นางลำบากจนเกินไป”
จื่ออันเหยียดหลังตรง ใบหน้าเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาอย่างเปี่ยมล้น “ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าขอพูดอะไรกับท่านเป็นการส่วนตัวได้ไหมเจ้าคะ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องไปที่จื่ออัน ราวกับว่าพยายามที่จะหยั่งถึงความคิดที่อยู่ในใจนาง เป็นเวลานานกว่าที่นางจะยกมือขึ้น “ออกไปกันก่อน”
หลานยู่เงยหน้าขึ้น กล่าวกับเซี่ยจื่ออันด้วยใบหน้าที่สิ้นหวัง “คุณหนูใหญ่ เจ้าอย่าได้รังแกกันให้มากนัก ข้าไม่กลัวว่าเจ้าจะไปร้องทุกข์ที่ศาล เพียงแค่ข้าไม่ยอมรับ เจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้แล้ว”
จื่ออันยิ้มอย่างเมินเฉย “ป้าหลานยู่ เมื่อก่อนข้าคิดว่าท่านจะเฉลียวฉลาด แต่ว่าตอนนี้ก็รู้แล้วว่าท่านนั้นโง่เขลายิ่งนัก ข้าพาตัวเสี่ยวซุนออกมาจากโรงเหล้าเดือนค้างฟ้าได้ อีกทั้งกุ้ยหยวนก็ยังมีชีวิตอยู่ การหาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ท่านคิดว่ายากอย่างนั้นหรือ? จะว่าไปแล้ว ถึงแม้จะตรวจสอบไม่เจอสิ่งใด ทว่าการที่ข้าจะโยนความผิดให้แก่ท่านนั้น คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากเย็นเช่นนั้นรึ?”
หลานยู่ลุกขึ้นมาในทันที แล้วชี้ไปที่จื่ออัน “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านก็ได้ยินแล้ว นางต้องการปรักปรำบ่าว ท่านจะต้องไม่ปล่อยนางไปนะเจ้าคะ เห็นแก่ที่บ่าวรับใช้ท่านมาหลายปี ท่านจะต้องอธิบายต่อศาลให้กระจ่างด้วยเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าหลับตาลงอย่างช้า ๆ แล้วยกมือขึ้น “พาออกไปเถิด ข้าก็แค่อยากยุติความขัดแย้ง ใช้ชิวิตอย่างสวบสุขไปวัน ๆ อย่ามากวนใจข้าอีก ไปซะ ออกไป”
ในห้องโถงใหญ่ เหลือเพียงนางกับจื่ออันเพียงสองคนแล้ว