ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 491
หลังจากที่เซี่ยหว่านเอ๋อจากไป ทุกคนก็ต่างรู้สึกแย่แทนหูฮวนสี่ และทยอยด่าทอคุณหนูรองตระกูลเซี่ยว่าเป็นคนที่อหังการทำอะไรตามอำเภอใจ
หูฮวนสี่ก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้าเดินเข้าไปในสำนักสืออ้ายหย้วน
ในเวลาเดียวกัน เซี่ยหว่านเอ๋อก็นั่งบนรถม้าแล้วจากไป
สาวใช้ยิ้มพลางพูดไปพลาง “ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหูเก่งกาจอย่างโน้นอย่างนี้ บ่าวดูแล้วคงเป็นแค่คำพูดที่เลื่อนลอยเสียกระมัง ถูกคุณหนูรองข่มขู่ขนาดนั้น นางไม่กล้าพูดตอบโต้มาแม้นเพียงสักคำเดียว ดูท่าทางที่ขี้ขลาดนั่นสิเจ้าคะ ยังจะกล้าคิดไปอภิเษกกับองค์รัชทายาทอีก”
ครั้งนี้เซี่ยหว่านเอ๋อถือว่ายอมเสี่ยงทุกอย่าง แต่นางก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว หากไม่ขจัดความคิดที่จะปีนป่ายขึ้นที่สูงของหูฮวนสี่ จนทำให้องค์รัชทายาทชอบพอนางขึ้นมามันก็จะยุ่งยากขึ้นไปอีก
แม้จะบอกว่าการกระทำในวันนี้จะเป็นการทำลายภาพลักษ์ของตนเองเหมือนกัน แต่ประชาชนคนระดับล่างพวกนี้ ต่อไปนางก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแล้ว จะสนทำไมว่าพวกเขาจะมองนางอย่างไร?
นางพูดด้วยน้ำเสียงที่เกลียดชัง “ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาขวางเส้นทางที่จะนำข้าไปสู่ตำแหน่งพระชายาเอกขององค์รัชทายาทเป็นแน่ หากมีครั้งต่อไปอีก ข้าจะทำให้ขาทั้งสองของนางหักต่อหน้าข้าอย่างแน่นอน”
นี่เป็นความฝันหนึ่งเดียวในชีวิตของนาง นางลงทุนลงแรงเพื่อสิ่งนี้ไปมากมายแล้ว หวงไท่โฮ่วก็ยังไม่มีพระราชเสาวนีย์ลงมาเสียที ทำให้ฮองเฮาที่ถึงแม้จะพระราชทานงานอภิเษกลงมาแล้ว แต่ก็กลับยังไม่มีการกำหนดวัน นางร้อนใจ และแม้ว่านางจะปลอบใจตัวเองอยู่เสมอ แต่นางก็รู้ดีว่าท่ามกลางเรื่องเหล่านี้ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่นางต้องทำในตอนนี้ก็คือ กำจัดคนที่จะเป็นภัยต่อนางออกไปทีละคน ๆ
โดยเฉพาะแม่ค้าอย่างหูฮวนสี่ผู้นี้ จงอย่าได้คิดฝันมาช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากนาง
“คุณหนูรอง ทางข้างหน้ามีรถม้าพลิกคว่ำอยู่ ผ่านไปไม่ได้ขอรับ” คนขับรถม้าเปิดม่านบอกกล่าวนาง
เซี่ยหว่านเอ๋อเหลือบมองเล็กน้อย มีรถม้าพลิกคว่ำอยู่ที่พื้นจริง ๆ ซึ่งกีดขวางเส้นทางอยู่
“เปลี่ยนเส้นทางเถิด” เซี่ยหว่านเอ๋อกล่าว
“ขอรับ บ่าวจะเปลี่ยนเส้นทาง” คนขับรถม้าหวดแซ่ลงไปที่ม้า เบี่ยงให้รถม้ามาทางด้านขวา ด้านนี้มีทางแคบ ๆ เล็ก ๆ อยู่ น่าจะเพียงพอให้รถม้าผ่านไปได้
รถม้าขับเคลื่อนมาได้ครึ่งทาง ก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง
เซี่ยหว่านเอ๋อเปิดม่านออกอย่างไม่สบอารมณ์ “เกิดอะไรขึ้น?”
ที่ด้านหน้ารถม้า มีชายหนุ่มสองสามคนยืนอยู่ และมีคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาหนึ่งคน นั่นก็คือคนที่นางเพิ่งจะตบไปเมื่อครู่นี้หูฮวนสี่นั่นเอง
ตอนนี้นางยืนกอดอกอยู่ด้านหน้าของรถม้า ใบหน้าหาได้ดูอ่อนแอเหมือนเมื่อครู่นี้ไม่ ตรงกันข้าม นางกลับทำท่าทางเหมือนเป็นอันธพาล
“เจ้าเองเหรอ?” เซี่ยหว่านเอ๋อยิ้มเย้ยหยัน พอลงจากรถม้า นางก็ไปยืนอยู่ต่อหน้าหูฮวนสี่ “มีอะไร?”
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปากของหูฮวนสี่ จากนั้นก็ถีบเข้าที่ท้องน้อยของนางในทันที แล้วตามด้วยหมัด จนเซี่ยหว่านเอ๋อส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างน่าเวทนา
เซี่ยหว่านเอ๋อแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ยอมนางทุกอย่างเมื่อครู่นี้ จะเปลี่ยนไปเป็นคนที่ดุร้ายเหมือนปีศาจ นางยื่นมือออกไปขัดขืน แต่ว่าหูฮวนสี่ต่อยรุนแรงและหนักหน่วงมาก ต่อยออกไปสามสี่หมัดจนทำให้นางร่วงลงไปที่พื้นทันที
คนขับรถม้ากับสาวใช้รีบก้าวมาข้างหน้า แต่ก็ถูกคนที่หูฮวนสี่พามาด้วยกันพวกเขาออกไป หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาว่า “มีหนี้ก็ต้องชำระ ก็แค่ตบตีเซี่ยหว่านเอ๋อ ใครไม่เกี่ยวถอยไป เพื่อไม่ให้โดนลูกหลง”
คนขับรถม้ากับสาวใช้เห็นดังนั้นก็ตกใจจนไม่กล้าเข้าไปใกล้
แต่ตรงปากทาง กลับไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เต็มไปด้วยคนหาบเร่มาขายน้ำมันต้นถง นั่งพูดคุยกันอยู่ตรงปากทาง ตัดทางเข้าออก เดิมทีก็พูดคุยกันอยู่ดี ๆ แต่จู่ ๆ ก็ทะเลาะกันขึ้นมา และก็ทะเลาะกันเสียงดังมาก ดันกันไปดันกันมา เอะอะโวยวาย เสียงนั้นกลบเสียงร้องโหยหวนที่ถูกกระหน่ำต่อยซึ่งดังมาจากในซอยลึกนั่นได้
“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเป็นคนก็คือ การที่ถือดีเกินไป เซี่ยหว่านเอ๋อจงจำบทเรียนครานี้เอาไว้ให้ดี หากวันหน้าเจ้ายังไม่ตาย นั่นก็เป็นเพราะการที่ข้าได้สั่งสอนเจ้าในวันนี้” หลังจากหูฮวนสี่ต่อยเสร็จ ก็ยื่นมือไปลูบหมัดเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
เซี่ยหว่านเอ๋อถูกชกจนฟันหลุดออกมาซี่นึง นางพ่นเลือดออกมา จากนั้นก็บังคับตนเองให้ยืนขึ้น แล้วจ้องมองไปที่หูฮวนสี่ “ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ฝากไว้ก่อนเถิด”
หูฮวนสี่จัดชุดให้เรียบร้อย จากนั้นก็จัดผมให้เป็นระเบียบพลางกล่าว “เชิญ!”
พูดจบ คนที่พามาด้วยก็เข้าไปยังซอยของบ้านพักชาวบ้านที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นก็ออกจากบ้านนั้นด้วยประตูอีกบานหนึ่ง