ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 500

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 500

มหาเสนาบดีเซี่ยตกตะลึงไปอยู่ชั่วขณะ เอ่ยออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “เจ้า คำพูดนี้ไปฟังมาจากผู้ใดเอ่ยกัน? ไม่มีอะไรทั้งนั้น บุตรสาวข้านั้นเป็นเพียงสตรีที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน จะไปรู้ทักษะทางการแพทย์ได้เยี่ยงไรกัน?”

จิ้นกั๋วกงส่งเสียงฮึมฮัมแล้วเอ่ย “มหาเสนาบดีเซี่ยอย่าได้ถ่อมตนไปเลย เซี่ยจื่ออันนั้นรักษาโรคลมบ้าหมูของอ๋องเหลียงจนหายดี แม้แต่ท่านเองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในเพียงระยะเวลาสั้นก็สามารถรักษาจนหายได้ นี่ไม่ใช่หลักฐานที่ว่าทักษะทางการแพทย์ของนางนั้นสูงส่งหรอกหรือ?”

หวงไท่โฮ่วเมื่อได้ฟังคำนี้ ก็ยินดียิ่งนัก มองมายังมหาเสนาบดีเซี่ย “อ้ายชิง จื่ออันนั้นรู้วิธีการรักษาโรคระบาดนี้หรือไม่?”

มหาเสนาบดีเซี่ยแสดงท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ทูลคำของหวงไท่โฮ่ว นางจริง ๆ แล้วเคยเอ่ยว่ามีความเข้าใจอยู่บ้าง แต่ว่าก็เป็นเพียงความเข้าใจเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่เข้าใจไปทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”

“จริงรึ? นางเอ่ยออกมาเยี่ยงนี้จริง ๆ รึ?” หวงไท่โฮ่วเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นเต้น

มหาเสนาบดีเซี่ยผงกศีรษะ “พ่ะย่ะค่ะ”

ราชครูเหลี่ยงกลับเอ่ยออกมา “มหาเสนาบดี นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาแก่งแย่งชิงดีกัน อย่าได้พูดจาเหลวไหลออกมา”

มหาเสนาบดีเซี่ยเมื่อได้ฟังคำประโยคนี้ ถึงกับโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ “ราชครู ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน? ข้าเป็นคนประเภทที่คอยจ้องแต่แสวงหาผลประโยชน์ เมื่อบ้านเมืองกำลังเจอกับวิกฤตหรือไร?”

จิ้นกั๋วกงเอ่ยตอบกลับไปในทันที “ผู้คนด้านนอกถึงแม้จะเอ่ยกันว่าเซี่ยจื่ออันนั้นรู้วิธีรักษาโรคระบาดนี้ แต่ว่าตัวข้านั้นไม่มีทางเชื่อ หากเซี่ยจื่ออันรู้วิธีการรักษาโรคระบาดนี้ คงจะแสดงตัวออกมาตั้งแต่ตอนต้นแล้ว ใยถึงต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วย? ข้านั้นไม่ได้จะขัดขวางความดีความชอบของมหาเสนาบดี เพียงแต่เรื่องนี้นั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ท่านไปให้ความหวังแก่ทุกคนอย่างสุ่มสี่สุมห้า และยังทำให้หวงไท่โฮ่วและท่านอ๋องมีพระวินิจฉัยที่ผิดพลาดไป เมื่อถึงตอนนั้นโรคระบาดแพร่กระจายออก ท่านมหาเสนาบดีเซี่ยต่อให้มีศีรษะสักอีกกี่ร้อย ก็ไม่เพียงพอให้ตัดทิ้งหรอก”

มหาเสนาบดีเซี่ยโมโหจนตัวสั่น “จิ้นกั๋วกงอย่าได้รังแกกันเกินไป ข้านั้นกำลังขอพระราชทานโองการแทนบุตรสาวของข้าในที่แห่งนี้ หากว่าบุตรสาวข้าภายในครึ่งเดือนนี้มิอาจที่จะศึกษาวิธีควบคุมโรคระบาดนี้ได้ ก็มาเอาศีรษะบุตรสาวข้าไปได้เลย”

อ๋องหลี่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด เมื่อได้ยินคำประโยคนี้ของมหาเสนาบดีเซี่ยแล้ว กลับอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “เจ้าขอพระราชโองการแทนบุตรสาว แต่กลับใช้ศีรษะของเซี่ยจื่ออัน มันดูไม่ค่อยจะสอดคล้องกันนัก”

มหาเสนาบดีสีหน้าดูเปลี่ยนไป

มู่หรงเจี๋ยหันไปมองยังด้านขององค์รัชทายาทด้วยใบหน้าเฉยเมย “องค์รัชทายาท ท่านก็ลองเอ่ยความคิดเห็นของท่านดูเสียเล็กน้อยเถิด”

องค์รัชทายาทที่ยืนหลบมุมอย่างเกียจคร้านมาโดยตลอด เรื่องราวในวันนี้เขาเองก็มิได้เก็บเอามาใส่ใจนัก เขายังคงคิดถึงเรื่องของตระกูลหูอยู่ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องของเซี่ยหว่านเอ๋อขึ้น เมื่อวานได้เชิญหูหวนสี่มา แต่กลับถูกปฎิเสธออกไป เขานั้นโมโหอยู่ในอก แต่กลับรู้ดีว่าทุกอย่างนั้นจะต้องโทษไปที่เซี่ยหว่านเอ๋อ

ดังนั้น เมื่อได้ฟังคำที่มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถาม จู่ ๆ ก็นึกถึงคำที่ราชครูเอ่ยเอาไว้ จึงได้เอ่ยมาว่า “ข้าเองก็รู้สึกว่า หากว่าจะขอพระราชทานโองการแล้วนั้น ก็ควรที่จะใช้ศีรษะของเซี่ยจื่ออัน และหน้าที่การงานของมหาเสนาบดีเซี่ยมาทูลขอ อย่างนี้ถึงได้ยุติธรรม”

มหาเสนาบดีเซี่ยเงยหน้าขึ้นมามองไปยังองค์รัชทายาท แววตาดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก

หวงไท่โฮ่วเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอพระทัย “ให้จื่ออันไปรักษาก็พอแล้ว ยังจะมาขอคำสั่งทหารอะไรกันอีก?”

ราชครูจึงได้เอ่ยออกมา “หวงไท่โฮ่ว จริง ๆ แล้วประทานคำสั่งทางทหารลงมาก็ดีเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ อย่างน้อย ก็สามารถทำให้เซี่ยจื่ออันไม่หมดแรงที่จะศึกษาหาสูตรการรักษาโรค หากว่ามิได้เพิ่มความกดดันเข้าไป นางอาจจะมิได้ใช้ความพยายามถึงที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”

หวงไท่โฮ่วมองไปทางด้านของมู่หรงเจี๋ยอีกครั้ง “เจ้าเห็นว่าอย่างไร?”

มู่หรงเจี๋ยนั้น วันนี้ยังไม่ได้เอ่ยความเห็นใดออกมา สีหน้าเองก็แสดงออกมาอย่างเฉยเมย ราวกับเรื่องที่ถกเถียงกันในวันนี้นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับเขา

แต่ว่าทุกคนต่างก็ล้วนแต่รู้กันดีว่า เขาวันนี้เมื่อขึ้นหลังเสือไปแล้วยากที่จะลงมานัก หากว่าโรคระบาดนี้ยังมิอาจที่จะควบคุมได้ ก็อาจจะก่อให้เกิดจราจลขึ้นมาได้จริง ๆ

ดังนั้นสำหรับมู่หรงเจี๋ยแล้ว การเลือกที่จะเผาทำลายหมู่บ้านทิ้งอาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็เป็นได้

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท