ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 574
เมื่ออยู่ในวังหลังมานานหลายปี แน่นอนว่าย่อมรู้ดีว่าความคิดเช่นนี้นั้นดูไร้เดียงสา แต่แล้วจะอย่างไร? พวกนางนั้นต่างก็เป็นพี่น้องกันแท้ ๆ
หลังจากนั้นสามวัน
พิธีอภิเษกก็ถูกจัดขึ้นตามกำหนดการ
ทางด้านมู่หรงเจี๋ยนั้นจัดการได้อย่างว่าง่าย เพราะว่าถูกเกลี้ยกล่อมเอาไว้แล้ว แต่จื่ออันนั้นกลับไม่ยอมที่สวมใส่ชุดแต่งงาน
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าหญิงชราทั้งสองไม่ได้คิดที่จะเอ่ยเกลี้ยกล่อมนาง ผู้เฒ่าออกคำสั่งลงมาทันที “ทำอะไรอยู่? ตีให้สลบแล้วโยนขึ้นเรือไป มัดเอาไว้ให้ดี แล้วส่งขึ้นเกี้ยวเสีย”
อาเฉอหยิบไม้ติดมือเดินไปทางจื่ออัน จื่ออันเมื่อมองเห็นท่อนไม้หนาใหญ่ในมือนั้น ก็เอ่ยออกมาแต่โดยดี “ข้าจะไปเปลี่ยนชุดแต่งงาน”
อาเฉอหันกลับไปมองยังผู้เฒ่า “ว่าง่ายเช่นนี้เชียวหรือ?”
“สามารถเอาชนะได้เพียงครั้งเดียว ก็อย่าได้เปรียบเทียบสุ่มสี่สุ่มห้า” ผู้เฒ่าหันหลังกลับ แล้วปล่อยนกพิราบออกไป พบเพียงตรงขอบฟ้านั้น ก็ปรากฏเรือลำหนึ่งออกมา
ในใจของจื่ออันนั้นมีแผนการอยู่แล้ว ตอนนี้ให้ทำทีเป็นเชื่อฟังก่อน รอจนเมื่อเรือกลับถึงชายฝั่ง ก็ให้เริ่มแผนการหลบหนี
ที่น่าเศร้าที่สุดคงเป็นแหวนของนางที่ถูกนำไป แล้วมอบเชือกขาด ๆ กลับมาให้นางเท่านั้น และไม่รู้ว่าใช้ทำอะไรได้บ้าง นางรังเกียจจนโยนเชือกบ่วงบาศนั้นลงบนพื้น ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในป่า
และเชือกบ่วงนาศนั้นเผยให้เห็นว่ามันมีประโยชน์ ท้ายที่สุดแล้วมันผูกติดเอาไว้อยู่บนข้อเท้าของนาง
นางถูกมัดเอาไว้แล้วเหวี่ยงขึ้นบนเรือ ต่อให้นางจะหลักแหลม ก็ไม่สู้ความเจ้าแผนการของหลงจ่านเหยียน
หลังจากที่ขึ้นเรือไปแล้ว จื่ออันก็ถูกโยนเข้าไปภายในห้องของเรือ
นางเย้ยหยันออกมา “คิดหรือว่าเจ้าเชือกผุพังเช่นนี้จะมัดข้าเอาไว้ได้?”
นางดึงกริชออกมา กริชเล่มนี้ยังไม่ถูกยึดไป ในเวลานี้จึงยังมีประโยชน์อยู่บ้าง
นางรู้ดีว่ากริชเล่มนี้คมเพียงใด ตัดเชือกผุพังนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายหรอกหรือ
ทว่าตัดไปชั่วครู่หนึ่ง เชือกบ่วงบาศกลับไม่มีทีท่าว่าจะขาดลง ไม่เพียงแต่ไม่ขาด กระทั่งยังไม่มีร่องรอยขาดแม้แต่น้อย
นางกรุ่นโกรธเป็นอย่างมาก ตกลงแล้วนี่มันทำจากอะไรกัน? แข็งยิ่งนัก
นางดิ้นรนและถูอย่างแรง กลับพบว่าไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร เชือกบ่วงบาศกลับยิ่งมัดแน่นขึ้น
นางรู้สึกได้ว่าเชือกผุพังนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เชือกขาดเท่านั้น
เมื่ออาเฉอเปิดประตูเข้ามา ในมือถือผลไม้อยู่สองผล เหลือบมองไปยังกริชที่อยู่ในมือของนาง จึงยิ้มเยาะเย้ยออกมา “เจ้าเก็บแรงเอาไว้เถิด เชือกบ่วงบาศไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะตัดทำลายลงได้”
จื่ออันเอ่ยออกมาด้วยความโกรธ “พวกท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไร? ปล่อยข้าไปนะ”
“หากว่าแต่งงานไปแล้วแน่นอนว่าย่อมปล่อยเจ้าไป เจ้าจะรีบร้อนอะไร? เมื่อถึงเวลานั้น หากว่าเจ้าต้องตาเจ้าโง่นั่นของพวกเราแล้ว คงจะขอบคุณพวกเราเสียแทบไม่ทัน” อาเฉอนำผลไม้วางลงบนโต๊ะ “กินเสียเถิด กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรงหลบหนีได้”
จื่ออันเริ่มจะหิวแล้วจริง ๆ และเพื่อผ่อนคลายการป้องกันของพวกนาง ก็เลยหยิบผลไม้ขึ้นมากิน
เพิ่งจะกินไปได้แค่สองคำเท่านั้น นางก็รู้สึกวิงเวียนขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายของนางก็เริ่มหมุนขึ้น
นางมองดูผลไม้ในมือด้วยความประหลาดใจ นี่มันผลไม้อะไรกัน? มีพิษ?
ก่อนที่จะล้มลงบนพื้น นางมองไปยังใบหน้าที่ยิ้มได้ใจของอาเฉอ “เจ้าเด็กโง่ คิดจะหลบหนี? นั่นมันเป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ใช่คนสารเลวเหล่านั้นที่เจ้าเคยเผชิญหน้ามาก่อนหน้านั้น”
“ฝากเอ่ยทักทายคนในครอบครัวของเจ้า!” จื่ออันเอ่ยพึมพำออกมา ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ