ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 576

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 576

ที่เรียกว่าตระกูลมั่งคั่งนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเปิดเพียงแค่ร้านเดียวในเมืองหลวงแล้วจะเรียกว่ามั่งคั่งได้ เช่นดั่งตระกูลหู ตระกูลเหลียงที่เป็นตระกูลใหญ่เหล่านั้นถึงจะถูกเชิญ

หูฮวนสี่ทำเป็นแบบอย่าง นางส่งเงินจำนวนหนึ่งหมื่นตำลึงไปยังจวนผู้สำเร็จราชการแทน และถือได้ว่านางเป็นแขกผู้มีเกียรติ

ด้วยเพราะเหตุนี้ ก็มีผู้ที่ทำตามตั้งแต่หนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง สองหมื่นตำลึง ไม่ว่าใครก็ตามแต่ ล้วนแต่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นแขกผู้มีเกียรติของจวนผู้สำเร็จราชการแทน

ส่วนขุนนางนั้นแน่นอนว่าย่อมไม่กล้าที่จะส่งมอบมากจนเกินไป ทางด้านของเหล่าไท่จวินว่าเอาไว้ว่า หนึ่งพันตำลึง หากว่ามากจนเกินไปก็อาจจะถูกสงสัยได้ว่ามีการทุจริตกันเกิดขึ้น เพราะว่าอย่างไรแล้ว หนึ่งพันตำลึงนั้นก็ถือว่ามากพอแล้ว

ทว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น โดยมากแล้วจะเป็นจำพวกขุนนางที่จำต้องมีลูกคิดอยู่ในใจ สองแขนว่างเปล่าโดยแท้ ก็นำไก่ไปจริง ๆ ได้ เป็นของขวัญล้ำค่าใช่หรือไม่? เช่นนั้นก็เพิ่มไข่ไปอีกตะกร้าหนึ่งก็แล้วกัน

เซียวท่าโมโหจนไม่ยอมไปร่วมงานเลี้ยงแต่งงาน แต่ก็ยังเป็นเซียวเซียวที่ลากเขาไป ขณะที่ไปนั้นก็ตำหนิเขาไปพลาง “ผู้อื่นจะไม่ไป เจ้าก็ควรจะไป เจ้าไม่ใช่ไม่รู้หรือว่า ท่านอ๋องเองก็ไม่อาจจะทำอันใดได้ แล้วทำไม่ถึงได้ทำเป็นเล่นเช่นนี้อีก?”

เซียวท่าเอ่ยออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “เขาควรจะแต่งกับเซี่ยจื่ออัน ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ค่อยชอบเซี่ยจื่ออันนัก แต่ทว่านอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะเหมาะกับตำแหน่งของพระชายาผู้สำเร็จราชการแทนแล้ว”

“เจ้าเองก็ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ยังจะกล้าเอ่ยออกมาเช่นนี้อีก?” เซียวเซียวตะคอกดังออกมา

“ไม่ว่าใครก็ไม่คู่ควร มีเพียงแค่นาง” เซียวท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังคงไม่ยินยอม “ไท่หวงไท่โฮ่วทำไมถึงได้ทำเช่นนี้? บีบบังคับให้ท่านอ๋องแต่งงานแล้วมีประโยชน์อะไร? มาตอนนี้เรื่องราวต่าง ๆ ในเมืองหลวงมีมากจนเกินไป เซี่ยหวายจุนก็ยังไม่ถูกตัดสิน จวนมาเสนาบดีก็มีเพียงแค่ฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้นที่ตายไป ก็คิดที่จะปล่อยมันไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”

จวนมหาเสนาบดีเป็นผู้สร้างเรื่องโรคผีดิบขึ้นมา ทำให้ผู้คนล้มตายไปมาก เซี่ยจื่ออันเองก็ตายไปแล้ว ยังมิทันได้จัดการจวนมหาเสนาบดี แต่กลับมาเรียกให้ผู้สำเร็จราชการแทนอภิเษกสมรส ก็ไม่รู้เช่นกันว่าหมายความว่าอย่างไร

“ไม่ใช่ว่าจะไม่จัดการ นี่ไม่ใช่ว่ากำลังจัดการอยู่อย่างนั้นหรือ? เซี่ยหวายจุนมีโทษเพียงข้อนี้ข้อเดียวอย่างนั้นหรือ?” เซียวเซียวเอ่ยออกมาด้วยท่าทีที่ไม่ดีนัก

สีหน้าของเซียวท่าถึงได้ดูดีขึ้นมา “ตามหาเฉินหลิงหลงพบแล้วหรือไม่? นางเอาเงินจากจวนมหาเสนาบดีไปด้วย นั่นมันเป็นของจื่ออัน ต่อไปหากจื่ออันกลับมา พวกเราจะบอกกับจื่ออันว่าอย่างไร?”

เซียวเซียวหยุดฝีเท้าลง ขมวดคิ้วแล้วมองมายังเขา “เซียวท่า อายุของเจ้าเองก็ไม่น้อยแล้ว ความคิดอย่าได้บริสุทธิ์จนเกินไป เซี่ยจื่ออันไม่มีทางกลับมาแล้ว เจ้าเองก็อย่าได้เอ่ยถึงเซี่ยจื่ออันเมื่ออยู่ต่อหน้าของท่านอ๋อง ทุกวันนี้อารมณ์ของทุกคนยังไม่ดีนัก ทำใจเสียเถอะ”

เซียวท่าเองก็ไม่เอ่ยอันใดออกมาอีก ทว่าในใจยังคงรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก เขาหวังว่าเซี่ยจื่ออันจะต้องกลับมา ถึงแม้ว่าโอกาสรอดชีวิตจะเป็นศูนย์หรือเท่าไหร่นั้น เพราะยังไม่มีผู้ใดตามหาศพของนางพบ

หรือว่าอาจจะถูกปลาตัวใหญ่กินไปแล้วก็ตาม

ขุนนางของกรมกิจการภายในและสำนักพิธีการ หลายวันมานี้วิ่งไปมาเสียจนขาเริ่มจะเรียวบางกันแล้ว ทั้งรับรองแขก รับของขวัญ จดบันทึก จัดการเรื่องต่าง ๆ ทางด้านของคนตระกูลหูก็มีคนมาแต่เช้า โต๊ะเก้าอี้สำหรับงานเลี้ยงเฉลิมฉลองถูกจัดวางเอาไว้อย่างเรียบร้อย โคมไฟสีแดงถูกแขวนเอาไว้สูง เหลือไว้เพียงแต่ทางด้านของกุ้ยไท่เฟยเท่านั้น

และตามมารยาทธรรมเนียมแล้ว ทางด้านของเรือนกุ้ยไท่เฟยเองก็ควรแขวนโคมไฟเอาไว้ด้วยเช่นกันถึงจะถูก เพราะอย่างไรแล้ว ก็เป็นนางที่สู่ขอลูกสะใภ้

ทว่ากุ้ยไท่เฟยกลับเอ่ยกับสำนักพิธีการออกมาว่า ที่นี่เพิ่งจะมีคนตายมาไม่นาน จะไม่แขวนโคมแดง แล้วโยนคนของสำนักพิธีการออกไป

เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว คนของกรมกิจการภายในจึงทำเพียงแต่ติดกระดาษสีแดงเอาไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ด้านนอกของเรือนชิงหนิง ก็นับได้ว่ามีความเป็นมงคลแล้ว

มู่หรงเจี๋ยถูกขันทีภายในวังควบคุมเอาไว้ แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มที่เดิมนั้นเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งที่มืดมน เปลี่ยนเป็นมีลวดลายสีแดงขึ้นมา ในใจของทุกคนรู้สึกเบาสบายขึ้น ที่แท้แล้วท่านอ๋องนั้นก็ดูหล่อเหลามาก อีกทั้งสีแดงและใบหน้าภูเขาน้ำแข็งนั้นเข้ากันได้ดี ดูน่ามองอย่างยิ่ง

หัวหน้ากรมกิจการภายในนั้นลำคอส่งเสียงร้องดังแหบแห้งออกมา เข้า เหมือนกับลูกข่าง ออกคำสั่งให้ทหารกองเกียรติยศไปรอรับแขกอยู่ตรงประตู

ฤกษ์คือเวลาเที่ยง และตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงวันแล้ว ก่อนหน้านั้นที่ตกลงกันเอาไว้คือเจ้าสาวจะมาถึงในยามเที่ยง เพราะฉะนั้นหัวหน้ากรมกิจการภายในจึงรู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก

สิ่งที่แปลกประหลาดของงานอภิเษกในครั้งนี้ก็คือ แขกทุกคนที่มานั้นมาพร้อมกับท่าที่ใหญ่โต แต่ไม่ใช่มาด้วยใบหน้าของผู้ที่มาร่วมงานมงคล ที่ทุกคนรออยู่นั้น นอกจากเจ้าสาวแล้ว ยังมีไท่หวงไท่โฮ่ว

นางจะมาอย่างนั้นหรือ?

และแน่นอนว่า ไม่ได้มีคนมากนักที่หวังจะให้นางมา เพราะอย่างไรบรรพชนท่านนี้มีฝีมืออันร้ายกาจ หากไม่พอใจเข้าแล้ว เห็นใครเข้าก็เกลียดคนนั้น อีกทั้งทุกคนในที่แห่งนี้ โดยมากแล้วเบื้องหลังไม่ได้สะอาดนัก เกรงว่าจะถูกจับได้แล้วหลุดความจริงออกมา ภายหน้าคงจะไม่มีวันเวลาที่ดีอีกต่อไปแล้ว

ท่ามกลางสถานการณ์อันโกลาหล ก็ได้ยินเสียงประทัดดังขึ้นตรงประตูของจวนผู้สำเร็จราชการแทน จากนั้นทหารกองเกียรติยศก็บรรเลงกู่ฉินขึ้น

เจ้าสาวมาแล้ว!

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท