ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 595
ข่าวการฆ่าตัวตายของเซี่ยหวายจุน มหาเสนาบดีของราชสำนักนั้นแพร่กระจายออกไปในตอนที่เซี่ยจื่ออันกลับบ้านในวันที่สาม
หนี่หรงแจ้งกับมู่หรงเจี๋ย มู่หรงเจี๋ยจึงบอกกับจื่ออัน ในตอนนั้น จื่ออันเพิ่งจะเดินเข้าไปในประตูใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี หยวนฉุ่ยยวี่ยังคงอยู่ที่นี่ ไม่ได้ย้ายออกไป เพราะฉะนั้นเมื่อนางต้องกลับบ้านในวันที่สามนั้น จึงจำต้องกลับมายังที่นี่
หนี่หรงบอกกับจื่ออันว่า ก่อนที่เขาจะตายนั้น ได้ร้องขอกับผู้คุมให้นำคำหนึ่งมาบอกกับตานชิงเสี้ยนจู่ว่า “ขอโทษ”
หลังจากที่จื่ออันได้ยินแล้ว อารมณ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย นี่เป็นสิ่งที่นางคาดการณ์เอาไว้แล้ว เซี่ยหวายจุนรู้ว่าตายไปเช่นนี้ เป็นการรักษาหน้าตาของเขาเอาไว้ได้ดีที่สุดแล้ว
นางนำข่าวนี้แจ้งกับหยวนฉุ่ยยวี่ หยวนฉุ่ยยวี่ตะลึงไปครู่หนึ่ง “ตายแล้ว?”
น้ำเสียงนี้ราวกับว่าจะไม่ใช่นาง แม้แต่นางเองก็ยังรู้สึกว่าแปลกหูไป
พัวพันกันมาสิบเจ็ดปี ระหว่างพวกเขานั้น ในที่สุดแล้วก็สิ้นสุดลงด้วยความตาย
“ใช่แล้ว เขาตายแล้ว ก่อนที่เขาจะตาย เขาร้องขอให้ผู้คุมบอกกันท่านว่าขอโทษ” จื่ออันเอ่ย
หยวนฉุ่ยยวี่พยักหน้าออกมาอย่างเงียบๆ “อืม!”
“ท่านแม่จะให้อภัยเขาหรือไม่?” จื่ออันมองไปยังท่าทีของนางแล้วเอ่ยถาม
หยวนฉุ่ยยวี่เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของนางถึงแม้ว่าจะดูดีขึ้น ทว่าการมองเห็นกลับดูแย่ลงกว่าเดิมมากนัก เหมือนว่าจะมีหมอกปกคลุมอยู่เสมอ “ข้าไม่มีความคิดเห็นใด อย่างนั้นหรือ? จะอภัยหรือไม่อภัย ล้วนแต่ผ่านไปแล้ว”
“ล้วนแต่ผ่านไปแล้ว!” จื่ออันขบเคี้ยวประโยคนี้กลืนลงไปในปาก ใช่แล้ว ล้วนแต่ผ่านไปแล้วจริง ๆ ส่วนจวนมหาเสนาบดีนี้ ดูจะแปรผันไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
จื่ออันเผยยิ้มออกมา “ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันที่บุตรสาวกลับจวนมา ท่านแม่เตรียมของอร่อยอะไรเอาไว้บ้างหรือไม่เจ้าคะ? เขาเป็นคนช่างเลือกมาก”
มู่หรงเจี๋ยเหลือบมองมายังนางชั่วแวบหนึ่ง “จะต้องรับรองอะไรข้ากัน? ตามสบายก็พอแล้ว”
แม่นมหยางเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม “วันนี้พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย มีคนรับทำไปแล้ว”
“ใครที่รับทำกัน?” จื่ออันประหลาดใจอย่างมาก
“เถ้าแก่หญิงตระกูลหูหูฮวนสี่ นางให้พ่อครัวของร้านติ้งเฟิงมาตั้งแต่เช้า เพื่ออาหารมื้อนี้ วันนี้ร้านติ้งเฟิงปิดร้านไม่ทำการค้าขาย”
จื่ออันส่งเสียงร้องออกมา “เช่นนี้มันน่าอายเกินไปหรือไม่?”
“น่าอายอย่างไรกัน?”
เมื่อเอ่ยถึงเฉากง เฉากงก็มาถึง หูฮวนสี่ก็มาพร้อมกับสาวใช้สองคน ยิ้มแล้วย่อกายคารวะ “คารวะท่านอ๋อง พระชายาท่านอ๋อง ขอให้ถือเสียว่าข้าขอบพระคุณพระชายาแทนราษฎรในเมืองหลวง”
จื่ออันรู้ว่าคราวนี้นางลงแรงไปไม่น้อย จึงได้เอ่ยออกมาอย่างขอบคุณ “หากจะกล่าวขอบคุณกลับไปก็คงจะดูผิวเผินจนเกินไป ข้าจึงไม่เอ่ยออกมาแล้ว สิ่งเหล่านั้นที่เจ้าได้กระทำเอา ข้าจะจดจำเอาไว้ในใจ”
หูฮวนสี่เอ่ย “ข้าออกเงิน ไม่ได้ลงแรงไปแม้แต่น้อย”
มู่หรงเจี๋ยกลับเอ่ยออกมาว่า “วันนี้ก็เพียงแต่กินอาหารกับครอบครัวมิใช่หรอกหรือ? ถึงขั้นที่จะต้องให้เจ้าปิดร้านติ้งเฟิงเลยหรือ?”
หยวนฉุ่ยยวี่ยิ้มเอ่ยออกมา “คืนวานนี้เฉินหลิวหลิ่วก็มาแล้ว บอกว่าวันนี้ตอนกลับจวน จะขอเชิญทุกท่านร่วมกันทานอาหาร หลายวันมานี้ได้รับความหวาดกลัวและตื่นตกใจมามาก ควรที่จะทานอาหารกันดี ๆ สักมื้อ เพื่อเป็นรางวัลตอบแทนให้กับทุกคน”
ก็เป็นเช่นนี้ เดิมทีคืองานเลี้ยงของครอบครัว แต่กลับกลายมาเป็นงานเลี้ยงชุมนุมกันเสีย
เฉินไท่จวินนำสิบสองตุ๊กตาน้ำเต้า และเฉินหลิวหลิ่วปรากฏตัวออกมาอย่างยิ่งใหญ่ อ๋องหลี่มาพร้อมกับพระชายาอาหมาน และสุนัขสีเหลืองทองตัวใหญ่ทันเวลา อ๋องเหลียงนำเหล้าชั้นดีมาด้วยไหหนึ่ง โหรวเหย๋ามาพร้อมกับซูชิง และแน่นอนว่า เป็นนางที่ไปหาซูชิงแล้วบอกว่าให้มาพร้อมกัน พี่น้องเซียวเซียวเองก็มาพร้อมกับเหล้าชั้นดี จ้วงจ้วงกลับมาพร้อมกับเหลียงซื่อ
เมื่อมองเห็นว่าแต่ละคนทยอยกันมาถึง ขนตาของจื่ออันก็เปอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา งานเลี้ยงผ่านไปอย่างโกลาหล ขาดคำอวยพร มาตอนนี้ทุกคนปรากฏขึ้นมาในวันที่สามที่จำต้องกลับบ้านมานั้น ทำให้นางรู้สึกว่าตนเองกำลังแต่งงานอีกครั้ง
ฟู่ว์!
คนมากมายถึงเพียงนี้ แบ่งออกเป็นสองโต๊ะ แม่ทัพเฉินทั้งสิบสองนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน ส่วนคนที่เหลือนั้น ก็นั่งอีกโต๊ะหนึ่ง
จ้วงจ้วงและเซียวเซียวเองก็เหมือนว่าจะไม่มีความขัดข้องใด ทั้งสองคนนั่งลงโต๊ะตัวเดียวกัน ท่าทีดูเงียบสงบ เพียงแต่ว่าทั้งสองนั้นต่างก็ไม่สบสายตากัน และแม้ว่าจะไม่ระมัดระวังมองเห็นเข้า ต่างก็พากันหลบสายตาไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ซูชิงจะดื่มเหล้าอวยพร ก็ได้ถามแม่ทัพเฉินออกมาว่า “ว่ากันว่า ในตอนต้นพวกท่านไปคอยคุ้มครองจื่ออัน แต่พวกท่านกลับไม่ปรากฏกายออกมาเลย ตกลงแล้วไปที่ใดกัน?”