ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 602
จื่ออันมองอย่างไม่แน่ใจ ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะทำให้นางผิดหวังขึ้นมา “ข้าคิดเช่นนี้”
หลิวหลิ่วเปลี่ยนมามีรอยยิ้ม “ตกลง ข้าจะพยายามเข้าอีก หากว่าสามารถแต่งงานกับเขาได้แล้ว จะให้ข้าทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น”
จื่ออันกอดนางเบา ๆ ในใจถอนหายใจออกมา เซียวท่าเจ้าห่านโง่ ไม่รู้ว่าตนเองโชคดีเพียงใดแล้ว? หากว่าเจ้าไม่ยินยอมแต่งงานกับหลิวหลิ่วแล้ว ก็หวังว่าเจ้าจะจดจำได้ว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ยินยอมทำทุกอย่างเพื่อเจ้า
นางรู้ว่าหลิวหลิ่วเชื่อในคำกล่าวของเฉินไท่จวินอย่างลึกซึ้งโดยที่ไม่สงสับ นางต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปมาก คืนนี้นางบอกว่าหากไม่อาจแต่งงานให้กับเซียวท่าได้แล้ว ก็จะไม่ยอมแต่งงาน ก็เท่ากับว่าไม่ต้องการชีวิตนี้แล้ว ความรู้สึกนี้ช่างบริสุทธิ์ ทำให้คนซาบซึ้งใจจริง
จื่ออันตัดสินใจจะไปพูดคุยกับเซียวท่าสักครั้ง
และโชคดีที่เซียวท่ากลับจากราชการยามเช้า มาพร้อมกับมู่หรงเจี๋ยในเที่ยงวันรุ่งขึ้นพอดี นางจึงได้เรียกเซียวท่าหยุดเอาไว้เพียงลำพัง
ทั้งสองคนนั่งลงในศาลากลางลานเรือน แยกตัวออกมาจากมู่หรงเจี๋ยที่ดูจะไม่มีความสุขนัก
เขาดูจะไม่พอใจที่จื่ออันมีความลับกับเซียวท่า
จื่ออันเข้าตรงประเด็น “เซียวท่า เจ้าบอกข้ามา เจ้าไม่ชอบหลิวหลิ่วมากจริง ๆ เช่นนั้นหรือ?”
เซียวท่าไม่คิดเลยว่าจะถูกถามถึงคำถามนี้ ค่อนข้างที่จะไม่พอใจ “ทำไมทุกคนถึงได้มาถามข้าว่าข้าชอบนางหรือไม่? ข้าไม่ชอบเลย”
“แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่หลิวหลิ่วและซูชิงดีกันนั้น เจ้าเองก็ไม่ใช่ว่าโมโหมากอย่างนั้นหรือ? เจ้าลองคิดถึงข้อดีของหลิวหลิ่วให้ดี บางทีเจ้าอาจจะชอบนางขึ้นมาก็ได้” จื่ออันเอ่ยชักนำ
เซียวท่าเอ่ย “ใครบอกกันว่าข้าโมโห? ตอนนั้นข้าเพียงแต่ไม่ชอบที่ซูชิงบอกว่าจะไม่พาข้าออกไปด้วย ก่อนหน้านั้นพวกเราก็เคยเล่นกันอยู่ด้วยกัน”
จื่ออันไม่คิดเลยว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ ดูแล้วเซียวท่าคงจะไม่ชอบหลิวหลิ่วเข้าจริง ๆ เรื่องของความรู้สึก คงไม่อาจจะบังคับกันได้
แต่อย่างไรก็ตาม จื่ออันมักจะมีความรู้สึกที่ไม่ยินยอมอยู่เล็กน้อย “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าหลิวหลิ่วมีดีหรือไม่? หรือว่าหลิวหลิ่วมีที่ใดที่ทำให้เจ้าชื่นชมได้บ้าง?”
เซียวท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นางชอบยิ้ม ยิ้มอย่างงดงาม ยิ้มขึ้นมาก็มีลักยิ้มน้อย ๆ แล้วก็ไม่โกรธง่าย มีบางคราวที่ข้าเอ่ยออกมาตั้งมากมาย เอ่ยคำที่ยั่วยุให้คนโกรธขึ้นโดยง่าย นางก็ยังไม่โกรธ ตรงจุดนี้คือข้อดี และนางก็ไม่ตระหนี่”
จื่ออันในใจรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ไม่ใช่ว่าหลิวหลิ่วไม่รู้สึกโกรธ แต่เป็นเพราะว่าบางทีนางอาจจะรักเซียวท่ามากจริง ๆ นางคิดแต่เพียงว่าจะทำให้เขาสบายใจ ไม่กล้าที่จะโกรธ คอยชอบเขาแบบถ่อมตน
“เช่นนั้นนางที่เจ้าคิดว่าหยาบคายแล้ว ยังมีอะไรที่เจ้าไม่ชอบนางหรือไม่?” จื่ออันเอ่ยถามต่อไป
เซียวท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ย “ดูเหมือนว่าจะไม่มี”
จื่ออันเอ่ยถามออกมาต่อ “หากว่าตอนนี้บอกกับเจ้าว่า หลิวหลิ่วอาจจะเป็นไปได้ที่จะแต่งงานกับซูชิง ในใจของเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร? บอกกับข้ามาตามตรง หากว่าเจ้าพูดความจริงออกมา ข้าจะมอบแหวนให้กับเจ้า”
“แหวนของเจ้าเล่า? ข้าไม่เห็นเจ้าใส่มันเลย” เซียวท่าคิดจะถามออกมาเสมอ
“ข้าถอดมันออกแล้ว” จื่ออันโกหกออกมา โดยที่ไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย
เซียวท่าที่อยากจะได้แหวน ก็คิดอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยตอบจื่ออันออกมา “ข้าก็คงจะรู้สึกไม่ยินดีนัก แต่ว่าทำไมถึงได้ไม่ยินดีนั้นข้าเองก็ไม่รู้ ในหัวเมื่อคิดถึงภาพที่พวกเขาแต่งงานกัน ข้าก็ไม่มีความสุขแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นซูชิงเคยเอ่ยกับข้าเอาไว้ว่า เขาคงจะไม่แต่งงานเร็วนักหรอก พวกเราจะต่อต้านครอบครัวไปด้วยกัน”
จื่ออันรู้ว่าจะจัดการกับเจ้าห่านโง่นี้อย่างไรดี จึงต้องเอ่ยออกมาให้ชัดเจนขึ้นไปอีก “เช่นนั้นเจ้าเคยคิดมาก่อนหรือไม่ บางทีที่เจ้าไม่ยินดีที่พวกเขาแต่งงานกันนั้น ไม่ได้เป็นเพราะว่าซูชิง แต่เป็นเพราะว่าเจ้าชอบหลิวหลิ่วไปแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว?”
เซียวท่าตะลึงไปครู่หนึ่ง “นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้าคิดว่าหลิวหลิ่วนั้นเป็นที่น่าชื่นชม แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะแต่งงานกับนาง”
เซียวท่า เจ้าอย่าได้ลืมไป ในตอนต้นที่หลิวหลิ่วนัดพบเจ้านั้น เป็นเจ้าที่ให้ซูชิงไปแทนเจ้า เช่นนั้นทำไมถึงตอนนี้เจ้ากับบอกว่าซูชิงจะแต่งงานกับหลิวหลิ่ว เจ้าถึงได้ไม่ยินดี นี่มันไม่ใช่ว่าขัดแย้งกันหรอกหรือ?”