ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 667
ประมาณกว่าครึ่งชั่วยาม รถม้าคันหนึ่งก็หยุดลงด้านนอกจวนองค์หญิง
หูฮวนสี่เข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มที่สวมชุดเสื้อคลุมนกอินทรี และชายชราที่สวมชุดคลุมสีเทา ด้านหลังของชายชรายังมีเด็กอ้วนที่ฟันหลุดหายไป
ทั้งสามคนตรงเข้าไปยังห้องนอนของจวนองค์หญิง จื่ออันเงยหน้าขึ้นมามอง รู้สึกได้ว่าชายชุดคลุมนกอินทรีย์นั้นดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่า ในตอนที่นางแต่งงานนั้น เคยถูกคนผู้หนึ่งนำตัวไปด้านนอกเมือง และยังตกลงไปในหล่มโคลน มีบางคนใช้กิ่งไม้แหย่ลงบนศีรษะของนางไม่หยุด
คนชุดดำนั้นก็คือ ชายชุดคลุมนกอินทรีย์ที่อยู่ตรงหน้า นางจำได้ จำดวงตาคู่นี้ได้
ทุกคนต่างก็หลบออกไป ไม่ใช่เพราะชายชุดคลุมนกอินทรีย์ แต่เป็นเพราะชายชราคนนี้
ปากของเขาคาบบุหรี่เอาไว้ แล้วเดินตรงมาข้างกายของเซียวเซียว เขาเหลือบมอง ก่อนจะหันไปมองจื่ออัน “ทักษะการฝังเข็มทอง?”
จื่ออันกลั้นหายใจเอาไว้ “ใช่แล้ว!”
ชายชราวางถุงบุหรี่ลง ส่งให้กับพั่งเสี่ยวจือ “เสี่ยวพั่ง นำเข็มทองของข้ามา”
พั่งเสี่ยวจือนำกระเป๋าเข็มออกมาจากกระเป๋าด้านหลัง ส่งให้กับชายชรา
ทุกคนต่างก็มองไปยังเขา เห็นเขานำเข็มทองเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเข็ม เข็มทองเล่มนี้ยาวมาก ยาวมากกว่านิ้วมือเสียอีก สีของมันดูแปลกประหลาด ดูเหลืองเย็น อีกทั้งเข็มก็ไม่ได้ตรง ปลายเข็มมีตะขอเล็ก ๆ
ทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าเข็มเล่มนี้ทำไมถึงได้ดูแปลกประหลาด มีเพียงแค่จื่ออันที่เคยเห็นทักษะการฝังเข็มทองมาก่อน หน้าสุดท้ายของทักษะการฝังเข็มทองเขียนเอาไว้ว่า มีเทคนิคการฝังเข็มชนิดหนึ่ง ผู้ฝังเข็มใช้เข็มที่เป็นตะขอ จะต้องเป็นผู้ที่ชำนาญในการใช้ทักษะการฝังเข็มทอง
หัวใจของจื่ออันเต้นเร็ว หรือว่าเขาจะเป็นผู้ที่คิดค้นศึกษาทักษะการฝังเข็มทอง?
ไม่ เวินอี้เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย
นางมองไปยังหูฮวนสี่ นางเห็นมู่หรงเจี๋ยให้หูฮวนสี่ไปหาชายชราคนนี้มา หรือว่าหูฮวนสี่จะมีความสัมพันธ์อะไรกับเขา?
ชายชราผู้นี้เป็นใครกัน?
ชายชราเริ่มต้นฝังเข็ม จื่ออันไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา จ้องมองความเคลื่อนไหวของเขาตลอดเวลา จื่ออันที่คิดว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญในการฝังเข็มอย่างมากนั้น แต่คนผู้นี้ชำนาญยิ่งกว่า แทบจะเรียกว่ายอดเยี่ยม เขาไม่แม้แต่จะต้องเลือกจุดฝังเข็ม ฝังลงไปทันที ความเคลื่อนไหวก็รวดเร็ว ไม่มีใครสามารถมองได้อย่างชัดเจน
หลังจากที่ฝังเข็มแล้ว ชายชราก็ทิ้งเข็มเอาไว้ จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับมู่หรงเจี๋ย “เตรียมคนให้ส่งเขาไปเถิด”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถาม “สถานการณ์ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ชายชราเอ่ย “สาหัสเอาการ จะยังช่วยชีวิตเอาไว้ได้หรือไม่นั้น ยังไม่แน่ชัด แต่ว่ามีคนฝังเข้มให้กับเขา ปิดผนึกเส้นชีพจรจร แย่งชิงเวลาในการช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ขั้นต้นก็คาดได้ว่าสามารถช่วยกลับมาได้ส่วนหนึ่ง”
ส่วนหนึ่ง?
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง โอกาสเพียงแค่ส่วนเดียว กับการประกาศว่าตายนั้นมีอะไรที่แตกต่างกันอย่างนั้นหรือ?
“ส่งไปที่ใดกัน?” จื่ออันเอ่ยถาม มีโอกาสส่วนหนึ่งก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะหากว่านางมองแล้ว ไม่มีแม้แต่วิธีที่จะช่วยกลับมาได้
ชายชรามองมายังนาง มองอยู่ครู่หนึ่ง “ภูเขาน้ำแข็ง!”
ทุกคนอ้าปากค้างกันอีกครั้งหนึ่ง ภูเขาน้ำแข็งไม่ใช่สถานที่ไท่หวงไท่โฮ่วทรงพักอาศัยอยู่หรอกเหรอ? เขาและไท่หวงไท่โฮ่วมีความสัมพันธ์อะไรกัน?
จื่ออันส่ายศีรษะเอ่ยออกมา “ไปภูเขาน้ำครั้งในครั้งนี้ ระยะทางไกลเกิน เกรงว่าเขาคงจะทนแรงกระแทกระหว่างทางไม่ได้”
“อยู่ที่นี่ ก็มีแต่ทางตาย ไปภูเขาน้ำแข็งยังมีโอกาสรอดชีวิต แล้วแต่พวกเจ้ากันเถิด” ชายชราเหมือนราวกับว่าเห็นความเป็นตายของโลกมนุษย์มากแล้ว เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เอ่ยออกมาอย่างเฉยเมย
เรื่องนี้ทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้ไม่อาจจะตัดสินใจได้ จะต้องไปสอบถามจากท่านโหวถึงจะถูก
ภายใต้สายตาของมู่หรงเจี๋ยแล้ว เซียวท่าจึงรีบวิ่งออกไป
ก่อนที่ท่านโหวจะมาถึงนั้น มู่หรงเจี๋ยก็ถามชายชราออกมา “ขอเชิญท่านไปดูองค์หญิงสักเล็กน้อย นางถูกพิษเข้า”
ชายชราไม่แม้แต่จะมอง “ไม่จำต้องดูแล้ว นางถูกพิษ ข้าแก้ไม่ได้”
สีหน้าของจื่ออันซีดขาว หากว่าช่วยจ้วงจ้วงกลับมาไม่ได้ ต่อให้จะช่วยเซียวเซียวเอาไว้ได้ เขาก็ไม่มีทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อเพียงลำพัง
ชายชรามองยังสีหน้าของจื่ออัน คิดอยู่ครู่หนึ่ง ถอนหายใจออกมาเบา ๆ หันกลับไปสั่งพั่งเสี่ยวจือ “อาสุ่ย เจ้าอ่านเรื่องยาพิษมาจนหมดแล้วหรือยัง?”
เจ้าเด็กอ้วนเอ่ย “ดูจนหมดแต่เนิ่นแล้ว ตอนนี้เขากำลังฝึกปรุงยาพิษอยู่”
“อืม วันพรุ่งนี้ให้เขามาเถิด ให้เขาคิดวิธีแก้พิษให้องค์หญิงกับพระชายา”