ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 686

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 686

จากนั้นฉินจือก็ยังคงนำแม่นางคนนั้นเข้ามา ก็พบเข้ากับตาวเหล่าต้าที่กำลังรีบพุ่งเข้ามาเอ่ย “คุณหนูใหญ่ เฉินไท่จวินขอเชิญท่านรีบไปสักรอบ บอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินล้มลงขาหักแล้ว”

จื่ออันตื่นตกใจ “ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ไปได้?”

ตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมา “ทางด้านตระกูลเฉินส่งคนมาบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินรู้ว่าองค์หญิงใหญ่เกิดเรื่องขึ้น รีบวิ่งหนีปีนขึ้นกำแพงออกมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะตกลงมา”

จื่ออันส่งเสียงร้องออกมา “ช่วงนี้ช่างมีเรื่องให้กังวลใจน้อยเสียเมื่อใดกัน”

นางเอ่ยสั่งหมอหลวงที่คอยรับใช้อยู่ด้านหลัง “อีกประเดี๋ยวเมื่อฉินจือนำแม่นางคนนั้นเข้ามา เจ้าตรวจสอบให้ดี ๆ ว่าที่นางนำมานั้นคือเขาละมั่งโลหิตหรือไม่ อย่าเพิ่งรีบร้อนให้รางวัล”

“พ่ะย่ะค่ะ เข้าใจแล้วพระชายา!” หมอหลวงเอ่ย

หลังจากที่จื่ออันสั่งหมอหลวงเอาไว้แล้ว ก็นำกล่องยาและตาวเหล่าต้าออกจากประตูไป

ในตอนที่นางออกจากประตูไปนั้น นางก็ได้พบกับแม่นางคนนั้นที่ฉินจือนำเข้ามา เมื่อเห็นว่านางอายุราวสิบห้าสิบหกปี ท่าทางดูอ่อนหวาน มวยผมสองข้าง ดวงตากลมโต เมื่อพบจื่ออันแล้ว ก็มองมายังจื่ออันด้วยความประหลาดใจ

จื่ออันหยุดลง เอ่ยสั่งกับฉินจือ “เจ้านำนางไปพบกับหมอหลวง หมอหลวงกำลังรออยู่” เมื่อเอ่ยจบแล้วก็รีบร้อนออกไป

ฉินจือเมื่อเห็นว่าจื่ออันรีบร้อนจากไป ก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “พระชายาจะรีบไปที่ใดกัน?”

แม่นางคนนั้นเอ่ยออกมา “นางก็คือพระชายาของผู้สำเร็จราชการแทนอย่างนั้นหรือ? นางดูงดงามมาก”

ฉินจือเอ่ย “อีกประเดี๋ยวเข้าไปแล้ว อย่าได้เอ่ยไร้สาระรู้หรือไม่? มีหมอหลวงอยู่ หมอหลวงถามอะไรเจ้า เจ้าก็เอ่ยเช่นนั้นออกมา”

“ข้ารู้แล้ว ข้าจะไม่พูดจาไร้สาระ” แม่นางคนนั้นกะพริบตาแล้วเอ่ยออกมา

ฉินจือนำนางเข้ามายังเบื้องหน้าของหมอหลวง เอ่ยออกมา “หมอหลวงหลี่ นี่ก็คือแม่นางคนนั้นที่บอกว่ามีเขาละมั่งโลหิต”

หมอหลวงหลี่จ้องมองยังนาง “เจ้าชื่อว่าอะไร?”

แม่นางคนนั้นเอ่ย “เรียนใต้เท้า ข้าชื่อว่าหวังอี๋เอ๋อร์”

หมอหลวงหลี่พยักหน้าออกมา “เขาละมั่งโลหิตของเจ้า นำติดมาด้วยหรือไม่?”

หวังอี๋เอ๋อร์ส่ายศีรษะ “ไม่ได้นำมาเจ้าค่ะ อยู่ที่ท่านแม่ของข้า ท่านแม่ของข้าไม่ยอมมอบให้”

หมอหลวงหลี่ตะลึงไป “ท่านแม่ของเจ้าไม่ยอมมอบให้? เช่นนั้นแล้วเจ้ามาทำอะไร?”

หวังอี๋เอ๋อร์เบิกตากว้างขึ้น “แต่พวกท่านสามารถไปขโมยมันมาได้”

หมอหลวงหลี่หัวเราะออกมา “เจ้าเด็กนี่ มีที่ไหนให้คนไปขโมยของจากแม่เจ้า?”

หวังอี๋เอ๋อร์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงจะไม่ได้กัน? หากว่ามันสามารถช่วยชีวิตคนได้ ก็สามารถขโมยมันได้ นางไม่ได้เสียหายอะไร ขโมยมาแล้วก็ยังสามารถนำมันคืนให้นางได้อีก”

หมอหลวงหลี่ส่ายศีรษะ ให้คนนำรูปภาพออกมา “เจ้าดูสิ เขาละมั่งโลหิตของท่านแม่เจ้าเป็นเช่นนี้หรือไม่?”

หวังอี๋เอ๋อร์เหลือบมองอยู่ครู่หนึ่ง ค่อนข้างจะลังเล “เหมือนก็ดูจะเหมือนอยู่ ทว่าสีของมันไม่ใช่สีแดง แต่เป็นสีเหลือง แล้วมีสีโลหิตอยู่เล็กน้อย”

หมอหลวงหลี่อดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะดุว่านาง “เช่นนั้นเจ้าคิดผิดแล้ว แม่นาง นั่นเป็นเพียงแค่เขาละมั่ง ไม่ใช่เขาละมั่งโลหิต เจ้ากลับไปเสียเถิด อีกประเดี๋ยวหากว่าพระชายากลับมารู้ว่าเจ้าเสแสร้ง จะทุบตีเจ้าเอา”

หวังอี๋เอ๋อร์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ไม่ใช่หรือ? ข้ายังคิดว่าใช่เสียอีก ข้าได้ยินมาว่าพี่รองเฉินบอกว่า สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตองค์หญิงได้ ข้าก็เลยมา เช่นนั้นก็ขออภัยแล้ว ข้าจะกลับไปแล้ว”

ฉินจือรู้สึกว่าแม่นางอี๋เอ๋อร์คนนี้น่ารักยิ่งนัก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ในสิ่งที่นางต้องการ ค่อนข้างผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษอะไร กลับกันยังส่งนางออกไปด้วยตนเอง

อี๋เอ๋อร์เพิ่งออกมาถึงหน้าประตู อ๋องเหลียงก็บังเอิญมาถึงพอดี เมื่อลงจากรถม้า อี๋เอ๋อร์พบเข้ากับอ๋องเหลียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี ขยี้ตาออกมาราวกับว่าไม่อาจเชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยินได้ หลังจากที่แน่ใจแล้ว ก็วิ่งเข้ามาดึงข้อมือของอ๋องเหลียงเอาไว้ ร้องตะโกนด้วยความยินดี “พี่หัวโต!”

ท่าทีของอ๋องเหลียงดูไม่เป็นธรรมชาติ “อี๋เอ๋อร์?”

“เป็นข้าเอง ท่านทำไมถึงได้มาที่นี่กัน? ท่านมีเขาละมั่งโลหิตอย่างนั้นหรือ? ดีจริง เมื่อครู่นี้ข้ายังรู้สึกหดหู่ใจอยู่เลย ของท่านแม่ของข้าเป็นของปลอม หากว่าท่านมีแล้วก็สามารถนำมาช่วยองค์หญิงได้” อี๋เอ๋อร์เอ่ยออกมาด้วยความยินดี ริมฝีปากเผยรอยยิ้มสดใสน่าประทับใจออกมา

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท