ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 719

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 719

พระสนมอี๋ได้ยินคนจากวังฮองเฮามาเรียกตัว ก็รู้ว่าจะต้องเป็นเพราะเรื่องราวในวันนั้น รีบไปทันทีโดยไม่รอช้า

เมื่อมาถึงยังวังจิ้งหนิง หลังจากที่คารวะแล้ว ฮองเฮาก็ทรงตรัสถามออกมาตรง ๆ “เจ้าไปขอพรยังวัดของราชวงศ์ ทำไมถึงได้รีบร้อนกลับมากัน?”

พระสนมอี๋เอ่ย “เมื่อวานนี้เกิดเรื่องขึ้น หม่อมฉันก็เลยกลับมาเพคะ”

ฮองเฮาเมื่อเห็นว่านางไม่คิดที่จะปิดบัง จึงได้ให้นางนั่งลง “เจ้าลองบอกให้ข้าฟังเสียหน่อย ตกลงแล้ววันนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

พระสนมอี๋นั่งลง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เรื่องนี้หม่อนฉันลังเลอยู่คืนหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะทูลฮองเฮาไปดีหรือไม่ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว หม่อมฉันก็เป็นเพียงแค่คนนอก หากว่าหม่อนฉันเอ่ยออกมา เกรงว่าจะไปทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้น้องสะใภ้ของฮองเฮา และพระชายาเข้า ยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นการทำร้ายความสัมพันธ์ของลุงหลานขององค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนได้”

ฮองเฮาตรัสออกมาอย่างเรียบเฉย “หากว่าเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริง อย่างไรแล้วก็ทำลายลงไม่ได้ หากว่าเป็นเรื่องปลอมแปลง ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำร้าย เจ้ามีอะไรก็เอ่ยออกมาตามตรงเถิด”

พระสนมอี๋เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังใบหน้าที่เย็นชาของฮองเฮา บนใบหน้านั้นปรากฏความหมดสิ้นหนทางออกมา “ในวัดของราชวงศ์นั้นไม่มีผู้อื่น นอกเสียจากเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย หม่อมฉันจึงเป็นพยานบุคคลเพียงคนเดียว ในวันนั้นองค์รัชทายาทจับตัวหญิงชาวบ้านมาคนหนึ่งขังเอาไว้ในห้องเก็บฟืนภายในวัด ทว่าได้ยินเหล่าองค์รักษ์เอ่ยกันออกมาว่า หญิงชาวบ้านผู้นี้เอ่ยคำไม่สุภาพกับองค์รัชทายาท รัชทายาทถึงได้จับนางขังเอาไว้ เพียงเพื่อคิดจะข่มขู่นางเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าที่มาของหญิงชาวบ้านผู้นี้จะไม่ธรรมดา เพิ่งจะถูกคุมขังได้ไม่นาน พระชายาก็นำคนเข้ามา ทุบตีองค์รัชทายาทโดยที่ไม่เอ่ยออกไรออกมา อีกทั้งยังฆ่าทหารองค์รักษ์ข้างกายรัชทายาทไปสองนาย ในตอนนั้นหม่อมฉันหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง นี่อย่างไรแล้วก็เป็นวัดของราชวงศ์ จะฆ่าคนตามแต่ใจชอบได้อย่างไรกัน? อีกทั้ง พระชายายังดูหยิ่งผยองเป็นอย่างยิ่ง ดูแตกต่างไปจากในอดีต หากมิใช่ว่าหม่อมฉันเห็นด้วยตาของตัวเองแล้ว เกรงว่าก็คงไม่อาจจะเชื่อได้”

ฮองเฮาฟังจนปอดแทบจะระเบิด กัดฟันแล้วตรัสออกมา “ดูเหมือนว่าในวันนั้นข้าคงประเมินนางต่ำไป ไม่น่าแปลกที่คนผู้นี้จะเอาชนะมหาเสนาบดีเซี่ยและฮูหยินผู้เฒ่าไปได้ ที่แท้ก็เก่งกาจและหยิ่งผยองเช่นนี้นี่เอง”

พระสนมอี๋เอ่ย “ใครว่าไม่ใช่กันเล่าเพคะ? ในวันนั้นเห็นนางดูน่าสงสาร ยังคิดว่านางถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา อันที่จริงตั้งวันที่ล้มเลิกงานอภิเษกกับอ๋องเหลียง ก็สามารถมองเห็นได้ว่านางมีแผนการที่ลึกล้ำ หากว่านางไม่คิดอยากจะแต่งงานแล้ว ก็คงจะเอ่ยออกมาแต่เนิ่นแล้ว แต่กลับมาทำให้อ๋องเหลียงอับอายขายหน้าต่อแขกมากมาย ตอนนี้นางยังกระทำเรื่องมากมายเพื่อเอาอกเอาใจอ๋องเหลียงอีก ทำให้ฝ่าบาทมีความคิดต่อนางที่เปลี่ยนไป จะต้องรู้ว่าผู้สำเร็จราชการแทนนั้นรักใคร่อ๋องเหลียงเป็นอย่างมาก เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เกรงว่าจะเป็นเพียงกับดัก หญิงชาวบ้านนางนั้นออกมาจากจวนองค์หญิง และในตอนนั้นพระชายาเองก็อยู่ในจวน ได้ยินมาว่าเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นในจวนองค์หญิง หญิงชาวบ้านนางนั้นพุ่งเป้าไปยังองค์รัชทายาท เอ่ยคำไม่สุภาพออกมา เกรงว่าอาศัยที่ตนเองได้รับการสนับสนุนจากพระชายา”

หลังจากที่ฮองเฮาครุ่นคิดแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าสิ่งพระสนมอี๋เอ่ยออกมานั้นมีเหตุผล ก่อนหน้านั้นซินเอ๋อร์ก็เคยเอ่ยออกมาก่อนว่าต้องการจะแต่งงานกับหวังอี๋เอ๋อร์ ภายหลังถูกนางคัดค้านอย่างแรง บวกกับปัญหาของเขาเอง เพราะฉะนั้นก็เลยล้มเลิกมัน มาตอนนี้เขาดีขึ้นแล้ว เกรงว่าความคิดนี้จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่น่าแปลกที่เมื่อวานนี้ถึงได้รีบร้อนไปจวนตระกูลหลินเพื่อยกเลิกงานแต่ง

นางคิดถึงเรื่องที่ทหารองค์รักษ์เอ่ยออกมาว่าหวังอี๋เอ๋อร์ถูกทำให้มีมลทิน จึงได้เอ่ยถามพระสนมอี๋ “หลังจากที่เด็กนั่นถูกจับไปยังวัดของราชวงศ์แล้ว องค์รัชทายาทให้คนทำมลทินนางจริงหรือ?”

“เรื่องนี้หม่อมฉันไม่ได้มองเห็นด้วยตาของตนเอง ฝ่าบาทไปยังวัดของราชวงศ์จริง ทว่ามาทักทายกับหม่อมฉันก่อน เขาไม่ได้อยู่ในห้องเก็บฟืน เกรงว่าทหารองค์รักษ์อาจจะเกิดความเข้าใจผิดกับเด็กนั่นก็เป็นได้” พระสนมอี๋เอ่ย

ฮองเฮาส่งเสียงอืมออกมา ในใจครุ่นคิด ไม่ว่าจะมีมลทินหรือไม่ อี๋เอ๋อร์คนนั้นไม่อาจจะแต่งให้กับซินเอ๋อร์ได้ อีกทั้งคำยุแยงของเซี่ยจื่ออันราบรื่นเช่นนี้ กว่าครึ่งเพราะว่าในใจของเขามีเด็กนั่นอยู่ เกรงว่ามีเพียงแค่นางตายไป ถึงจะหยุดความคิดนี้ของเขาได้ แล้วไม่ถูกผู้อื่นหลอกใช้อีก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็มองไปยังพระสนมอี๋ “พระสนมอี๋ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันของราชวงศ์นั้น อย่างไรแล้วก็จะทำให้ชื่อเสียงของรัชทายาทเสียหาย หวังว่าเจ้าอย่าได้เอ่ยออกไปกับคนนอกแม้แต่น้อย”

พระสนมอี๋ยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเอ่ย “ฮองเฮา หม่อมฉันไม่มีทางที่จะเอ่ยออกไปแย่างแน่นอน คงไม่อาจจะเอ่ยออกไปได้ว่า ฝ่าบาทเป็นเพราะหญิงชาวบ้านแล้วถูกพระชายาทุบตีเข้า? อีกทั้งศาสนสถานเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เอ่ยออกไปคงจะไม่ดีนัก”

“ใช่แล้ว อย่างไรแล้วก็เป็นวัดของราชวงศ์ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ผู้คนจะคาดเดาออกมาอย่างไร?” ในใจของฮองเฮาคิดคำนวณอยู่ ไม่ได้มองเห็นว่าใบหน้าของพระสนมอี๋มีแววตาที่มีความหมายอยู่

พระสนมอี๋เก

ลียดจื่ออันเข้ากระดูก หากต้องการจะฆ่าใครสักคน วิธีการที่เหมาะสมที่สุดคือยืมมือของผู้อื่น ฮองเฮาลงมือเองเหมาะกว่าที่นางจะลงมือ

“หากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว หม่อมฉันขอทูลลาก่อนนะเพคะ” พระสนมอี๋ลุกขึ้นโค้งกายคำนับ

“ตกลง เจ้ากลับไปก่อน ใช่แล้ว สองวันก่อนได้ยินมาว่าองค์ชายเจ็ดไม่ค่อยสบาย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วหรือยัง?” ฮองเฮาเอ่ยถาม

“ดีขึ้นมากแล้วเพคะ ฮองเฮายังทรงจำเรื่องนี้ได้หรือเพคะ? หม่อมฉันของพระทัยฮองเฮาแทนองค์ชายเจ็ดแล้ว” พระสนมอี๋เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท