ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 729

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 729

จักรพรรดิองค์ก่อนนั้นเคยเอ่ยเอาไว้ ภายหน้าซ่งรุ่ยหยางจะต้องเป็นจักรพรรดิที่ดี ทว่าก็อาจจะไม่ใช่นักปกครองที่ดี และก็ไม่ใช่คนที่มีใจทะเยอทะยาน เพราะฉะนั้น เขาถึงได้จะให้จ้วงจ้วงแต่งงานกับซ่งรุ่ยหยาง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้น ให้ทั้งสองแคว้นสามารถดำเนินการค้าด้วยกันได้

ซ่งรุ่ยหยางกระทำการต่าง ๆ นั้น เพื่อราษฎรจริง ๆ ทุกวันในต้าเหลียงนั้น เขาไปเยี่ยมเยียนผู้ที่มีความรู้ทุกแห่งหน เพื่อฟังแนวคิดการปกครองแคว้นของพวกเขา

คนซื่อตรงเช่นนี้ ไม่เก่งเรื่องกลอุบายใด เพราะฉะนั้นเขาและที่ปรึกษามักจะมีความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่บ่อยครั้ง ทูตกงซุนเยี่ยนนั้นเป็นสหายร่วมเรียนกับรัชทายาทมาก่อน หลังจากนั้นก็คอยติดตามอยู่ข้างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา

ทว่ากงซุนเยี่ยนนั้นเก่งกาจในเรื่องวางอุบาย และมักจะรับรู้ได้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ เขาคิดว่าตำแหน่งของซุ่งรุ่ยหยางนั้นไม่มั่นคง ถึงได้มักจะเสนอให้เขาเอาชนะเหล่าขุนนาง และคบหากับคนที่มีความสามารถ มีสถานะตามแคว้นที่มีชายแดนติดกันให้มาก

ก่อนที่จะมานั้น ซุนกงเยี่ยนยังเกลี้ยกล่อมให้เขาไปมาหาสู่ให้แนบชิดกับรัชทายาทมู่หรงเฉียว และราชครูเหลียง เพราะว่าจักรพรรดิของต้าโจวทุกวันนี้ตกอยู่ในอาการประชวร มู่หรงเจี๋ยเพียงแต่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนชั่วคราวเท่านั้น หากเมื่อจักรพรรดิทรงสวรรคตแล้ว รัชทายาทจะต้องขึ้นครองราชย์ ราชครูในฐานะที่เป็นขุนนางใหญ่คอยให้คำแนะนำ ก็จะมีอำนาจยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ภายหน้าเมื่อเขาขึ้นครองราชย์แล้ว ก็จะมีส่วนช่วยเหลืออย่างมาก

เขาคัดค้านที่ซ่งรุ่ยหยางจะไปมาหาสู่กับมู่หรงเจี๋ย และอ๋องอื่น ๆ เป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าเป็นเพราะทุกวันนี้ต้าโจวนั้นกลายเป็นสองขั้วอำนาจ พวกเขาเป็นศัตรูกัน หากว่าไปใกล้ชิดกับมู่หรงเจี๋ยและอ๋องเหลียง ก็จะทำให้ห่างไกลจากรัชทายาทและราชครู ก่อให้เกิดการสูญเสียได้

เพราะฉะนั้น ในตอนที่ซ่งรุ่ยหยางเสนอออกมาว่าเยี่ยมอ๋องเหลียงนั้น เขาเองก็คัดค้านออกมา และเอ่ยเกลี้ยกล่อม “ฝ่าบาท อ๋องเหลียงนั้นถูกฮองเฮาลงโทษ และก่อนหน้านั้นเขายังทำร้ายรัชทายาท ท่านไปเยี่ยมก็คงจะไม่เหมาะสมนัก”

ซ่งรุ่ยหยางกลับไม่สนใจว่ากงซุนเยี่ยนจะเอ่ยอะไรออกมา แล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องสนใจอะไรมากขนาดนั้น ข้าชื่นชมมู่หรงซิน ต่อไปสามารถเป็นสหายกันได้ เขาได้รับบาดเจ็บ ข้าจะไปเยี่ยมจะมีอะไรที่ไม่เหมาะสม”

เมื่อเอ่ยจบแล้วเขาก็ออกไปในทันที

ซุนกงเยี่ยนเมื่อเห็นว่าแนะนำไปแล้วเขาก็ยังไม่ฟัง จึงส่ายศีรษะแล้วตามออกไป

หงฮวากลับไปรายงานฮองเฮา ฮองเฮาเมื่อได้ยินว่าสถานการณ์สาหัสถึงเพียงนั้น ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “เป็นไปได้อย่างไร? เขาฝึกฝนวรยุทธ์มาโดยตลอด เพียงแค่ห้าสิบไม้ขนาดใหญ่เท่านั้น ทำไมถึงได้บาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ได้?”

หงฮวาเอ่ย “พระชายาโมโหเป็นอย่างมาก นางโยนบ่าวออกมา ดูแล้วสถานการณ์สาหัสมากจริง ๆ เพคะ”

ฮองเฮาส่ายศีรษะ “ไม่มีทางที่จะสาหัสเช่นนั้น ข้าถามหมอหลวงมาแล้ว หมอหลวงบอกว่ามากสุดคือเสียขาทั้งคู่”

“ประหลาดมากจริง ๆ เพคะ ในตอนที่อยู่ในวัง คนยังได้สติอยู่ หากว่าสถานการณ์สาหัสมากเพียงนั้นจริง หวงไท่โฮ่วก็คงจะไม่ส่งฝ่าบาทออกจากวังไป”

ฮองเฮาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ได้การแล้ว ข้าจะต้องออกไปดูเสียหน่อย ตอนนี้ข้าไม่วางใจเซี่ยจื่ออันยิ่งนัก นางจะจงใจทำให้อ๋องเหลียงบาดเจ็บสาหัสขึ้นหรือไม่?”

หงฮวาเอ่ย “คงจะไม่หรอกเพคะ ท่านอ๋องเองก็อยู่ที่นั่นด้วย ท่านอ๋องคงจะไม่ยอมให้นางทำเช่นนั้น”

“คนอย่างมู่หรงเจี๋ยเองเจ้าก็เชื่ออย่างนั้นหรือ? ที่เขาทำดีกับซินเอ๋อร์นั้น ก็เพียงแต่แสดงละครก็เท่านั้น” ฮองเฮาตรัสออกมาอย่างเย็นชา

“นี่ บ่าวเองก็ไม่รู้เช่นกันเพคะ หากว่าฮองเอาจะออกจากวัง เช่นนั้นบ่าวจะสั่งให้คนไปเตรียมพร้อมก่อน” หงฮวาเอ่ย

ฮองเฮาตรัสออกมา “ไปเถิด ในเมื่อเรียกตัวเซี่ยจื่ออันเข้าวังมาไม่ได้ ข้าเองก็จะไปหานางด้วยตนเอง”

เมื่อผ่านยามเฉินไปแล้ว อาการไข้สูงของอ๋องเหลียงก็ค่อย ๆ ลดลง เมื่อไข้ลดลงก็ถือได้ว่าเป็นก้าวที่ดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าสามารถควบคุมเอาไว้ได้แล้ว

จื่ออันพิจารณาใบสั่งยา เพิ่มปริมาณของโสมซานชีเข้าไป ถึงแม้ว่าการการะทำเช่นนี้จะทำให้รากฐานเสียหาย แต่ก็จำต้องแย่งชิงโอกาสที่จะควบคุมการติดเชื้อเอาไว้

การป้องกันการอักเสบเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด บาดแผลขนาดใหญ่เช่นนี้คงไม่อาจที่จะพันแผลได้ ทำได้เพียงใช้ผ้าปิดเอาไว้ ทุกวันจะต้องฆ่าเชื้อ เพราะฉะนั้นหลังจากที่ไข้ลดลง จื่ออันถึงได้เริ่มที่จะฆ่าเชื้อบาดแผล

จื่ออันให้พวกของอี๋เอ๋อร์ออกไปก่อน ทว่าอี๋เอ๋อรืก็ยังยืนยันที่จะอยู่ที่นี้เพื่อคอยช่วยเหลือ จื่ออันไม่อาจจะขัดขืนนางได้ ทำได้ให้เพียงปล่อยให้นางอยู่ในห้อง คนที่เหลือพากันออกไป

หลิวเย่ว์จูงสี่ตาออกมานั่งตรงระเบียง รู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย

อ๋องหลี่สนใจหมาป่าของนางเป็นอย่างมาก จึงได้เข้ามาพูดคุยกับนาง

“ให้อาหารดิบหรือว่าอาหารที่สุกแล้วหรือ?” อ๋องหลี่เอ่ยถาม

“ให้อาหารมังสวิรัติ!” ในขณะที่หลิวเย่ว์เอ่ยออกมานั้น ในมือก็หมุนวนลูกประคำ

“อ่าห์?” อ๋องหลี่ตกใจอย่างมาก “มันเป็นหมาป่า กินมังสวิรัติ?”

“ข้าให้อาหารมังสวิรัติ แต่มันจะขโมยกินเนื้อ” หลิวเย่ว์หันมามองเขา “ท่านชื่นชอบมันมากหรือ?”

“ข้าเลี้ยงสุนัขเอาไว้ตัวหนึ่ง ชื่อว่าต้าจิน แข็งแกร่งกว่ามัน” อ๋องหลี่ดูภาคภูมิใจเล็กน้อย “ทว่า ข้าเองก็ชอบหมาป่า”

“หากว่าชอบก็เอาไปเถิด” หลิวเย่ว์เอ่ย

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท