ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 734
ซ่งรุ่ยหยางแสร้งทำเป็นไม่รู้ เอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย “สุดท้ายแล้วเจ้าก็หลบซ่อนอยู่ในต้าโจว ไม่น่าเล่าถึงไม่มีใครพบเจ้า”
“จะไม่ใช่หรือ? พวกท่านเองก็คงจะไม่มีทางคิดว่าข้าจะหลบซ่อนอยู่ในต้าโจว” นางดูมีท่าทีภาคภูมิใจ และยังไม่ยอมรับว่านางตามเขามา
“เจ้ามาต้าโจวกี่ปีแล้ว?”
“สิบเอ็ดปีแล้ว” นางหลุดปากเอ่ยออกมา จากนั้นก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง “ไม่ ไม่ถูก ข้าจำผิดแล้ว ควรจะเป็นสิบหกปีแล้ว ข้าหลบอยู่ในเมืองเย่อยู่หนึ่งเดือน จากนั้นก็มายังต้าโจว”
“อย่างนั้นหรือ?” ซ่งนุ่ยหยางมองยังนาง “เช่นนั้นเจ้าก็คงจะรู้สินะว่าอี๋เอ๋อร์เป็นบุตรสาวของข้า?”
หลิวเย่ว์อ้าปากค้าง มองยังเขาด้วยความตื่นตกใจ “ทำไมท่านถึงได้มีหน้าเอ่ยออกมาเช่นนี้?”
“ใช่หรือไม่?” ซ่งรุ่ยหยางจ้องมองนางแล้วเอ่ยถามออกมา
ทันใจนั้นหัวใจของหลิวเย่ว์ก็สั่นสะท้านขึ้นมา คนผู้นี้ ในตอนที่นางกำลังตั้งครรภ์อี๋เอ๋อร์นั้น ไล่ฆ่านางตั้งหลายคราว อีกทั้งท้องของนางเองก็ยังถูกดาบฟันเข้ามาครั้งหนึ่ง
“ในตอนนั้นข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน แต่กงซุนเยี่ยนนั้นฟันเข้าท้องข้าครั้งหนึ่ง เด็กก็เลยไม่อยู่แล้ว คนนี้คือตั้งครรภ์ขึ้นในภายหลัง” นางเอ่ยออกมา พร้อมทั้งถอดเสื้อออก เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าในตอนนั้นนางแท้งบุตรไปแล้ว
นางยิ่งร้อนรน การกระทำก็ยิ่งเงอะงัน โดยที่ไม่คาดคิด ซ่งรุ่ยหยางเอื้อมมือออกไปกอดนางเข้าสู่อ้อมแขน ถอดหายใจยาวออกมา “เจ้าต้องการจะหนีไปถึงเมื่อไหร่กัน?”
หลิวเย่ว์พิงลงไปบนหน้าอกของเขา ขัดขืนอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มที่จะเช็ดน้ำตาออกมา น้ำตานี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหยุดไหลได้ ไม่ว่าอย่างไรก็เช็ดไม่หมด จมูกดูเหมือนจะถูกปิดกั้นเอาไว้ “เจ้าเป็นอะไรไป? เริ่มจากไล่ฆ่าข้าก่อน จากนั้นก็มาปลอบข้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าข้าขัดขืนไม่ได้ เจ้านี่มันโหดร้ายจนเกินไปแล้ว”
“ขอโทษ!” น้ำเสียงของซ่งรุ่ยหยางดูเจ็บปวด หลับตาลง แล้วกอดนางเอาไว้อย่างแรง ในใจของหลิวเย่ว์อธิบายไม่ถูกถึงความลังเลที่เกิดขึ้นในใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน เดิมทีคิดว่าคงไม่อาจจะพบเจอกันได้อีกแล้ว ต่อให้จะพบกันก็จะต้องทุบตีกันจนเจ้าตาย ข้าจึงมีชีวิตอยู่
เนิ่นนานนัก เขาถึงได้ปล่อยนางลง ก้มลงมามองยังนาง “ให้ข้าดูรอยบาดแผลทั้งหมด”
หลิวเย่ว์เองก็ไม่ได้เขินอาย ถอดเสื้อผ้าออกทันที หน้าท้อง หน้าอก แผ่นหลัง แขน รวมกันแล้วมีถึงหกรอยแผล ปกปิดไปทั่วผิวงามของนาง
แววตาของซ่งรุ่ยหยางค่อย ๆ เกิดเปลวไฟขึ้น ทว่าก็หายไปในทันที นิ้วมือของเขาเลื่อนผ่านรอยแผลเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง ราวกับว่านางจะยังคงเจ็บปวดอยู่ จากนั้น สวมเสื้อผ้าให้กับนาง เอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “เจ็บหรือไม่?”
“ไม่เจ็บ นี่ถือว่าเจ็บอะไรกัน? ในตอนที่ข้าคลอดอี๋เอ๋อร์ออกมานั้นถึงจะเรียกว่าเจ็บ” หลิวเย่ว์เช็ดน้ำตาออก เผยรอยยิ้มสดใสออกมา “เพราฉะนั้น หากว่าท่านต้องการจะฆ่าอี๋เอ๋อร์ ข้าก็จะสู้กับท่านสุดชีวิต เพราะว่านางใช้ชีวิตของข้าแลกมา”
“ข้าไม่มีทางฆ่านาง ไม่มีทาง นางเป็นของล้ำค่าของข้า ที่เจ้ามอบให้กับข้า ของขวัญที่ดีที่สุด” ซ่งรุ่ยหยางเอ่ยเสียงเบาออกมา เขาเคยสาบานเอาไว้ หลังจากที่ตามหานางจนพบแล้ว จะต้องทุบตีนางอย่างแรง คิดหาวิธีทรมานต่าง ๆ ทว่าเมื่อพบกับนางเข้าจริง กลับพบว่า แม้แต่จะทุบตีนางเบา ๆ ก็ยังตัดใจทำไม่ได้
เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มแล้ว ไม่ได้มีอารมณ์รุนแรงบ้าคลั่งของวัยเยาว์ สิบเจ็ดปี ความโกรธเกรี้ยวในตอนต้นจนถึงความคิดคำนึงในภายหลัง เขาเข้าใจแล้วว่าคราวนี้การกลับมาพบกันอีกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นวาสนาที่เขาโหยหามานานหลายปี
เพราะฉะนั้น หน้าตาจะสำคัญเพียงนั้นเชียวหรือ ขอเพียงแค่นางอยู่ก็พอแล้ว
หลิวเย่ว์ฟังคำของเขา ก็รู้ว่าราวกับฝันไป รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง “ในตอนนั้นท่านสั่งให้คนตามฆ่าข้า ทำไมตอนนี้ถึงได้ทำดีกับข้าเช่นนี้? ท่านมีแผนการอะไรอยู่ใช่หรือไม่? ข้าจะบอกท่านไว้ ท่านคิดจะจัดการข้า ก็ใช้หอกดาบเข้ามา อย่ามาวางกลอุบายกับข้า”
ซ่งรุ่ยหยางไม่ได้อธิบายออกไป ทำเพียงแต่เอ่ยถาม “ก่อนหน้านั้นข้าทำผิดไป เจ้าจะอภัยให้ข้าได้หรือไม่? ข้าขอโทษต่อเจ้า”