ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 782
อี๋เอ๋อร์ยิ้ม “แน่นอนว่าท่านจะไม่เป็นอะไร”
จื่ออันหยิบผ้าก๊อซที่เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วและพูดว่า “ท่านพักผ่อนเถิด ข้าจะไปดูว่าเซียวท่ากลับมาแล้วหรือยัง”
อ๋องเหลียงหยุดนาง “เจ้ายังไม่พบท่านหมอหยวนอีกหรือ?”
“ใช่…ยังไม่พบ!”
อ๋องเหลียงถอนหายใจเบา ๆ “ท่ามกลางคลื่นมนุษย์มากไพศาล การค้นหาใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”
จื่ออันปลอบโยน “อย่ากังวลไปเลย นางต้องไม่เป็นอะไร”
จื่ออันกำลังจะถือของเดินออกไป ทันใดนั้นนางก็นึกถึงเรื่องของฟางเอ๋อร์ขึ้นมา บางทีอ๋องเหลียงอาจจะรู้เรื่องนี้ก็เป็นได้
นางหันกลับมามองอ๋องเหลียง “ใช่แล้ว ฟางเอ๋อร์กลับมาแล้ว มีใครบอกท่านแล้วหรือยัง?”
อ๋องเหลียงพูดอย่างเฉยเมย “การกลับมาของนางนั้น เช่นนั้นก็หมายความว่าอ๋องหนานหวายได้กลับมาแล้ว”
ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เรื่องภายในเป็นอย่างดี นางโยนของออกไปด้านนอก เมื่อไม่เห็นมู่หรงเจี๋ย ดังนั้นนางจึงรีบปิดประตูทันที
“ช่วยบอกข้าที เกิดอะไรขึ้นกับฟางเอ๋อร์? ตอนนั้นนางชอบท่านอ๋องมากเลยหรือ แล้วเหตุใดนางถึงถูกไล่ออกจากบ้านกันเล่า?” จื่ออันถาม
อ๋องเหลียงกล่าวว่า “ทำไมเจ้าไม่ถามไปเสด็จอากันเล่า? มาถามข้าทำไมกัน?”
“เขามีงานหลายอย่างที่ต้องทำ จึงไม่มีเวลาคุยกับข้า” จื่ออันกล่าว
อ๋องเหลียงยิ้ม “เขาไม่บอกใช่หรือไม่?”
“ใช่ เขาไม่ยอมพูด แต่ท่านพูดได้ เช่นนั้นก็บอกข้ามาเถิด”
อ๋องเหลียงกล่าว “ไม่ได้หรอก ถ้าเขาไม่พูด ข้าก็พูดไม่ได้เช่นกัน”
จื่ออันรู้สึกท้อใจ “ได้ ไม่พูดก็ไม่พูด”
ขณะที่นางกำลังจะออกไป อี๋เอ๋อร์ก็พูดขึ้นว่า “ทำไมท่านถึงไม่บอกนางไปกันเล่า? ดูเหมือนนางจะอยากรู้เป็นอย่างมาก”
อ๋องเหลียงพูดเบา ๆ “นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ข้าบอกนางเองคงไม่ดีนัก”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เรื่องส่วนตัวของพวกเรา ข้าก็ยังเคยเล่าให้พี่เฉินเออร์ฟังเลย” อี๋เอ๋อร์กล่าว
“เรื่องส่วนตัวของเรา?” ดวงตาของอ๋องเหลียงเป็นประกาย “เรื่องส่วนตัวอะไรของเรางั้นหรือ?”
อี๋เอ๋อร์กล่าว “หากท่านบอกพระชายา ข้าก็จะบอกท่านเช่นกัน”
จื่ออันแทบอยากจะหอมอี๋เอ๋อร์สักฟอด สาวน้อยคนนี้มีอนาคตที่สดใสเป็นแน่
นางมองไปที่อ๋องเหลียงด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย “ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าอี๋เอ๋อร์บอกพี่เฉินเออร์เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพวกท่านว่าอะไรกันนะ?”
อี๋เอ๋อร์ไม่รู้ว่าจื่ออันกำลังยั่วอ๋องเหลียงอยู่ นึกเพียงว่านางอยากรู้จริง ๆ ดังนั้นนางจึงพูดออกมาตามตรงว่า “บอกว่าพวกเราจะแต่งงานกันน่ะสิ!”
“จริงหรือ? เจ้าพูดอย่างนั้นจริง ๆ หรือ?” อ๋องเหลียงมีความสุขมาก และร่างกายของเขาก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
จื่ออันยักไหล่ ไม่ควรชมนางเร็วไปสินะ พอชมออกไปก็แทบจะกลับคำเสียไม่ทัน
อี๋เอ๋อร์มองไปที่อ๋องเหลียงและพูดว่า “ข้าพูดเสร็จแล้ว ถึงตาท่านแล้ว”
อ๋องเหลียงจะปฏิเสธอี๋เอ๋อร์ได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ว่าตั้งแต่ฟางเอ๋อร์กลับมา เขาก็ไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้ได้ แม้ว่าเขาจะไม่พูด เซียวท่าและซูชิงก็จะพูดอยู่ดี โดยเฉพาะเซียวท่าคนโง่คนนั้น ไม่สามารถต้านทานทักษะการหลอกถามของสุนัขจิ้งจอกได้เป็นแน่
ดังนั้นเขาจึงเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นออกมา
ปรากฏว่าตอนนั้นทั้งซุนฟางเอ๋อร์และโหรวเหย๋าต่างก็ชอบมู่หรงเจี๋ย ในตอนแรกมีเพียงโหรวเหย๋าที่ชอบพอ เพราะซุนฟางเอ๋อร์คือลูกอนุ และไม่ได้รับความรักภายในครอบครัว ดังนั้นนางจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พบปะกับผู้คน และนางไม่ค่อยได้พบกับมู่หรงเจี๋ยมากนัก จนกระทั่ง มีครั้งหนึ่งในวันเกิดของกุ้ยไท่เฟย โหรวเหย๋าไม่สบาย ซุนฟูเหรินจึงได้พาฟางเอ๋อร์ไปที่นั่นแทน
วันนั้น อันที่จริงแล้วซุนฟางเอ๋อร์ไม่ค่อยสบายนัก ทว่านางเกรงว่าหลังจากที่เอ่ยออกมาแล้ว ฮูหยินจะไม่นำนางออกไป ดังนั้นนางจึงฝืนตนเองเอาไว้
สุดท้ายแล้วในขณะที่นางชมดอกไม้อยู่ในสวนนั้น จู่ ๆ ก็เป็นลมไป เป็นมู่หรงเจี๋ยประคองนาง กอดนางเอาไว้ แล้วช่วยเหลือจนนางฟื้นขึ้นมา ในตอนนั้นมู่หรงเจี๋ยยังให้คนไปหาท่านหมอมาช่วยรักษานาง และก็เป็นเช่นนี้ นางมองจึงเห็นเพียงแต่มู่หรงเจี๋ย
ถือได้ว่าเป็นสะพานแรกที่ได้พบอ๋องรูปหล่อจนต้องคิดถึงไปตลอดชีวิต