ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 126 การตกลงเพื่อขอโทษ
ซิลเวียยืนขึ้น และมองไปที่เนลล์ด้วยหางตา น้ำเสียงของเธอเยือกเย็นและดุดัน
“ฉันไม่เคยรุนแรงกับคุณเลยตั้งแต่แม่ของคุณจากไปตั้งแต่คุณยังเด็ก แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมีจิตใจมุ่งร้ายและใจแข็งแบบนี้!
“นายน้อยมอร์ตัน และน้องสาวของคุณกำลังมีความรัก มันไม่เป็นไรเลยถ้าคุณจะหวงน้องสาวของคุณ แต่คุณยืนกรานที่จะเข้ามาแทรกระหว่างพวกเขา ไม่เพียงเท่านั้น แต่คุณยังรังแกน้องสาวของคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าและโกหกว่าเธอเป็นคนขโมยของคุณไป!”
“เนลล์… ฉันขอถามคุณหน่อย คุณยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้างไหม? น้องสาวของคุณดีกับคุณมาตลอด…เธอทนต่อความอัปยศอดสูมากมายที่บ้าน แต่แล้วคุณล่ะ?”
“คุณดื้อรั้นและมีอำนาจเหนือกว่า ไม่ต้องพูดถึงการทำให้เจ็บช้ำน้ำใจและความไม่มีเหตุผล และตอนนี้คุณยังทุบตีใครบางคนและส่งพวกเขาไปโรงพยาบาล! คุณต้องการอะไรกันแน่?”
อีกด้านหนึ่งของประตูออฟฟิศ พนักงานกลุ่มหนึ่งที่กำลังเบียดเสียดกันเพื่อฟังข่าวซุบซิบตกใจกับข่าวที่ได้ยินและแสดงความเห็นอย่างดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่า เนลล์ เจนนิงส์ คนที่ดูอ่อนโยนและมีเหตุผลต่อผู้อื่น จะซ่อนธาตุแท้เช่นนี้เอาไว้เบื้องหลัง…
อาศัยผู้สนับสนุนทางการเงินของเธอ เธอติดต่อชายหนุ่มและโน้มน้าว และพยายามแย่งแฟนหนุ่มที่ร่ำรวยของน้องสาวของเธอ ไม่เพียงแค่นั้น ครอบครัวของเธอยังจับเธอแต่งงานแบบคลุมถุงชนโดยไม่ได้คำนึงถึงชื่อเสียงของเธอ แต่เธอก็ทุบตีเขาและส่งเขาเข้าโรงพยาบาลไป
สวรรค์! เธอเป็นคนเช่นนี้ได้อย่างไร? เธอไร้ยางอายเกินไป! น่าขยะแขยง!
ความลับของคนรวยและผู้มีอำนาจมักจะเป็นหัวข้อที่ถูกถกเถียงกันอย่างมากมายในหมู่พนักงานของบริษัทก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
กับสิ่งที่พวกเขาได้ยินในวันนี้ พวกเขามั่นใจว่าในไม่นานนี้ คนจากจินเฉิงทั้งหมดจะได้รู้เรื่องนี้ด้วย
ในเวลานี้ ทันใดนั้นเองเสียงตะโกนกร้าวก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา
“ถึงเวลาทำงานแล้ว! พวกคุณไม่ทำงานกันหรืออย่างไร! บางที…พวกคุณอาจจะไม่อยากทำงานอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
ทุกคนตกใจและหันกลับไป แต่ก็พบว่านั่นคือฮันนาห์ ฮันนาห์มีท่าทางเย็นชาและกวาดสายตาที่เยือกเย็นมองทุกคน
“พวกคุณทุกคน กลับไปทำงาน!”
พนักงานต่างรีบไป ภายในออฟฟิศ…
เนลล์มองไปที่คนที่ดูใจแคบตรงข้ามกับเธอและหัวเราะเยาะ แต่ก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เธอได้ยินเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดจากด้านนอกก่อนหน้านี้
ซิลเวียต้องจงใจพูดแบบนั้นเพราะเธอรู้ว่ามีพนักงานกำลังแอบฟังการสนทนาอยู่ด้านนอก
ไม่เพียงแต่จะทำให้เธออับอาย แต่ยังสร้างความรู้สึกว่าอะไรที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง และเนลล์ไม่น่าให้อภัย
ครอบครัวเจนนิงส์ ถูกบังคับให้มาที่บริษัทเพราะพวกเขาไม่อาจทนอยู่ได้อีกต่อไปและตอนนี้เรื่องราวต่าง ๆ กำลังจะบานปลาย
สำหรับคนที่อยู่ข้างนอกมันไม่สำคัญเลยว่าสิ่งที่พูดนั้นจะจริงหรือเท็จด้วยประการใด หลังจากที่ได้ฟังคำพูดพวกนั้นแล้ว พวกเขาจะกระจ่ายข่าวออกไปราวกับไฟป่าที่เผาไหม้ลุกลาม
บางที…มันก็ไม่สำคัญว่าความจริงคืออะไร… อะไรก็ตามที่พูดออกไปด้วยการปรุงแต่งของผู้พูด ความอาวุโสของเธอ ผู้คนจึงเชื่อคำพูดของเธอโดยไม่มีเงื่อนไข
เนลล์หัวเราะอย่างแผ่วเบา… เธอเคยเห็นเล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้เมื่อห้าปีก่อน
ซิลเวียใช้ความคิดเห็นของผู้คนเป็นพลัง เธอกำราบพวกหลานสาวของเธอและบังคับให้ออกจากโรงเรียนและไปต่างประเทศ เพื่อที่เธอจะซ่อนตัวเองจากผู้คนและไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีก
ในช่วงเวลานั้น… เธอไร้เดียงสาพอที่จะคิดว่าตราบใดที่เธออธิบายอย่างชัดเจน จะมีคนเชื่อเธอและเธอสามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอบริสุทธิ์ ดังนั้น…เธอจึงพยายามอย่างมากที่จะขอร้องให้คนเหล่านั้นเชื่อในตัวเธอและให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม… ในโลกนี้ มีบางคนและบางสิ่งบางอย่างรู้ว่าพวกเขาน่ากลัวอย่างไร หลังจากที่ได้สัมผัสพวกเขาด้วยตัวของเราเอง
พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องความยุติธรรมและความจริง เพื่อบรรลุเป้าหมายและผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเขาจะจงใจบิดเบือนความจริงโดยไม่ตั้งคำถาม
พวกเขากินขนมปังจุ่มในเลือดมนุษย์ แม้ว่าผู้ถูกข่มเหงจะคุกเข่าต่อหน้าพวกเขา ขอร้องและอ้อนวอน…พวกเขาไม่ขยับแม้แต่น้อยและไม่หันหลังกลับ
เนลล์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ซิลเวีย วอล์คเกอร์ ก็ยังคงเป็น ซิลเวีย วอล์คเกอร์ คนเดิมจากเมื่อห้าปีก่อน
เห็นแก่ตัวและไร่ซึ่งความปราณี…
น่าเสียดายที่เนลล์ไม่ได้อ่อนแอง่าย และเป็นเนลล์ที่ไร้ซึ่งที่พึ่งพาเช่นเมื่อห้าปีก่อน
“ซิลเวีย วอล์คเกอร์ คุณจะต้องเสียใจกับสิ่งที่คุณพูดในวันนี้ ฉันสาบาน”
เธอเอ่ยถ้อยคำด้วยความเย็นชา และดวงตาที่แน่วแน่เย็นชานั้นกะพริบด้วยความเยือกเย็น
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซิลเวียตกใจกับท่าทางนั้น ชั่วขณะหนึ่ง ความกลัวเกิดขึ้นในใจของเธอ…
เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ไม่… เป็นแบบนั้นไม่ได้
เธอเป็นหัวหน้าครอบครัวเจนนิงส์ ทุกคนในครอบครัวต้องเชื่อฟังเธอ รวมถึงผู้หญิงคนนี้ด้วย!
แม้แต่ผู้มีอำนาจเช่นแม่ของเธอยังตายด้วยน้ำมือของเธอเองเพียงเพราะไม่เชื่อฟังซิลเวีย
เด็กผู้หญิงตัวเล็กเช่นนี้สร้างแรงต่อต้านเช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้… หัวใจของซิลเวียสงบลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นอะไรไป? เธอพยายามจะขู่ฉันหรือ?”
เธอหยุดชั่วขณะ…เธอสูญเสียความมั่นใจเมื่อเนลล์มองมาที่เธอ และพูดด้วยเสียงต่ำ “ฉันไม่ถามอะไรคุณมากนัก ฉันแค่อยากให้คุณไปที่โรงพยาบาลกับฉันเพื่อขอโทษเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณก็คือคนที่ทำร้ายเขา ดังนั้นการขอโทษคือสิ่งที่ควรจะทำ!”
เนลล์ยิ้มเยาะ “ขอโทษเหรอ? ได้สิ ฉันจะไปกับคุณ”
ซิลเวียตกใจอีกครั้ง เธอมองไปที่เนลล์ที่เย็นชาแต่มองด้วยความดูถูก ไม่แน่ใจว่าคำพูดจะจริงหรือเท็จ
“คุณ… คุณจะไปจริงๆเหรอ?”
“แน่นอน มีอะไรเหรอ? ฉันตกลงแล้ว แต่ตอนนี้คุณเปลี่ยนใจ?”
“มีอะไรที่ฉันจะเปลี่ยนใจ?” ซิลเวียแอบขมวดคิ้ว
โถ่เอ้ย! วันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกัน?
น่าแปลกใจที่เธอถูกผู้หญิงคนนี้ข่มเอาไว้หลายครั้ง ซิลเวียมีอายุมากกว่าและมีประสบการณ์มากกว่าเนลล์ เธอจะกลัวเด็กผู้หญิงที่ไม่เคยผ่านมรสุมชีวิตได้อย่างไร?
เธอกัดฟัน พลางใช้ความคิด “เอาล่ะ เราจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าออกไปก่อน
ฌอนและคนอื่นๆรีบตามเธอไป เซลีนตามหลัง ขณะที่เธอเดินผ่านเนลล์ ใบหน้าใจดีและอ่อนโยนของเธอฉายแววหยิ่งยโสและเยาะเย้ย
“น้องสาว… ฉันไม่ได้หัวงให้เธอโค้งคำนับหรือจำยอม ฉันเคยคิดว่าคุณมีกระดูกสันหลัง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้คุณจะทำมันหายไป! ดีแลน แคป ทำกับคุณถึงขนาดนี้ แต่คุณก็ยังเต็มใจจะขอโทษ…
“ฮ่า ฮ่า เป็นไปได้ว่านายน้อยลีย์ คงจะเหนื่อยกับคุณจริง ๆ เลยตัดสินใจทิ้งคุณไปใช่ไหม? นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องรีบจับสวะอย่าง ดีแลน แคป”
เนลล์มีท่าทางเย็นชา เธอไม่มีอะไรจะพูด แต่เธอจ้องมองราวกับกำลังมองคนที่พูดจากคนปัญญาอ่อน
คนปกติจะไม่รำคาญที่จะพูดคุยกับคนปัญญาอ่าน ท้ายที่สุด…ไม่มีอะไรจะต้องเถียงกับคนโง่แบบนี้
ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เซลีนเริ่มจ้องมองเธอด้วยสายตาแบบนั้น? เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
เธอกัดฟันและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบความโกรธในใจและเริ่มหัวเราะเยาะ
“น้องสาว… ฉัยขอเตือนคุณด้วยความหวังดีนะ คุณควรจะระวังเอาไว้บ้าง! การเป็นภรรยาน้อยมันไม่ดี ฉันได้ยินมาว่าภรรยาที่คู่ควรกับนายน้อยลีย์ เป็นคนที่มาจากครอบครัวที่เป็นที่ยอมรับในเมือง เธอไม่ใช่คนที่คนที่คุณหรือฉันจะทำให้เคืองขุ่นได้ ฉันขอแนะนำคุณว่า แม้ว่าดีแลนด์อาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่า ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกัน? ไม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะคุณก็มีเสื้อผ้าใส่และมีอาหารกินไปตลอดชีวิตของคุณ