ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 10 อย่ากังวลไปเลย ฉันไม่ตายหรอก
หลังอาหารถูกนำมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ก็นั่งทานเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เด็กสาวหิวโหยมากจริงๆ เธอไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล ดังนั้นท้องของเธอจึงร้องโครกคราก เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปซูเปอร์มาร์เก็ต หวังจะขอมาประทังชีวิตโดยค้างจ่ายเงินไว้ก่อนแต่ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายเช่นนั้น พนักงานสาวกลับจะส่งเธอไปสถานีตำรวจให้ได้
เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าเสร็จ เธอมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม โม่หันกินอาหารไปได้เพียงครึ่งจานเท่านั้น เขานั่งหลังตรงให้ความรู้สึกมั่นคงกับคนที่มองมาและก้มหน้ารับประทานอาหารเงียบๆ ท่าทางคุ้นเคยของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าเขามาอุดหนุนร้านนี้อยู่บ่อยๆ
เธอก้มมองซุปในชามเล็กๆ ที่เหลืออยู่ ความหิวที่หายไปและถูกแทนที่ด้วยความเบื่อหน่าย การนั่งมองเขาทานอาหารทำให้เธอกระอักกระอ่วน เธอจึงตัดสินใจลุกไปเข้าห้องน้ำ
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันอยากเข้าห้องน้ำสักหน่อย” สิ้นประโยค เธอก็เผลอกระแทกหน้าท้องกับมุมโต๊ะขณะลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นความเจ็บปวดบริเวณหน้าท้องก็จู่โจมเธอไปทั่วร่าง
ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้อง เมื่อก้มลงมองก็พบว่าตอนนี้มือของเธออาบไปด้วยเลือดที่บางส่วนไหลซึมออกมาเลอะเสื้อผ้า แผลต้องเปิดอีกแล้วแน่ๆ
โม่หันหยุดมือที่กำลังทานอาหาร ส้อมและมีดยังถือค้างไว้ในมือ เขาดูตื่นตระหนกยามเห็นเธอกุมหน้าท้องด้วยความเจ็บปวด “เกิดอะไรขึ้น”
ความเจ็บปวดที่ได้รับมันมากจนเธอพูดอะไรไม่ออก ปากสั่นจนได้ยินเสียงฟันกระทบกัน
เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างก่อนก้าวเข้าไปหา ตอนนั้นเองที่เห็นเลือดไหลอาบมาจากหน้าท้องของเธอ ปลายเสื้อชุ่มโชกไปด้วยสีแดงของเลือด เขาประคองไหล่ของเธอไว้แล้วถามพร้อมคิ้วที่ขมวดแน่น “คุณเป็นอะไร”
เธอตอบเสียงอ่อนแรง “แผลของฉัน…เปิด คุณช่วยพาฉันไปโรงพยาบาลหน่อยได้ไหม”
เขาอุ้มเธอไปที่รถ มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
ไป๋อวี่ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะต้อนรับด้านหน้าเห็นโม่หันรีบอุ้มเด็กสาวออกไปก็วิ่งตามมาพลางร้องถาม “เฮ้! เกิดอะไรขึ้นน่ะ บอกฉันได้ไหมว่านี่มันเรื่องอะไรกัน”
โม่หันกล่าวขณะอุ้มเด็กสาวตัวเบาหวิวในสภาพอ่อนแรง “ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล มื้อนี้ลงชื่อฉันไว้ก่อนละกัน”
ไป๋อวี่ไล่ตามหลังมา “พาฉันไปด้วยสิ! นายต้องมีคนช่วยเพิ่มนะ”
โม่หันออกรถในขณะที่เธอนอนอิดโรยอยู่บนเบาะหลัง มือทั้งสองข้างแนบที่หน้าท้อง เลือดยังคงไหลผ่านซอกนิ้วไม่หยุด ไป๋อวี่ที่นั่งอยู่ข้างเธอตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าแล้วเอ่ยถามโม่หันที่กำลังขับรถด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ “เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน ทำไมเนื้อตัวถึงได้อาบเลือดอย่างนี้ล่ะ เมื่อกี้เธอยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ”
“แผลของเธอปริ”
“แผล? แผลอะไร เท่าที่ดูตอนนี้มันต้องไม่ใช่แค่แผลเล็กๆ แน่ๆ สาวน้อยคนนี้ไปโดนอะไรมา” ไป๋อวี่
มองใบหน้าซีดเผือดของเธอจนเกือบคิดว่าจะหมดสติไปแล้ว เขารู้สึกกลัวขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง
“เธอคงไม่มาล้มตายที่นี้ใช่ไหม” ไป๋อวี่พูดออกมาอย่างไม่คิด เขามองไปที่โม่หันที่กำลังขับรถสีหน้าเคร่งเครียด
ชายหนุ่มในที่นั่งคนขับมีท่าทีแข็งกร้าวทว่าไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ทันใดนั้นเด็กสาวที่นึกว่าหมดสติไปแล้วข้างๆ ไป๋อวี่ก็อ้าปากพูดขึ้น “ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ฉันไม่ตายหรอก แค่เสียเลือดมากไปหน่อย”
ไป๋อวี่นิ่งอึ้งไปขณะหันไปมองหน้าเธอที่ยังสามารถพูดได้ว่าตัวเองสบายดีแม้จะถูกความเจ็บปวดเข้าเล่นงาน เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่ เธอยังใจเย็นในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เลือดออกมามากขนาดนั้นแท้ๆ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงกลัวจนร้องไห้ออกมาไปแล้ว แต่เธอคนนี้กลับยังมีเวลามาต่อปากต่อคำกับเขาเรื่องความเป็นความตายของตัวเองอีก
ยิ่งไปกว่านั้น โม่หันคนเฉยชาที่ปกติรักษาระยะห่างกับคนแปลกหน้าอย่างกับมีภูเขามากั้นไว้ ทำไมเขาถึงพาเธอมาเลี้ยงอาหารที่ร้านของเขา
พวกเขามีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่