จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 393 หากข้าตาย ฝ่าบาทก็ไม่รอดเช่นกัน

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 393 หากข้าตาย ฝ่าบาทก็ไม่รอดเช่นกัน

ซ่างกวนหรูเหมือนจะรู้สึกตัวนานแล้ว คนทั้งคนดูเหมือนจะหันหลังและเดินไปด้านข้าง หลบฝ่ามือเมื่อครู่นี้ของอวี๋เทาไปได้อย่างหวุดหวิด

“ในเมื่อฝ่าบาทเรียกพบ เราก็รีบไปกันเถอะ!” ซ่างกวนหรูหันหลังเดินไปทางประตู ย่างก้าวของนางเร็วขึ้นอย่างมาก

หากนางเกิดเรื่องขึ้นในลานของตัวเอง ด้วยวิธีการของอวี๋เทาลงโทษบ่าวรับใช้สองสามคนเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง แต่หากออกจากลานไป พระราชวังหูตาเยอะ คิดว่าอวี๋เทาคงไม่กล้าลงมือง่ายๆ

อวี๋เทาจ้องมองไปที่ท้ายทอยของซ่างกวนหรูด้วยความโกรธแค้น แต่เขาก็รู้ว่าพลาดโอกาสเมื่อครู่นี้แล้ว ได้แค่รอคอยโอกาสเงียบๆ

ซ่างกวนหรูและคนอื่นๆมุ่งหน้าไปยังตำหนักบรรทมของฮ่องเต้ ระหว่างทางพบกับจินกุ้ยเหริน

“หัวหน้าอวี๋นี่คือ?” จินกุ้ยเหรินถาม

“ฝ่าบาทต้องการพบคุณหนูหรู ดังนั้นข้าจะพานางไปเข้าเฝ้า” อวี๋เทากล่าวตอบ

“ไม่ทราบว่าข้าสามารถพูดคุยกับคุณหนูหรูสักสองสามคำได้หรือไม่”

“ได้ อย่าให้เสียเวลามากนัก” อวี๋เทานำกำลังคนไปยืนอยู่ด้านหนึ่ง

ซ่างกวนหรูมองไปทางจินกุ้ยเหริน นางไม่รู้จักจินกุ้ยเหรินผู้นี้เลยด้วยซ้ำ เกรงว่าคงมาจะมาหัวเราะเยาะตัวเองกระมัง

เห็นเพียงจินกุ้ยเหรินมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง ลดเสียงลงมาและกล่าวว่า “ซ่างกวนเฉิงเซี่ยงขอให้ข้ามา เขาบอกให้ข้าบอกเจ้าว่า——”

ทันทีที่ซ่างกวนหรูได้ยินท่านพ่อเป็นคนให้นางมา ก็ปล่อยวางการระมัดระวังตัวลงมาทันที เงี่ยหูเข้ามาฟัง

จินกุ้ยเหรินเห็นนางติดกับแล้ว จู่ๆก็ควักมีดสั้นออกมาจากแขนเสื้อ และทางไปทางหน้าอกของซ่างกวนหรูอย่างแรง

“อ๊า!” ซ่างกวนหรูกรีดร้องขึ้นมา คิดไม่ถึงเลยว่าจินกุ้ยเหรินจะลงมือ มองดูมีดสั้นเล่มนั้นแทงเข้าไปในหัวใจของตนเองต่อหน้าต่อตา ผลักนางออกไปด้วยแรงกำลังทั้งหมดที่มี

“เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้าด้วย?”

เลือดไหลลงมาจากหน้าอกของนาง ย้อมชุดกระโปรงสีขาวของซ่างกวนหรูเป็นสีแดง บาดตาอย่างยิ่ง นางเจ็บจนใบหน้าซีดขาว คนทั้งคนล้มลงไปกับพื้น

“ที่ข้าทำร้ายก็คือเจ้านี่แหละ ในอดีตข้าต่างหากที่เคยเป็นสนมที่ฝ่าบาทโปรดปรานที่สุด แต่หลังจากที่ลูกของข้าเสียชีวิตไป ฝ่าบาทก็ไม่เหลียวแลข้าอีกเลย

และทันทีที่เจ้าเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งเฟย ได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฝ่าบาท ลานที่อาศัยอยู่ก็คือลานที่ข้าเคยอยู่ เจ้าถือสิทธิอะไรมาแย่งลานของข้าทันทีที่เข้าวังมา

ข้าเกลียดชังเจ้า เกลียดที่เจ้าแย่งฝ่าบาทไป เกลียดที่เจ้าได้รับเกียรติยศและความโปรดปรานในวังหลัง เกลียดที่เจ้าพรากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของข้าไป——” จินกุ้ยเหรินตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะเย้ยหยันที่แสบแก้วหูทำให้คนฟังรู้สึกหวาดกลัว

หากหลิ่วผินไม่ได้บอกนาง ว่าซ่างกวนหรูไม่ใช่หรูเฟยแล้ว เกรงว่านางคงยังไม่กล้าลงมือกับซ่างกวนหรู

อวี๋เทาที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพฉากนี้ ก็ตะลึงงันไปเช่นกัน จินกุ้ยเหรินผู้นี้ช่างไม่กลัวตายจริงๆ ถึงกับลงมือกับซ่างกวนหรูในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้

“ช่วยด้วย รีบช่วยข้าเร็วเข้า” ซ่างกวนหรูเจ็บจะตายอยู่แล้ว กล่าวต่ออวี๋เทาอย่างอ่อนแรง

องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจกลัวแทบแย่ รีบร้อนสอบถาม “หัวหน้าอวี๋ต้องไปเชิญหมอหลวงหรือไม่?”

“ไม่ต้อง เรารับผิดชอบแค่ส่งคนไปเท่านั้น ไม่ได้รับผิดชอบเรียกหมอหลวง” อวี๋เทากล่าวอย่างเย็นชา

หาได้ยากที่ซ่างกวนหรูจะมีท่าทางใกล้จะตายเช่นนั้น อวี๋เทารู้สึกสาแก่ใจอย่างยิ่ง สวรรค์เข้าข้างจริงๆ

“ขอรับ” บรรดาองครักษ์ย่อมไม่กล้าพูดมากอยู่แล้ว

ซ่างกวนหรูจ้องมองไปทางอวี๋เทาด้วยความโกรธแค้น “หากข้าตายไป ฝ่าบาทก็หมดหวังแล้ว ภายในร่างกายของฝ่าบาทมีหนอนพิษกู่ที่ข้าฝังเอาไว้ หากไท่จื่อรู้ว่าเจ้าจงใจเห็นข้าตายโดยไม่ให้การช่วยเหลือ ส่งผลให้ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ ทั่วทั้งตระกูลอวี๋ของพวกเจ้าก็ถูกฝังไปพร้อมกันเลยเถอะ!”

เดิมทีซ่างกวนหรูไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องหนอนพิษกู่ อย่างไรเสียการวางยาพิษให้กับฮ่องเต้แห่งแคว้นก็มีโทษสมควรตายอยู่แล้ว แต่ฮ่องเต้ปฏิบัติต่อนางอย่างไร้น้ำใจเช่นนี้ ซ่างกวนหรูก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ลงเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น อวี๋เทาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการจะให้ตัวเองตาย หากนางไม่พูดให้เรื่องราวมันร้ายแรง อวี๋เทาต้องไม่สนใจตัวเองอย่างแน่นอน

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา อวี๋เทาก็ตกตะลึงสุดขีดจริงๆ “เจ้าถึงกับวางหนอนพิษกู่ต่อฝ่าบาท ซ่างกวนหรูเจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก?”

ซ่างกวนหรูยิ้มเย้ยหยัน “ฝ่าบาทไม่มีความรักความเมตตาต่อข้า ทำไมข้าต้องมีความเที่ยงธรรมต่อเขาด้วย เวลานี้เขากำลังทนทุกข์ทรมานจากหนอนพิษกู่ หากเป็นเพราะเจ้าทำให้เวลาล่าช้าส่งผลให้ฝ่าบาทสวรรคต ความผิดนี้หนักไม่เบาเลยนะ”

ถึงแม้อวี๋เทาจะไม่แน่ใจว่าที่นางพูดคือเรื่องจริงหรือไม่ แต่เมื่อเห็นซ่างกวนหรูเสียเลือดไปมากแล้ว ถึงได้รีบร้อนให้องครักษ์ช่วยพยุงนางขึ้นมา พร้อมกุมตัวจินกุ้ยเหรินไปเข้าเฝ้าพร้อมกัน

ตำหนักด้านข้าง ฮ่องเต้กำลังเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตต่อ เมื่อขันทีที่อยู่หน้าประตูเห็นซ่างกวนหรูก็สะดุ้งตกใจไปจริงๆ

“ทำไมถึงบาดเจ็บขนาดนั้น?”

“ระหว่างทางที่ข้าน้อยส่งนางมาที่นี่ พบกับจินกุ้ยเหรินเข้า จินกุ้ยเหรินเป็นคนทำร้ายนาง!” อวี๋เทาตอบไปตามความจริง

“เร็ว รีบยกเข้านางเข้าไปเลย ฝ่าบาทกำลังรอนางอยู่” ขันทีรีบประคองซ่างกวนหรูเข้าไปทันที

อวี๋เทาช่วยประคองนาง ทันทีที่เข้าไปก็เห็นฝ่าบาทที่สีหน้าตึงเครียดอยู่บนเตียง เจ็บปวดจนขดกันเป็นก้อน รีบคุกเข่าลงไปและกล่าวว่า

“ฝ่าบาท ระหว่างทางที่ข้าน้อยส่งคุณหนูหรูมาเมื่อครู่นี้ พบกับจินกุ้ยเหรินเข้า จินกุ้ยเหรินทำร้ายคุณหนูหรู คุณหนูหรูยอมรับด้วยตัวเองว่านางวางหนอนพิษกู่ให้กับพระองค์ หากข้าน้อยไม่ส่งนางเข้ามาอีก พระองค์ก็จะตายทั้งเป็น!” อวี๋เทากล่าวด้วยความเคารพนบนอบ

เมื่อฮ่องเต้ที่กำลังเจ็บปวดเหลือทนได้ยินคำพูดนี้ ก็โกรธจนขว้างถ้วยชาที่อยู่ด้านข้างหกลงไปบนพื้น “ซ่างกวนหรูที่สมควรตาย เจ้าถึงกับวางหนอนพิษกู่ให้ข้า มิน่าจู่ๆข้าถึงรู้สึกปวดหัวแทบตาย รีบให้ยาถอนพิษข้าเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น!”

ซ่างกวนหรูที่หายใจรวยรินกลับยิ้มเย้ยหยันออกมา “ว่าข้าสมควรตาย ทำไมฝ่าบาทถึงไม่บอกว่าตัวเองไร้ความปรานี นาทีก่อนยังร่วมรักกับข้าอยู่เลย นาทีต่อมาก็จะส่งข้าไปให้ซวนอ๋องแล้ว

บอกพระองค์ตามตรงแล้วกัน ที่อยู่ในร่างกายของข้าคือกู่ตัวแม่ และที่อยู่ในพระวรกายของฝ่าบาทคือกู่ตัวลูก ถ้าหากข้าตายไป ฝ่าบาทก็ไม่รอดเช่นนั้น ดังนั้นหากฝ่าบาทอยากมีชีวิตรอด ก็ต้องส่งคนมาช่วยข้า”

“ผู้หญิงที่ใจดำอำมหิตอย่างเจ้าถึงกับโหดเหี้ยมเช่นนี้ ดูว่าข้าจะไม่ฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ โอ้ยหัวของข้า!” เป่ยจิ่วฉิงคำรามด้วยความโกรธ เจ็บจะตายอยู่แล้ว

“ฝ่าบาท ถ้าอย่างไรให้หมอหลวงรักษาให้หรูเฟยก่อนดีไหม ไม่สิ รักษาให้ซ่างกวนหรู พระวรกายของพระองค์สำคัญกว่า!” ขันทีคนสนิทกระซิบถาม

ฮ่องเต้ทั้งโกรธทั้งเกลียดทั้งเจ็บ เขาเป็นคนที่กลัวความตายที่สุด ได้แต่ทำเช่นนี้แล้ว

“ยังไม่รีบไปอีก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามรักษานางให้ได้ นังแพศยาที่สมควรตายคนนี้ข้าจะไม่ปล่อยนางไปเด็ดขาด!” เสียงที่เย็นยะเยือกของฮ่องเต้ เต็มไปด้วยความเกลียดชังสุดขีด

อวี๋เทาเห็นดังนั้น ก็แอบโล่งใจเงียบๆ “ฝ่าบาท จะจัดการกับจินกุ้ยเหรินอย่างไร?”

“ขังเอาไว้ในคุกก่อน ตอนนี้ข้ายังไม่มีเวลาสนใจนาง!” ฮ่องเต้ตรัสอย่างไม่สบอารมณ์

“พ่ะย่ะค่ะ!” อวี๋เทารีบนำจินกุ้ยเหรินจากไปทันที

ทั่วทั้งวังหลังยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะตำหนักด้านข้าง ฮ่องเต้เจ็บปวดจนกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟังแล้วทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ถูกสายของพระราชวังส่งออกไป ไม่ช้าทั้งจวินหย่วนโยวกับซวนอ๋องก็ล้วนได้รับข่าว

จวินหย่วนโยวมองดูเนื้อหาบนกระดาษข้อความ มุมปากยกขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยมเล็กน้อย “ซ่างกวนหรูถึงกับวางหนอนพิษกู่แม่ลูกให้กับเป่ยจิ่วฉิง นี่กลับช่วยให้ข้าไม่ต้องลงมือเอง!”

หยุนถิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน “ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น เป่ยจิ่วฉิงคงจะไม่ปล่อยให้ซ่างกวนหรูเป็นอะไรไปแน่นอน เขาต้องปกป้องความปลอดภัยของตัวเอง”

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดก็จะสามารถทำได้” นัยน์ตาที่มืดมนของจวินหย่วนโยวมีความเย็นยะเยือกและมืดมนเล็กน้อยแว๊บผ่านไป

“ซื่อจื่อ ข้าปรุงยาพิษเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เม็ดเดียวก็เพียงพอแล้ว” หยุนถิงยื่นขวดเครื่องเคลือบมาให้

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท