จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 705 รักแรกพบ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 705 รักแรกพบ

“ซื่อจื่อเฟย นางแค่น่ากลัวที่ไหนกัน อสุรกายชัดๆ! โชคดีที่ข้าหัวไวกระโดดลงน้ำได้ทัน ถึงไม่ถูกพบเข้า ฮัดเช้ย!” หลงเอ้อร์พูดพลางจามออกมาอีกครั้ง

หยุนถิงหลุดหัวเราะพรืด “ไม่คิดเลยจริงๆว่า องครักษ์เงามังกรที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินจะมากลัวสตรีผู้หนึ่ง”

“ซื่อจื่อเฟยท่านอย่าล้อข้าสิ มันง่ายนักรึ” หลงเอ้อร์โอดครวญ

“เอาล่ะ รีบไปเปลี่ยนชุดซะ หากไม่สบายไปแล้วแพร่เชื้อมาให้ซื่อจื่อเฟยกับลูกๆ ข้าเอาเรื่องเจ้าแน่!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น

“ขอรับ!” หลงเอ้อร์มุดเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

จวินหย่วนโยวเดินเข้ามาจูงมือหยุนถิง ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่หัวเรือ มองไปไกล ไม่มีใครพูดอะไร

เรือแล่นถึงท่า จวินหย่วนโยวก็พาหยุนถิงกลับ เพราะลูกทั้งสองอยู่ที่จวน จะออกไปนานจวินหย่วนโยวก็ไม่วางใจ

จวนซื่อจื่อ

พอหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเข้าจวน ก็เห็นจวินเสี่ยวเหยียนวิ่งเข้ามาหาด้วยขาเล็กสั้น “ท่านแม่ ท่านแม่ อุ้มๆ!”

หยุนถิงอุ้มเด็กน้อยขึ้นทันที “เสี่ยวเหยียนคิดถึงท่านแม่แล้วใช่ไหม แม่ก็คิดถึงเจ้า”

จวินเสี่ยวเหยียนจูบแก้มหยุนถิง หัวเราะร่วนขึ้นมา “คิดถึงท่านแม่!”

“ฮะฮะ เจ้านี่นะ”

“ท่านแม่ ท่านอามา!” จวินเสี่ยวเหยียนมองไปทางโม่เหลิ่งเหยียน

พอโม่เหลิ่งเหยียนได้ยินว่าหยุนถิงกลับมา คิดว่าเมื่อวานนางเหนื่อยมาก เลยไม่ได้ส่งนังหนูข้ามมา

“หลายวันนี้ที่เสี่ยวเหยียนอยู่กับข้า ทุกอย่างเรียบร้อย นางว่านอนสอนง่าย พอได้ยินว่าเจ้ากลับมาแล้ว ข้าก็เลยส่งนางกลับมา” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ

“ขอบคุณมาก!” หยุนถิงซาบซึ้ง

เพราะจวินเสี่ยวเหยียนไม่ได้หาใครก็ได้ ถ้าเด็กน้อยอาละวาดขึ้นมา ก็จัดการได้ยากเหมือนกัน

“ไม่ต้องเกรงใจ”

สีหน้าจวินหย่วนโยวบูดบึ้งยิ่งนัก ยัยหนูนี่ไม่ต้องลักพาตัว ก็ยอมไปหาโม่เหลิ่งเหยียนเอง เขาสงสัยจริงๆว่าจวินเสี่ยวเหยียนเป็นลูกสาวตนจริงหรือไม่

แน่นอน เรื่องนี้จวินหย่วนโยวมั่นใจมาก เพียงแต่นังหนูนี่ดูจะชอบโม่เหลิ่งเหยียนเกินไปแล้ว มันทำให้พ่ออย่างเขาหึง

แต่เห็นแค่ที่ลูกสาวมีความสุขขนาดนี้ จวินหย่วนโยวเลยไม่ถือสาละ

“ขอบคุณซวนอ๋องมากที่ช่วยดูแลเสี่ยวเหยียนในหลายวันนี้ คืนนี้อยู่ทานอาหารเย็นที่จวนซื่อจื่อเถอะ” จวินหย่วนโยวบอก

“ได้!” โม่เหลิ่งเหยียนรับปากทันที

หากเป็นเมื่อก่อน โม่เหลิ่งเหยียนรับปากอยู่ต่อก็เพื่อยั่วโมโหจวินหย่วนโยว แต่ตั้งแต่มีจวินเสี่ยวเหยียน โม่เหลิ่งเหยียนก็ชอบเด็กน้อยคนนี้จากใจจริง

เขาเองก็ไม่รู้ว่า ทั้งๆที่เด็กน้อยคนนี้เจอกับตนไม่กี่ครั้ง ทำไมถึงได้ชอบตนเช่นนี้ แต่พอเห็นใบหน้าน้อยน่ารักของนางแล้ว หัวใจที่เย็นเยียบของโม่เหลิ่งเหยียนพลันอบอุ่นขึ้นมา

“คืนนี้ข้าเข้าครัว ข้าเรียนอาหารใหม่ๆจากทุ่งหญ้ามา ให้ทุกคนชิมกันหน่อยเลยละกัน!” หยุนถิงบอก

พอทุกคนได้ยินว่าซื่อจื่อเฟยจะเข้าครัว ก็พากันยินดียิ่งนัก ฝีมือทำอาหารของซื่อจื่อเฟยเรียกได้ว่าเยี่ยมยอดนัก คืนนี้มีลาภปากอีกแล้ว

พ่อบ้านกำลังจะให้คนไปเตรียมวัตถุดิบ ซูกงกงก็มาด้วยตัวเอง

“คืนนี้ฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงในวัง เพื่อต้อนรับองค์หญิงรองและองค์หญิงสี่แห่งแคว้นเป่ยลี่ ขอจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยเข้าร่วมให้ได้ ซวนอ๋องก็อยู่ด้วยดียิ่งนัก ข้าจะได้ไม่ต้องไปจวนซวนอ๋องแล้ว ฝ่าบาทให้ท่านไปร่วมด้วย” ซูกงกงบอก

“เลือกเวลาได้ดีจริงๆ” โม่เหลิ่งเหยียนเบ้ปากบอก

นานทีหยุนถิงจะเข้าครัว แต่เขาก็ไม่กล้าขัดรับสั่งฮ่องเต้ อึดอัดใจจริงๆ

“มื้อนี้ติดไว้ก่อน ครั้งหน้าค่อยเชิญซวนอ๋อง” หยุนถิงบอก

“ได้”

โม่เหลิ่งเหยียนก็ไม่ได้กลับจวนตนเอง เขาอยู่ที่จวนซื่อจื่อจนฟ้ามืดเลย

หยุนถิงดูแลลูกทั้งสองกินข้าวเสร็จ เยว่เอ๋อร์และซูหลินคอยดูแลพวกเขา พวกหยุนถิงสามคนถึงไปพระราชวัง

ท้องพระโรงพระราชวัง

ฮ่องเต้นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง หลิ่วเฟยนั่งข้างๆ มีสนมอีกนางหนึ่งที่หยุนถิงไม่รู้จัก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ด้านซ้ายเป็นหลีอ๋อง เฉินอ๋อง และยังมีขุนนางอีกหลายคน ด้านขวามีที่ว่างสามที่ สุดท้ายมีเป่ยตันเสวี่ยและเป่ยจิงจิงนั่งอยู่

“คารวะฝ่าบาท!” พวกหยุนถิงสามคนถวายบังคมอย่างนอบน้อม

“ตามสบาย นั่งลงประจำที่เถอะ” ฮ่องเต้บอก

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

จวินหย่วนโยวยื่นมือมา จูงมือหยุนถิงเข้าไปนั่งที่ตำแหน่งด้านขวา โม่เหลิ่งเหยียนเดินตามหลัง ทั้งสามคนนั่งประจำที่

“ซื่อจื่อเฟย หลงเอ้อร์ไม่ได้มากับท่านรึ?” เป่ยจิงจิงกระซิบถามเสียงเบา

หยุนถิงส่ายหัว “เขามีธุระ”

“ทำไมมีธุระอีกแล้ว” เป่ยจิงจิงสีหน้าผิดหวัง คิดว่าคืนนี้จะได้เจอหลงเอ้อร์เสียอีก

“นานทีองค์หญิงรองและองค์หญิงสี่แห่งแคว้นเป่ยลี่จะมาเยี่ยมเยือนแคว้นต้าเยียน คืนนี้เลยจัดงานเลี้ยงต้อนรับรับรองทั้งสองท่าน องค์หญิงทั้งสองตามสบายเถิด” เหมยเฟยบอก

“พี่หญิงพูดถูก องค์หญิงรองเฉลียวฉลาดงามล้ำ เหมาะสมราวกิ่งทองใบหยกกับหลีอ๋องนัก ฝ่าบาทท่านว่าอย่างไรเพคะ?” หย่าผินถาม

ฮ่องเต้อารมณ์ดีมาก หันมองเป่ยตันเสวี่ย “หย่าผินพูดถูกต้องแล้ว องค์หญิงรองกับหลีอ๋องต่างเป็นบุรุษและสตรีรูปงาม เหมาะสมกันจริงๆ วันนี้ข้าจะประกาศสมรสพระราชทานให้ หลีอ๋อง องค์หญิงรองสมกันทุกประการ แต่งตั้งเป็นชายาเอกหลีอ๋อง!”

เป่ยตันเสวี่ยสีหน้ายินดีปรีดา รีบลุกขึ้นถวายบังคมทันที “ขอบพระทัยฝ่าบาท”

ครั้งนี้นางมาแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีจริงๆ ก่อนมาท่านพี่ไท่จื่อก็บอกนางแล้วว่า ให้แต่งกับหลีอ๋อง

ก่อนหน้านี้เป่ยตันเสวี่ยเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับหลีอ๋องมามากมายนัก รู้สึกว่าเขาชื่อเสียงแย่มาก แต่วินาทีที่ได้เจอหลีอ๋องที่แคว้นต้าเยียน เป่ยตันเสวี่ยก็ตกหลุมรักเขาทันที

ดวงตาเย็นชาคมปลาบ ใบหน้าหล่อเหลา ดูสุขุมเคร่งขรึม และยังเป็นน้องชายแท้ๆของฮ่องเต้ บัดนี้กุมอำนาจทหารของแคว้นต้าเยียน บุรุษเช่นนี้มีไม่มาก ดังนั้นเป่ยตันเสวี่ยจึงเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้

ส่วนหลีอ๋องโม่ฉือหานกลับหันมองหยุนถิงในบัดดล เห็นนางไม่ขยับแม้แต่เปลือกตา นั่งกินอาหารสบายอารมณ์ สีหน้าโม่ฉือหานเย็นเยียบอย่างเคย แล้วจึงลุกขึ้นถวายบังคม

“ขอบพระทัยสมรสพระราชทานของเสด็จพี่”

“ตามสบายเถอะ ระยะนี้หลีอ๋องไม่ต้องทำงานแล้ว พาองค์หญิงรองไปเที่ยวให้ทั่ว ให้นางคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของแคว้นต้าเยียน หากองค์หญิงรองต้องการสิ่งใด บอกกับข้าได้เลย” ฮ่องเต้ปลอบ

นับตั้งแต่หลีอ๋องหย่าร้างกับหยุนถิง ถึงจะมีเรื่องขบขันหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้แต่งตั้งชายาเอกอีกเลย บัดนี้ได้แต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีกับแคว้นเป่ยลี่ การแต่งงานครั้งนี้ไม่เลวเลย

“พ่ะย่ะค่ะ!”

“หยุนถิง อีกครู่จะกลับไปข้าไปด้วย ข้ามีเรื่องจะปรึกษาเจ้า” เฉินอ๋องโม่ฉือชิงบอก

หยุนถิงจะบอกว่าได้ จวินหย่วนโยวก็ปรายตามองมา “ดึกดื่นค่อนคืน ชายหญิงแตกต่างกัน ขอเฉินอ๋องระมัดระวังด้วย มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

ถึงโม่ฉือชิงจะโกรธ แต่ก็รู้ว่าตนล้ำเส้นเอง “พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้”

นางรำหลายคนเข้ามาเต้นรำ ท่วงท่านวยนาด รูปร่างอรชร ดูเย้ายวนยิ่งนัก คนอื่นพากันมองอย่างชื่นชม มีเพียงจวินหย่วนโยวและโม่เหลิ่งเหยียนที่ไม่เงยหน้าขึ้น ไม่สนใจเลยสักนิด

จวินหย่วนโยวรับลำไยมา ปอกเปลือกยื่นให้หยุนถิง “อันนี้หวานมาก ลองชิมดู”

“ขอบคุณท่านพี่” หยุนถิงอ้าปากกินเลย

ในเวลาเดียวกัน นางรำคนหนึ่งเต้นรำไปหมุนตัวมาทางหยุนถิง อาศัยตอนทุกคนไม่ทันสังเกต นางชักมีดสั้นออกจากแขนเสื้อแทงมาที่หยุนถิงทันที

“ระวัง!” จวินหย่วนโยวกับโม่เหลิ่งเหยียนพูดพร้อมกัน

เม็ดลำไยในมือจวินหย่วนโยวพุ่งออกไปทันที และจอกเหล้าในมือโม่เหลิ่งเหยียนก็พุ่งออกไปเช่นกัน

  

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท