จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 773 ที่รัก ข้ามาแล้ว
“เหตุผลที่พวกเราเข้ามา ก็แค่อยากดูเสียหน่อยว่าเจ้าเมืองหวงคนนี้มีแผนการร้ายอะไรกันแน่” หยุนถิงตอบกลับ
“คำพูดของเจ้านายข้า พวกเจ้าก็ไม่เชื่อ เป็นพวกโง่เง่ากลุ่มหนึ่งโดยแท้ ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเราไปกันเองเถิด สนใจพวกเขาจะเป็นจะตายทำไมเล่า” หลงเอ้อพูดอย่างเอือมระอา
“ช่วยคนหนึ่งไม่ยาก แต่ช่วยคนทั้งเมืองไม่ง่ายเสียจริง” หลิงเฟิงพูดจาคล้อยตาม
หยุนถิงมองพวกเขาแวบหนึ่ง “พวกเจ้าสองคนพูดมามีเหตุผล ความเป็นความตายของคนอื่นเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเล่า ทุกคนพักผ่อนกันอยู่ที่เดิม รอคุณชายทางนั้นส่งข่าวแล้วรีบพุ่งออกไป!”
“ขอรับ!” หลงเอ้อกับหลิงเฟิงรีบนั่งลงพักผ่อนทันที
หยุนถิงนั่งลงตามเช่นกัน ล้วงหินก้อนหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ เริ่มวาดบนพื้นขึ้นมา
“นายท่าน นี่คืออะไรขอรับ?” หลงซานถาม
“นี่คือแผนที่เค้าโครงของจวนเจ้าเมือง ข้าอาศัยความทรงจำวาดมา อีกเดี๋ยวหลังพวกเราออกไปก็พุ่งออกไปจากทางตะวันตก การคุ้มกันทางนั้นหละหลวมที่สุด!” หยุนถิงพูดอธิบาย
“รับทราบขอรับ!”
พอคนอื่นๆ ได้ยิน ต่างขยับเข้ามา ถึงแม้พวกเขามองแผนที่บนพื้นไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่เห็นหลายคนนี้แต่งตัวไม่ธรรมดากัน บุคลิกก็แตกต่างออกไปด้วย
ถ้าไม่ใช่เป็นคนมีแผนการในใจ จะจำเรื่องพวกนี้ไว้ทำไมเล่า บางทีอาจสามารถช่วยพวกเขาหนีออกไปจากคุกใต้ดินนี้ได้จริง
คนเหล่านี้ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ล้วนสับสน ลังเล และรู้สึกลำบากใจหน้าบึ้งตึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสักครู่พวกเขาล้วนสงสัยคนอื่นเขาแล้ว
“ข้าเชื่อพวกท่าน พวกท่านสามารถพาข้าออกไปได้หรือไม่ ข้าไม่อยากตายอยู่ในนี้ ข้าอยากออกไปจากที่นี่ ขอร้องพวกท่านขอรับ!” เด็กหนุ่มคนนั้นที่เพิ่งกินยาของหยุนถิงเอ่ยปาก
พอเขาพูดขึ้น คนอื่นๆ ล้วนพูดอ้อนวอนตาม “อย่างไรเสียก็ต้องตาย พวกเรายินยอมเสี่ยงสักตั้ง ขอร้องพวกท่านช่วยพวกเราด้วย!”
หยุนถิงเห็นทุกคนท่าทางฮึกเหิม ดูพึงพอใจมาก “พวกเจ้าหาทางเอาชีวิตรอดกันเอง เช่นนั้นข้าก็จะช่วยพวกเจ้า แต่ว่าต้องฟังคำสั่งข้าทุกอย่าง”
“ได้ พวกเราจะฟังท่านทั้งหมด”
วินาทีนี้ ในห้องของเจ้าเมือง
ลูกน้องสองคนโยนจวินหย่วนโยวลงบนเตียง แล้วเดินออกไปแล้ว
ได้ยินพวกเขาเดินไปไกล จวินหย่วนโยวรีบลืมตาขึ้นทันที พินิจดูห้องแวบหนึ่ง ในห้องรกรุงรังมาก แต่ของที่วางไว้บนชั้นล้วนเป็นของมีค่าทั้งสิ้น
จวินหย่วนโยวลุกขึ้นสำรวจดูห้องรอบหนึ่ง สุดท้ายสายตาตกอยู่บนภาพวาดบนฝาผนังรูปนั้น ในภาพวาดรูปนั้นเป็นท้องทะเลผืนหนึ่ง บนทะเลคือหญิงสาวผู้หนึ่ง หญิงผู้นั้นยืนอยู่เจดีย์ นิ้วมือชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง สิ่งที่น่าแปลกที่สุดคือหญิงผู้นั้นไม่มีใบหน้า
จวินหย่วนโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังไม่เคยเจอภาพวาดที่แปลกประหลาดปานนี้มาก่อน เขาก้าวใหญ่ๆ เดินเข้าไปหยิบภาพวาดรูปนั้นลงมา มองเห็นบนผนังด้านหลังมีช่องลับอันหนึ่ง
เขาเพิ่งยืนมือเข้าไปลูบ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอก จวินหย่วนโยวได้เพียงหดมือกลับมา แขวนภาพไว้ดังเดิม แล้วนอนลงบนเตียง
หวงฉือเดินวางมาดเข้ามา มองชายชุดขาวผู้นั้นบนเตียงแวบหนึ่ง เขาทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง รีบปิดประตูห้องทันใด
หวงฉือในเวลานี้ยังมีท่าทางใจดีโอบอ้อมอารีเยี่ยงเมื่อครู่ได้ที่ไหน ทำหน้าหยาบคายและดีใจที่แผนชั่วสำเร็จ วิ่งตรงไปที่เตียงอย่างอดทนไม่ไหว
“ที่รัก ข้ามาแล้ว!”
จวินหย่วนโยวที่แสร้งทำเป็นสลบได้ยินคำเรียกที่น่าสะอิดสะเอียนคำนี้เข้า เกือบอาเจียนออกมา หวงฉือสารเลวคนนี้ คาดไม่ถึงเป็นโรคจิต
หวงฉือเดินมาทางจวินหย่วนโยว กำลังคันไม้คันมือ ดีใจจนหุบปากไปลงแล้ว
“ดูใบหน้านี้สิ เป็นผู้โดดเด่นในฝูงชนโดยแท้ ข้าเคยเจอผู้ชายมากมาย ยังไม่เคยเจอคนที่หน้าตาดูดีขนาดนี้มาก่อน ทำให้ข้าพอใจที่สุดจริงเชียว คืนนี้ข้าจะแสดงความรักต่อเจ้าให้ดี รับรองจะทำให้เจ้าเหมือนได้ขึ้นสวรรค์” หวงฉือพูดจาหยาบคาย ยื่นมือไปปลดเสื้อผ้าของจวินหย่วนโยวโดยตรง
ทันใดนั้นจวินหย่วนโยวที่สลบอยู่ลืมตาขึ้นกะทันหัน สายตานั้นทั้งเย็นเฉียบทั้งดุร้าย หวงฉือตกใจจนตัวสั่นเทา
เขาเพิ่งอยากตะโกนออกมาเสียงดัง วินาทีต่อมา จวินหย่วนโยวกำคอของเขาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งทันที
หวงฉืออยากจะร้องตะโกน กลับไม่มีเสียงแม้แต่น้อย รู้สึกเพียงว่าถูกบีบคอจนเจ็บรุนแรง ความรู้สึกหายใจไม่ออกแผ่ซ่านมาในชั่วพริบตา ทำให้เขาตกใจและหวาดกลัว
“เจ้า เจ้าทำไมถึง ทั้งที่ข้าให้คนวางยาในเหล้าแล้ว”
นัยน์ตาดำขลับดุจเหยี่ยวของจวินหย่วนโยวเผยความดุร้ายออกมา ลุกขึ้นโดยตรง ลักษณะอันทรงพลังแผ่กระจายไปทั้งห้องในชั่วขณะนั้น
“ลูกไม้ต่ำช้าอันนั้นของเจ้า อยากเอามาใช้กับข้า ฝันไปเถิด!” จวินหย่วนโยวพูดพึมพำ
หวงฉือเบิกดวงตาโต ทำหน้าไม่อยากเชื่อ “เจ้า——”
ยังพูดไม่ทันจบ จวินหย่วนโยวก็เหวี่ยงเขาออกไปอย่างรังเกียจ พลิกมือแล้วฟาดเข้ามาทีหนึ่ง
“อ่า!” ได้ยินเพียงหวงฉือร้องโอดโอยทีหนึ่ง แล้วล้มลงไปบนพื้นทั้งตัว “ขาข้า เจ็บ เจ็บมาก เจ้าไก่อ่อนสารเลวนี่คาดไม่ถึงกล้าทำลายขาทั้งสองข้างของข้า เร็วเข้า มาฆ่าเจ้าไก่อ่อนนี่เดี๋ยวนี้——”
ไม่ว่าเขาจะตะโกนอย่างไร ด้านนอกกลับไม่มีใครเข้ามาสักคนเดียว ทว่าเงียบสงบจนน่ากลัว
หวงฉือมึนงงไปทั้งตัวแล้ว “เวรเอ๊ย เข้ามาทีสิ ข้าเลี้ยงพวกเจ้าไว้กินข้าวเล่นหรือไร รีบเข้ามาเร็ว!”
มีคนผลักประตูเปิด หวงฉือคิดว่ามีคนมาช่วยแล้ว ปรากฏว่าก็มองเห็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามา
“คุณชายขอรับ คนด้านนอกถูกพวกเราควบคุมแล้ว เจ้าสารเลวคนนี้ให้ทำเช่นไรดีขอรับ?” หลงยีวิ่งเข้ามาถาม
จวินหย่วนโยวชายตามองหวงฉืออย่างเหยียดหยาม “เมื่อกี้เขาเรียกข้าว่าเจ้าไก่อ่อน เช่นนั้นก็ตัดลิ้นเขาเสียก่อน”
“ขอรับ!” หลงยีดึงกระบี่ในมือออกมา
เวลานี้หวงฉืองงตาค้างแล้ว “คุณชายไว้ชีวิตด้วยขอรับ ข้าผิดไปแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าแล้ว คุณชายได้โปรดไว้ชีวิตด้วย แก้วแหวนเงินทอง หญิงงามมากมาย ขอเพียงเป็นสิ่งที่คุณชายต้องการ ข้าสามารถยกให้ได้ทั้งสิ้น ขอเพียงคุณชายไว้ชีวิตข้าสักครั้ง!”
จวินหย่วนโยวมองยังเขาจากบนลงล่าง “ว่ามาสิ ตำแหน่งเจ้าเมืองเจ้าได้มาเช่นไร แล้วรู้ได้เช่นไรว่าข้าจะมาที่นี่? ถ้ากล้าโกหกสักคำเดียว ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ โยนลงทะเลให้ปลากินเสีย!”
หวงฉือตะลึง “ท่าน ท่านรู้ได้เยี่ยงไรกัน?”
“ห้องของเจ้าเมืองคนหนึ่งจัดวางอย่างกับรังโจร คนโง่มันยังดูออก!” จวินหย่วนโยวพูดเสียดสี
หวงฉือไม่กล้าปิดบังอีก “คุณชายพูดถูกขอรับ ข้าไม่ใช่เจ้าเมืองจริงๆ ข้าเป็นเพียงโจรสลัดผู้หนึ่ง พาเหล่าสหายฆ่าฟันปล้นชิงอยู่กลางทะเล
ตอนแรกพวกเราเจอพายุและคลื่นซัดสาดแล้ว จึงมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ พบว่าเมืองแห่งนี้มั่งคั่งมากนัก หนำซ้ำเจ้าเมืองก็ใจดีมีเมตตา
ฉะนั้นข้าจึงเกิดความคิดชั่วแล้ว สั่งให้เหล่าสหายลอบฆ่าเจ้าเมืองและลูกน้องของเขาแล้ว จากนั้นยึดครองตำแหน่งเจ้าเมืองไว้เอง ยังฆ่าชาวบ้านไม่น้อยเพื่อข่มขู่ทุกคน สุดท้ายก็อยู่ต่อไปเยี่ยงนี้แล้ว
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีคนส่งจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ข้า บอกว่ามีคนกลุ่มหนึ่งจะเข้ามาที่นี่ หน้าตาดูดียิ่งนัก ขอเพียงข้าจับพวกเขาเอาไว้ จะตบรางวัลให้ข้าอย่างหนัก
เดิมทีข้าก็ชอบผู้ชายอยู่แล้ว การค้าที่ไม่ต้องเสียเงินเช่นนี้ย่อมตอบรับเป็นธรรมดา เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าพวกคุณชายกลุ่มนี้ล้วนหน้าตาดูดีเพียงนี้ ฉะนั้นข้าถึงเกิดความคิดชั่วขึ้น”
“คนที่ส่งจดหมายให้เจ้าคือผู้ใด?” จวินหย่วนโยวถามอย่างเย็นชา
“เรื่องนี้ข้าไม่รู้จริงๆ จดหมายฉบับนั้นไม่ได้ลงชื่อ! อยู่ในแจกันใบนั้นด้านบนชั้น หากคุณชายไม่เชื่อสามารถดูเองได้” หวงฉือรีบชี้ไปทางชั้นที่ด้านข้างแล้วพูดขึ้น
หลงยีรีบเดินเข้าไป หาจดหมายฉบับหนึ่งจากในแจกันเจอตามคาด รีบยื่นให้ซื่อจื่อ
จวินหย่วนโยวพอเปิดออกอ่าน ไม่ได้ลงชื่อไว้ และไม่มีคำขึ้นต้น มีเพียงแค่ประโยคเดียว คนที่เขียนจดหมายนี้ระมัดระวังมาก
“มาพูดเรื่องภาพวาดนั้นเสียหน่อยเถิด ยังมีช่องลับที่ด้านหลังภาพนั้นอีกด้วย!”