จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 782 เพียงแค่อยากนอนกอดเจ้าไว้

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 782 เพียงแค่อยากนอนกอดเจ้าไว้

เสียงนี้ คนอื่นๆ ต่างสังเกตเห็นทางนี้เช่นกัน

หยุนถิงรีบอธิบาย “พี่ชายข้าคนนี้ก็แค่ชอบทำหน้าตึง ต่อไปทุกคนล้วนเป็นศิษย์สำนักเดียวกันแล้ว ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน!”

ผางซิงตกใจจนตัวสั่น รีบเก็บมือกลับไป “อืม พี่ชายเจ้าคนนี้น่ากลัวอยู่หน่อยเสียจริง!”

หยุนถิงรีบหันหน้ามองทางจวินหย่วนโยว “พี่ใหญ่ ท่านก็อย่าทำหน้าบึ้งตึงได้แล้ว ยิ้มเสียหน่อย!”

หยุนถิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย เวลานี้ต่างเรียกกันว่าพี่น้องกับจวินหย่วนโยวเพื่อไม่ดึงดูดความสงสัย

จวินหย่วนโยวเห็นนางส่งสายตาให้ตนเองอย่างต่อเนื่อง แสยะปากยิ้มแล้ว ยิ้มนั้นทำเอาคนอื่นหัวเราะกันหมดแล้ว

“พี่ชายเจ้าคนนี้ยิ้มขึ้นมายังดูแย่ยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก อย่ายิ้มจะดีกว่า” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น

“พูดไปก็ถูก พูดไปก็ถูก!” หยุนถิงได้เพียงพูดคล้อยตาม

หลงยีกับหลิงเฟิงได้เพียงพยายามลดการมีตัวตนลง เพราะพวกเขาพบว่าคนของสำนักหมอเทวดาสังเกตมาทางนี้แล้ว ฉะนั้นไม่อาจทำตัวเด่นขึ้น แล้วดึงดูดความสนใจของพวกเขาโดยเด็ดขาด

จวินหย่วนโยวไม่ได้โกรธเช่นกัน เพียงแค่ทำหน้าเย็นชา ไม่พูดจาอีก

ผ่านไปประมาณครึ่งวัน ท้องของผางซิงร้องจ๊อกๆ ขึ้นมา เขารีบล้วงข้าวปั้นหลายชิ้นออกมาจากในห่อผ้าแล้วยื่นเข้ามา

“นี่คือข้างปั้นที่แม่ข้าทำให้ข้า อร่อยมากนัก ให้ข้ากินระหว่างทาง ข้ายังมีอีกมาก พวกเจ้ากินด้วยกันเถิด รอจนฟ้ามืดกว่าจะถึง ไม่กินอะไรคงหิวแย่!” ผางซิงพูดอย่างใจดี

หยุนถิงหิวอยู่บ้างจริงๆ คนอื่นบนเรือต่างนำของออกมากิน ในมิติของนางมีของอยู่เป็นกอง แต่ไม่อาจหยิบออกมาต่อหน้าผู้คนมากขนาดนี้ได้

“ได้ ขอบใจมาก!” หยุนถิงรับมาสองอัน ยื่นให้จวินหย่วนโยวอันหนึ่ง

จวินหย่วนโยวชายตามองข้าวปั้นนั้นแวบหนึ่ง หางตาเหลือบไปเห็นคนของสำนักหมอเทวดาจ้องตนเองทางนี้อยู่ จึงยื่นมือรับมา “ขอบใจ!”

“พี่ใหญ่ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน!” ผางซิงเปิดข้าวปั้นออกแล้วกินขึ้นมา

หยุนถิงก็หิวจริงๆ แล้ว กินไปคำหนึ่ง ก็คือด้านในข้าวเปล่าใส่ผักไว้ส่วนหนึ่ง ยังใส่ไข่แดงเข็มไว้ด้วย รสชาติธรรมดามาก แต่มองเห็นผางซิงกินอย่างสุขใจปานนั้น ยังชมว่าอร่อยแล้ว

จนกระทั่งฟ้ามืด เรือถึงเทียบท่า

“คืนนี้ข้าพาทุกคนไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้เช้าพวกเรายังมีการแข่งขันสองรอบ มีเพียงคนที่ผ่านการแข่งขันถึงมีสิทธิ์เข้าสู่สำนักหมอเทวดา และกลายเป็นศิษย์ฝ่ายใน!” ผู้ดูแลคนหนึ่งเอ่ยปาก

“หากไม่ผ่านเล่า?” ผางซิงอดถามไม่ได้

“ไม่ผ่านก็ได้เพียงเป็นคนปลูกสมุนไพรหรือคนต้มยา รับหน้าที่เพาะปลูกสมุนไพรหรือต้มยา ทำความสะอาดเป็นต้น ได้เพียงรอการทดสอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆ ครึ่งปีสำนักหมอเทวดาจะมีการสอบรอบหนึ่ง ถ้าสามครั้งแล้วไม่ผ่านก็ได้เพียงโดนส่งกลับไป!” ผู้ดูแลตอบ

ชั่วขณะหนึ่งทุกคนประหม่าขึ้นมา ดูกังวลการแข่งขันในวันพรุ่งนี้มาก

ผู้ดูแลพาพวกเขาเข้าไป แบ่งห้องให้แต่ละคน บอกตำแหน่งครัวแก่พวกเขา ต้องการกินข้าวสามารถเข้าไปได้ จากนั้นจึงออกไป

“สหาย ถ้าไม่เช่นนั้นพวกเราไปกินข้าวด้วยกัน ใช่แล้ว ข้ายังไม่รู้ว่าเจ้าชื่ออะไรเลย?” ผางซิงถาม

“เจ้าเรียกข้าว่าถิงหยุนก็ได้” หยุนถิงได้เพียงสลับชื่อของตนเองกลับกัน

“ได้สหายถิงหยุน ต่อไปยังต้องช่วยดูแลข้าด้วย!”

“เกรงใจแล้ว พวกเรามาดูแลซึ่งกันและกัน!”

เพื่อไม่ให้ถูกสงสัย หยุนถิงและคนอื่นตามผางซิงไปกินข้าวที่ครัว

หมูเห็ดเป็ดไก่ เนื้อและผักมีครบ ดูอุดมสมบูรณ์มาก เห็นแล้วก็ทำให้คนอยากอาหารยิ่งนัก

หยุนถิงเลือกของที่ตนเองชอบกินมาสองสามอย่าง ตอนที่กินคำแรก นางก็ขมวดคิ้วขึ้นแล้ว และคีบกับข้าวอย่างอื่นมาลองชิม สีหน้าเย็นชาลงมาทันที

“เกิดอะไรขึ้น?” จวินหย่วนโยวใช้เสียงที่มีเพียงสองคนได้ยินถามขึ้น

“อาหารนี้มีปัญหา” หยุนถิงตอบด้วยเสียงเบาๆ

“เช่นนั้นก็ไม่กินแล้ว!” จวินหย่วนโยวส่งสายตาให้หลงยีกับหลิงเฟิง สามสี่คนนี้ถือโอกาสตอนที่คนของครัวไม่สังเกต เทอาหารในจานไปโดยตรง

หยุนถิงก็ทำตามเช่นกัน เพิ่งอยากออกไป ก็มองเห็นผางซิงยกอาหารชามใหญ่กินอย่างตะกละตะกลาม

“สหายถิงหยุนเหตุใดเจ้าไม่กินเล่า อาหารพวกนี้อร่อยจริงๆ!” ผางซิงพูดอย่างไม่ชัด

“ชอบกิน เจ้าก็กินเยอะๆ หน่อย ข้านั่งเรือมาทั้งวันไม่สบายตัวเท่าใด ขอกลับไปก่อนแล้ว” หยุนถิงพูดจบ รีบเดินไปทันที

ทุกคนต่างแยกย้ายกลับห้อง ช่วงกลางดึก ห้องของหยุนถิงมีเสียงเบาๆ ลอยมา จวินหย่วนโยว หลงยี และหลิงเฟิงล้วนเข้ามาจากหน้าต่างหลัง

“ถิงเอ๋อร์ อาหารของวันนี้มีปัญหาอะไร?” จวินหย่วนโยวถาม

“ในอาหารนั้นมีรสชาติของดอกกุหลาบหินสีม่วง น้อยมาก และจางมาก เดิมทีคนทั่วไปรับรู้รสไม่ได้ ดอกไม้อย่างนี้ไม่ถึงตาย แต่กินไประยะยาวจะทำให้คนติดมัน

ถ้ากินไปหนึ่งปีแล้วหยุดกะทันหัน ก็จะชักกระตุกไปทั้งตัว เจ็บปวดสุดจะทน ราวกับโดนพิษร้ายแรงกัดกร่อนร่างกาย สามถึงห้าปีคนผู้นี้ก็พิการแล้ว

ฉะนั้นข้าสงสัยว่า สำนักหมอเทวดาแห่งนี้ก็คืออยากควบคุมทุกคนผ่านอาหาร เหมือนที่ฮวาเชียนจั่นพูดไว้ กลัวว่าจะเอาการฝึกทางการแพทย์มาบังหน้าหลอกลวงคนทั้งโลก

รอทุกคนรู้ความจริงก็สายไปแล้ว คนเหล่านี้กลัวว่าต่อไปจะถูกใช้มาฝึกหนอนกู่หรือฝึกพิษก็ได้” หยุนถิงอธิบาย

“นี่ช่างชั่วร้ายเหลือเกิน เพิ่งวันแรกมื้อแรก ถ้าต่อไปกินอาหารแบบนี้ทุกวัน เช่นนั้นไม่ใช่ว่าไม่อยากติดกับก็ยากแล้วหรือ!” หลิงเฟิงขมวดคิ้ว

“ไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือเปิดโปงพวกเขาบ้างหรือ หรือว่าโดนฮูหยินเจ้าทะเลบงการจริงๆ แล้ว?” หลงยีทำหน้าเดือดดาล

“ผู้ใดจะรู้เล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราเพิ่งมาถึง สืบค้นเรื่องราวให้ชัดก่อนค่อยว่ากัน ทุกคนดีใจตื่นเต้นคิดว่าตนเองถูกเลือกแล้ว ปรากฏว่ากลับมาประสบโชคร้ายเข้า!” หยุนถิงทอดถอนใจ

“ซื่อจื่อเฟย เช่นนั้นต่อไปเรื่องอาหารพวกเราควรทำเช่นไรขอรับ?” หลิงเฟิงถามประเด็นสำคัญ

เจ้าไม่กินมื้อหนึ่งได้ ไม่กินวันหนึ่งได้ แต่ไม่อาจไม่กินทุกวันกระมัง อย่างนี้จะถูกคนสงสัยเอาง่ายมาก

“ลืมแล้วหรือว่าข้าทำอะไร ตอนนี้ข้าจะสร้างยาถอนพิษให้ ต่อไปก่อนกินข้าวกินเม็ดหนึ่ง จากนั้นกินข้าวตามสบาย จะไม่มีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนในอาหารน้อยนิด หนำซ้ำผ่านความร้อนมาพิษก็น้อยลงมากแล้ว แต่ว่ากินในระยะยาวจะเป็นปัญหา” หยุนถิงพูดอยู่ รีบนำอาหารกองหนึ่งออกมาจากในมิติ

“ยังเป็นอาหารของซื่อจื่อเฟยดีที่สุดขอรับ” หลิงเฟิงรีบรับเข้ามา

ไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน เขาในช่วงกลางดึกนี้หิวเสียจริง

จวินหย่วนโยวก็รับเข้ามาเปิดออกเช่นกัน จากนั้นช่วยทำให้หยุนถิง หลายคนนี้ก็นั่งกินขึ้นมาอยู่ในห้อง

หลังกินอิ่ม หลิงเฟิงกับหลงยีหยิบยาถอนพิษที่ซื่อจื่อเฟยให้พวกเขาแล้วรีบออกไป จวินหย่วนโยวกลับไม่ได้ไป

“ท่านพี่ ท่านรีบออกไปเถิด ถ้าถูกคนพบเข้าจะไม่ดี” หยุนถิงพูดเสียงเบาๆ

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอะไรทั้งนั้น เพียงแค่อยากนอนกอดเจ้าไว้ พรุ่งนี้เช้าข้าค่อยออกไป การกระทำของสำนักหมอเทวดาชั่วร้ายเช่นนี้ ต่อไปต้องระวังให้ดี!” จวินหย่วนโยวพูดอย่างห่วงใย

“วางใจเถิด ข้าจะระวัง เป็นท่านพี่ วันนี้ผ่านการแข่งขันนั้นได้เช่นไร พรุ่งนี้ยังมีการแข่งขันสองรอบรออยู่อีก?” หยุนถิงถาม

“เจ้าลืมแล้วหรือก่อนหน้านี้ในร่างกายข้ามีพิษร้ายแรง กินยาสารพัดมาตั้งแต่เด็ก สามารถพูดได้ว่าเป็นคนขี้โรค ถึงแม้รักษาไม่เป็น แต่ยาทั่วไปพวกนั้นก็เห็นมาไม่น้อย!” จวินหย่วนโยวพูดอยู่ ยื่นมือกอดหยุนถิงไว้แน่น

ชั่วขณะนั้นหยุนถิงปวดใจ “ไม่ต้องห่วง ต่อไปมีข้าอยู่ แต่ท่านอย่าแสดงออกชัดเจนเกินไป เก็บลักษณะพลังเอาไว้บ้าง ตอนนี้เป็นแค่คนธรรมดา พรุ่งนี้ข้าวางแผนจะผ่านการแข่งขันสองรอบสุดท้าย มีเพียงผ่านแล้วถึงสามารถเข้าใกล้ส่วนในของสำนักหมอเทวดาได้ และถึงจะสามารถค้นได้ชัดเจน!”

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท