จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 785 ข้าไม่อยากให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 785 ข้าไม่อยากให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม

“ศิษย์พี่อย่าได้โกรธเคืองไป ปกติพี่ชายข้าก็เป็นคนเคร่งขรึม ศิษย์พี่โปรดอย่าได้ถือสาเขาเลยขอรับ พวกเราจะถางจนเรียบ รับรองว่าขุดพื้นที่นี้อย่างดีแน่!” หยุนถิงรีบยอมจำนน

เวลานี้ ไม่อาจเปิดเผยความจริงออกมาได้เด็ดขาด ยิ่งไม่อาจขัดแย้งกับศิษย์พี่คนนี้ได้ด้วย มิฉะนั้นศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าสำนักมาเยี่ยงพวกเขานี้จะโดนไล่ออกไปได้

โอจื่อโฝวถลึงตาใส่หยุนถิงอย่างเหยียดหยาม “ถือว่าเจ้ารู้ตัวดี!” พูดทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินไป

เพียงแต่โอจื่อโฝวเดินออกมาไกลมาก ก็ยังรู้สึกว่าตรงด้านหลังมีดวงตาที่ดุจมีดคู่หนึ่งเล็งตนเองอยู่ ทำให้เขารู้สึกกังวลใจ รีบเร่งความเร็วเพิ่มแล้ว

“พี่ใหญ่ ต่อไปท่านห้ามทำเยี่ยงนี้อีก อย่าได้ทำเสียงานสำคัญของพวกเรา!” หยุนถิงทำหน้าเย็นชาบอก

ความจริงนางเข้าใจได้ คนที่อยู่เหนือมวลชนเยี่ยงจวินหย่วนโยวนี้ ให้เขาอ่อนน้อมจนไร้ศักดิ์ศรี และฝืนใจประจบประแจงอย่างกะทันหัน เขาย่อมทำไม่ได้เป็นธรรมดา

“ได้ ข้าจะพยายามอดกลั้นไว้ ข้าเพียงแค่ไม่อยากเห็นเจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม!” จวินหย่วนโยวไม่ได้โต้แย้ง

เขารู้ว่า หยุนถิงขุ่นเคืองตนเอง แต่เห็นโอจื่อโฝวตำหนิถิงเอ๋อร์อย่างลำพอง จวินหย่วนโยวก็ทนไม่ไหวเช่นกัน

“ลำบากท่านแล้ว ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า แต่เพื่องานสำคัญแล้วก็ทนเสียหน่อย!” หยุนถิงพูดอยู่ก็มองทางที่ดินรกร้างผืนนั้น

จวินหย่วนโยวหยิบจอบขึ้นมา “พวกนี้ข้าจัดการเอง เจ้าพักเถิด!”

“โอ๊ะ ข้าไม่เคยเห็นซื่อจื่อใช้จอบมาก่อน นี่ยังเป็นหนแรก!” หยุนถิงพูดหยอกล้อ

“ไม่เคยทำมาก่อนจริงๆ!” จวินหย่วนโยวตอบตามความเป็นจริง

“ในเมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยทำ เช่นนั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำ ข้ามีวิธี!” ดวงตางดงามของหยุนถิงเผยประกายสุกสกาว

จวินหย่วนโยวรู้ว่า แม่คนนี้ไม่ใช่คนที่โดนรังแกง่ายๆ

“ท่านพี่ ช่วยดูต้นทางให้ข้าด้วย!” หยุนถิงกล่าว

“ได้!” จวินหย่วนโยวรีบมองรอบด้านทันที

หยุนถิงรีบหยิบสมุนไพรหลายต้นออกมาจากในมิติ ถือโอกาสขุดหลุมแล้วปลูกลงในดินแล้ว ยังจงใจทำดินในบริเวณนั้นให้เหมือนบริเวณโดยรอบ

จากนั้นทั้งสองคนก็นั่งบนที่ดินรกร้างชมทัศนียภาพขึ้นมา ถึงแม้พื้นที่นี้เป็นที่ดินรกร้าง แต่ด้านหลังติดภูเขาและแม่น้ำเป็นสถานที่ดีงามจริงๆ

ตอนเที่ยง มีศิษย์ของสำนักหมอเทวดามาส่งข้าว ก็มองเห็นที่ดินรกร้างนั้นไม่เปลี่ยนแปลงสักนิด

“พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันอยู่ เหตุใดยังไม่ถางพื้นที่รกร้างอีก?” ศิษย์ที่ชื่อต้วนอู่ถาม

“พี่ชายเจ้าอยากให้อาจารย์มองท่านใหม่หรือไม่?” หยุนถิงถามกลับ

“อยากอยู่แล้วสิ แต่เดิมทีเป็นไปไม่ได้ ข้าเห็นพวกเจ้ามาใหม่ ฉะนั้นเตือนพวกเจ้าด้วยความหวังดี อย่ามีเรื่องกับศิษย์พี่เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะโดนดี!” ต้วนอู่เตือนสติด้วยความหวังดี

“ขอบคุณพี่ชายมาก ข้ามีโอกาสที่สามารถทำให้ท่านสร้างผลงานต่อหน้าอาจารย์ได้ ท่านยินยอมหรือไม่?” หยุนถิงถาม

ต้วนอู่มองเข้ามาอย่างตกใจ “ศิษย์น้องเจ้าพูดจริงหรือ ไม่ เจ้าต้องหลอกข้าอยู่แน่ พวกเจ้าสองคนมาใหม่มีวิธีอะไรกันเล่า ถ้ามีฝีมือจริงจะถูกศิษย์พี่ส่งมาถางที่ดินรกร้างได้เช่นไร?”

“ไม่ใช่ว่าพวกข้าเพิ่งมาถึงจึงหาโอกาสแสดงออกไม่ได้หรือ ถ้าไม่โค่นล้มศิษย์พี่จื่อโฝว พวกเราจะไม่มีวันได้ก้าวหน้าตลอดกาล

ฉะนั้นเพื่ออนาคตแล้วพวกเราสามารถร่วมมือกันได้ ท่านเพียงแค่ช่วยพวกข้าไปบอกอาจารย์ ส่วนเรื่องที่เหลือให้ข้าจัดการเอง ท่านไม่เสียเปรียบหรอก” หยุนถิงพูดอยู่ ล้วงสมุนไพรต้นหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ

ที่นี่เป็นพื้นที่ของสำนักหมอเทวดา แก้วแหวนเงินทองย่อมไม่มีค่าเท่าสมุนไพร

ตามคาด เห็นต้วนอู่ฮึกเหิมยิ่งนัก “นี่ นี่คือหญ้าหลันซิน?”

“ถูกต้อง ก็คือค่าตอบแทนที่พี่ชายส่งจดหมายให้!” หยุนถิงยัดใส่ในมือเขาโดยตรง

“ศิษย์น้องเจ้าคงไม่ใช่ขโมยมากระมัง?” ต้วนอู่มองเข้ามาอย่างสงสัย

“ไม่ใช่อยู่แล้ว ข้ากับพี่ใหญ่ถูกศิษย์พี่ส่งมาถางที่ดินรกร้างตั้งแต่วันแรก แม้แต่ยาของสำนักหมอเทวดาอยู่ที่ใดยังไม่รู้ นี่คือก่อนหน้านี้ข้าขึ้นเขาเก็บมาได้ ถ้าท่านไม่อยากได้ก็คิดเสียว่าข้าไม่ได้พูด!” หยุนถิงอยากเก็บกลับมา

“อย่าสิ ศิษย์น้องอย่าได้โกรธ ข้าจะต้องช่วยจดส่งจดหมายไปให้ได้แน่!” มือที่ต้วนอู่ถือสมุนไพรไว้กำแน่นขึ้นแล้ว

หยุนถิงกำชับเขาอยู่ครู่หนึ่ง ถึงให้ต้วนอู่ออกไป

หยุนถิงมองกล่องข้าวที่อยู่บนพื้นแวบหนึ่ง ล้วนไม่ได้เปิดออก หยิบอาหารจากในมิติออกมากินกับจวินหย่วนโยวแทน

จนกระทั่งท้องฟ้าใกล้มืดลง โอจื่อโฝวพาศิษย์กลุ่มหนึ่งเข้ามาแล้ว

“คาดมิถึงพวกเจ้าสองคนไม่ได้ถางที่ดินรกร้างสักนิด อยากก่อกบฏหรือ?” โอจื่อโฝวพูดอย่างลำพอง

“ศิษย์พี่พูดเยี่ยงนี้ก็ไม่ถูก พวกเราไม่ใช่คิดก่อกบฏ เพียงแค่รู้สึกว่าวิธีการของท่านพวกเรายอมรับไม่ได้ ท่านไม่คู่ควรเป็นศิษย์พี่!” เสียงเย็นเฉียบของหยุนถิง ทำเอาทุกคนตื่นตกใจ

ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว สองคนที่มาใหม่นี้ไม่ใช่คนโง่หรือไร คาดไม่ถึงกล้าซักถามข้อสงสัยต่อหน้าศิษย์พี่ นี่ไม่ใช่วอนหาที่ตายหรือ

พวกเขารู้จักลูกไม้โหดเหี้ยมของโอจื่อโฝว และล้วนเป็นคนใหม่เข้ามากัน วินาทีนี้ไม่มีสักคนเดียวที่กล้าพูดจา

สีหน้าโอจื่อโฝวเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง เคียดแค้นถึงที่สุด เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้น สายตาน่าสะพรึงกลัวและโหดร้ายถลึงใส่ทางหยุนถิง

“คนที่กล้าสงสัยข้า เจ้าเป็นคนแรก ในเมื่อพวกเจ้าวอนหาที่ตาย เช่นนั้นโทษข้าไม่ได้แล้ว เข้ามาทีแล้วมัดพวกเขาไว้เดี๋ยวนี้ ใช้เลือดของพวกเขารดสมุนไพรได้พอดี!” โอจื่อโฝวพูดจาอย่างกัดฟันแน่น

ศิษย์สองสามคนรีบวิ่งเข้ามา อยากไปจับหยุนถิง จวินหย่วนโยวขวางไว้ด้านหน้าหยุนถิงโดยตรง “ข้าจะดูว่าผู้ใดกล้าแตะต้องเขา!”

เสียงเย็นชา และโอหัง เผยกลิ่นอายสังหารออกมา ลักษณะพลังนี้ขู่ขวัญทุกคนทันที

โอจื่อโฝวก็สั่นเทาโดยไม่รู้ตัว เจ้าระยำที่สมควรตายนี้เหตุใดลักษณะพลังแกร่งเพียงนี้ แม้แต่เขายังหวาดหวั่นในใจอยู่บ้าง

ศิษย์สองสามคนนั้นที่เดินเข้าไปตกใจจนงงในชั่วขณะหนึ่ง ไม่กล้าลงมือต่อ ได้เพียงหันหน้ามองทางโอจื่อโฝว

“คาดไม่ถึงกล้าให้ท้ายต่อหน้าทุกคน เห็นเรือนอวี๋เป็นสถานที่ให้พวกเจ้ากำเริบเริบเสิบสานได้จริงหรือ วันนี้ถ้าไม่จัดการพวกเจ้าเสีย ต่อไปข้ายังจะเป็นที่นับถือได้เช่นไร วันนี้ข้าจะสั่งสอนพวกเจ้าให้ได้” โอจื่อโฝวพูดอยู่ จึงควงหมัดแล้วต่อยไปทางจวินหย่วนโยว

จวินหย่วนโยวอยากโจมตีกลับโดยจิตใต้สำนึก หยุนถิงที่อยู่ด้านหลังเขาก็มองเห็นผู้อาวุโสอวี๋ที่รีบเข้ามาบริเวณไม่ไกลนัก จึงดึงชายเสื้อด้านหลังของจวินหย่วนโยวไว้ทันใด

“อย่าขยับ!”

มือของจวินหย่วนโยวที่ยกขึ้นหยุดค้างในชั่วพริบตา ส่วนหมัดนั้นของโอจื่อโฝวก็ต่อยเข้ามาทันที จวินหย่วนโยวโดนต่อยหมัดหนึ่งเต็มๆ

“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงตวาดทุ้มต่ำเสียงหนึ่งลอยมาจากที่ไม่ไกลนัก ผู้อาวุโสอวี๋พาต้วนอู่และศิษย์คนอื่นอีกสามสี่คนเดินเข้ามา

พอโอจื่อโฝวเห็นอาจารย์ รีบเก็บความจองหองอันก้าวร้าวเมื่อครู่นี้ลงโดยเร็ว “อาจารย์ พวกเขาสองคนไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน เมื่อครู่ข้ากำลังสั่งสอนพวกเขาขอรับ!”

ผู้อาวุโสอวี๋ถลึงตาใส่โอจื่อโฝวอย่างโมโหทีหนึ่ง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ บอกมา สมุนไพรอยู่ที่ใด?”

“สมุนไพร ที่นี่มีสมุนไพรอะไรกันเล่าขอรับ?” โอจื่อโฝวไม่เข้าใจ

ผู้อาวุโสอวี๋จ้องเขาอย่างโหดร้ายทีหนึ่ง แล้วมองทางหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“เรียนอาจารย์ เมื่อเช้าศิษย์พี่ให้พวกเราเข้ามาถางที่ดินรกร้าง ยังบอกว่าศิษย์คนอื่นก็ทำเยี่ยงนี้เช่นกัน พวกเรามาที่นี่เพราะเลื่อมใสต่ออาจารย์ นึกไม่ถึงว่าถูกรังแกเช่นนี้ขอรับ

ถึงแม้ในใจไม่ยินยอม แต่คิดว่าบางทีเป็นบททดสอบของอาจารย์ที่มีต่อพวกเรา ฉะนั้นข้ากับพี่ชายจึงยอมรับแล้ว

เพียงแต่พวกเราเพิ่งอยากลงมือ ก็พบว่าด้านในนี้มีสมุนไพรล้ำค่าหลายต้น และกลัวศิษย์พี่จะบอกว่าพวกเรายักยอก ฉะนั้นจึงเฝ้าอยู่ที่นี่มาตลอดขอรับ

เมื่อสักครู่ศิษย์พี่พาคนมาก็บอกอยากจับพวกเรามัดแล้วเอาเลือดไปรดสมุนไพร น่ากลัวมากขอรับ อาจารย์ขอรับหรือว่าพวกเราทำเยี่ยงนี้มันผิดแล้ว?” หยุนถิงทำท่าทางอ่อนแอและหวาดกลัว

“เจ้าพูดเหลวไหล ที่นี่เป็นที่ดินรกร้างผืนหนึ่ง เดิมทีไม่มีสมุนไพร!” โอจื่อโฝวรีบโต้แย้ง

“ศิษย์พี่พูดโกหกอย่างหน้าไม่อายเสียจริง หรือศิษย์พี่อยากจะยักยอกเก็บเอาไว้เอง ไม่มอบให้อาจารย์?” หยุนถิงถามกลับ

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท