จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 799 หากเจ้าติดตามเขา
เหล่าศิษย์เห็นภาพนี้พากันอึ้งตะลึงอยู่นานก็ไม่ได้สติกลับมาสักที
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ นี่คือสำนักหมอเทวดานะ สำนักที่ดีที่สุดที่เรียนวิชาแพทย์ของเขตทะเลนิรนาม จะโหดร้ายนองเลือดเช่นนี้!” ศิษย์คนหนึ่งทนไม่ไหวพูดออกมา
“นี่มันเอาคนเป็นมาทำยาฝึกกู่นี่นา ต่อไปหากพวกเราโดนขังอยู่ที่นี่ ก็เท่ากับอยู่มิสู้ตายน่ะสิ!”
“อาจารย์ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ข้าเลื่อมใสเขายิ่งนัก นี่มันโยนพวกเราเข้ากองไฟชัดๆ!”
“สำนักหมอเทวดานี่สัตว์เดรัจฉานในคราบคนชัดๆ ทำกับคนเป็นอย่างทารุณเช่นนี้ ไม่คู่ควรเป็นคนด้วยซ้ำ!”
“แต่ตอนนี้พวกเราถูกพิษแล้ว จะทำอย่างไรดี?”
ทุกคนต่างหันมองโอจื่อโฝวราวกับมดที่กำลังดิ้นพล่านในกะทะร้อนทันที
ต่อให้ในหมู่ศิษย์จะมีหลายคนนักที่เป็นคนสนิทของผู้อาวุโสอวี๋ ก่อนหน้านี้พวกเขายังสงสัยว่าโอจื่อโฝวกุเรื่องขึ้น แต่พอเห็นภาพนองเลือดเช่นนี้แล้ว คนสนิทเหล่านั้นก็แตกตื่นทันที
เพราะเรื่องมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของพวกเขา
“ศิษย์พี่ใหญ่ ก่อนหน้านี้มีเรื่องกันไป ข้ามีตาหามีแววไม่เอง ขอร้องท่านช่วยถอนพิษให้พวกเราด้วย ชี้หนทางรอดให้พวกเราด้วย!” ศิษย์คนหนึ่งในนั้นบอกอย่างรู้สึกผิด
“ขอศิษย์พี่ใหญ่ช่วยพวกเราด้วย!” เหล่าศิษย์พากันอ้อนวอน
ในเมื่อโอจื่อโฝวรู้เรื่องทั้งหมด และยังบอกทุกอย่างแก่ทุกคน วินาทีนี้ย่อมกลายเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของทุกคนไปโดยปริยาย
“ห้องของอาจารย์มีห้องลับห้องหนึ่ง ในนั้นเก็บยาไว้มากมายนัก บางทีอาจจะมียาถอนพิษ แต่ว่าในนั้นมีหนอนกู่และหนอนพิษมากมายนัก อีกครู่ทุกคนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังฟังคำสั่งข้าล่ะ!” โอจื่อโฝวแค่นเสียงเย็น
ในเมื่ออาจารย์ใจร้ายก่อน ดังนั้นก็อย่าหาว่าตนไร้น้ำใจล่ะ
“พร้อมเชื่อฟังศิษย์พี่ใหญ่ขอรับ!” ทุกคนเห็นด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนช่วยพวกเขาออกมากันเถอะ พวกเขาเคยเป็นศิษย์ร่วมสำนักของเรา และก็เป็นศิษย์ของสำนักหมอเทวดาเหมือนกัน ล้วนเป็นอาจารย์ที่ทำให้พวกเขาเป็นเช่นนี้!” หายากนักที่โอจื่อโฝวพูดจาดีเช่นนี้
หากเป็นเมื่อก่อน ใครจะเป็นจะตายเกี่ยวอะไรกับเขากัน แต่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและความโหดร้ายของมนุษย์ในหลายวันนี้ ทำให้เขาเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้อาวุโสอวี๋ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเมื่อก่อนตนนั้นโง่งมแค่ไหน
“ใช่ แต่หนอนมากมายบนตัวพวกเขานัก หนอนพวกนี้คือหนอนกู่กระมัง?” ทุกคนเริ่มสงสัย
“ข้ามียาไล่หนอนกู่!” จิ่วฟ่างบอก รีบพูดสถานที่ออกมา และให้คนไปนำมา
โชคดีที่หยุนถิงคาดเดาเหตุการณ์ไว้ก่อนแล้ว เลยเหลือไว้ให้เขามากนัก
ทุกคนช่วยศิษย์ในคุก และตามโอจื่อโฝวไปห้องลับของผู้อาวุโสอวี๋อีก ใช้ประโยชน์จากผงยาขับไล่หนอนกู่ที่หยุนถิงเหลือไว้ วางยาหนอนกู่เหล่านั้นตายหมด โอจื่อโฝวเจอยาถอนพิษในห้องลับจริงๆ
เขาแบ่งให้คนทั้งหมด ศิษย์ที่เข้าสำนักใหม่คนละเม็ด คนที่อยู่มานานหน่อยก็สองหรือสามเม็ด ทุกคนพากันกินเข้าไปหมด ไม่นานพิษบนแขนก็โดนกำจัดไป
“ขอบคุณศิษย์พี่ใหญ่ที่ช่วยชีวิต!” ทุกคนซาบซึ้งในตัวโอจื่อโฝวยิ่งนัก
วินาทีนี้เห็นทุกคนขอบคุณตนจากใจจริงแล้ว โอจื่อโฝวรู้สึกตื้นตันใจนัก
ในที่สุด ตนก็ได้เป็นคนดีกับเขาสักครั้งหนึ่ง
“ในเมื่อพิษของทุกคนถูกถอนไปหมดแล้ว รีบไปกันเถอะ หากอาจารย์กลับมารู้เรื่องทั้งหมด ต้องฆ่าพวกเจ้าปิดปากแน่!” โอจื่อโฝวบอก
ศิษย์ทั้งหมดได้ยินดังนั้นก็ตกใจยิ่งนัก ในหมู่พวกเขามีหลายคนรับหน้าที่รับส่งศิษย์อยู่แล้ว คุ้นเคยเส้นทางทางน้ำดี รีบพาทุกคนจากไปทันที
ผางซิงและโจวปู้เองก็ตามคนส่วนใหญ่ไปเช่นกัน หากมิใช่ศิษย์พี่ใหญ่เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของอาจารย์ น่ากลัวว่าจนตายพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเรือนอวี๋จะชั่วร้ายปานนี้
ศิษย์ตระกูลโอสองคนที่พึ่งส่งมาใหม่ก็ตกใจไม่น้อย พวกเขาคิดว่าพวกเขาได้เข้ามายังสำนักหมอเทวดาเพื่อมาเชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล แต่ไม่คิดเลยว่าสำนักหมอเทวดาจะเป็นเช่นนี้ ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ รีบตามทุกคนไปทันที
พอเห็นทุกคนจากไป โอจื่อโฝวไม่ได้ตามไป กลับหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างใน
“เจ้าไม่ไปรึ?” จิ่วฟ่างถามเสียงเย็นจากด้านหลัง
โอจื่อโฝวยิ้มมุมปากเย้ยหยัน “ข้าโดนตระกูลเขี่ยทิ้งแล้ว และยังโดนอาจารย์สลัดทิ้งอีก ต่อให้ไปจากที่นี่ ข้าจะยังไปไหนได้อีก?”
จิ่วฟ่างเห็นเขาเป็นอย่างนี้ จึงควักจดหมายฉบับนั้นออกมาจากในอกเสื้อ “นี่เป็นจดหมายที่ถิงหยุนทิ้งไว้ให้เจ้า เขาบอกว่า ถ้าเจ้าไม่จากไป ก็เอาจดหมายนี้ให้เจ้า!”
พอได้ยินว่าเป็นของถิงหยุน โอจื่อโฝวก็อึ้ง พุ่งเข้ามาคว้าจดหมายเปิดออกทันที มองดูเนื้อหาในจดหมายแล้ว ก็ตื่นเต้นจนมือสั่นเทา
เขาไม่คิดเลยว่า ถิงหยุนจะคิดทางรอดไว้ให้ตนแล้ว
“ข้าจะไปจากที่นี่ แต่ก่อนไป ข้ายังมีอีกเรื่องที่ต้องทำ!” โอจื่อโฝวหมุนเดินกลับเข้าเรือน
ไม่นาน จิ่วฟ่างก็เห็นเรือนของอาจารย์ไฟไหม้ ควันไฟโขมง ไฟโหมแรงมาก อาศัยลมทะเลช่วยเข้าไปเลยลามไปเรือนอื่นด้วย แค่เวลาเพียงก้านธูปเดียว ก็ไหม้ไปทั้งเกาะแล้ว
แสงไฟสะท้อนขึ้นฟ้า รุ่งโรจน์ร้อนแรง ทั่วทั้งเกาะกลายเป็นทะเลเพลิง
โอจื่อโฝวโยนคบไฟในมือทิ้งลงทะเลเพลิงต่อหน้าทุกคน และหมุนตัวจากไป
จิ่วฟ่างอุ้มจิ่นฉิงตามไป พวกเขาสามคนพากันนั่งเรือจากไป
…………………..
อีกด้าน พวกหยุนถิงมาถึงเกาะเทียนหลงในอีกสามวันให้หลัง บนเรือจิ่วฟ่างไม่พูดอะไรกับนางเลยสักคำ ดังนั้นผู้อาวุโสอวี๋เลยไม่ได้สงสัยอะไร
ตลอดทาง หยุนถิงจดจำทิศทางไว้ตลอด ไม่เพียงแค่หมอกหนาเคลื่อนตัวช้า และยังมีฉลามในทะเลมากนัก อันตรายกว่าทางที่ไปสำนักหมอเทวดาก่อนหน้านี้เสียอีก
พอเรือเข้าเทียบท่าเกาะ พวกหยุนถิงรีบไปยกกล่องลงมาจากห้องโดยสารบนเรือทันที เพียงแต่กล่องนั้นหนักเกินไป หยุนถิงออกแรงเหนื่อยมาก
“ข้าเอง!” จิ่วฟ่างที่เป็นจวินหย่วนโยวปลอมแปลงมา แค่นเสียงเย็นก่อนจะยกมือขึ้นยกกล่องนั้น
หยุนถิงได้แต่ตอบว่า “ขอบคุณศิษย์พี่จิ่วฟ่างมาก!”
จวินหย่วนโยวตามศิษย์คนอื่นมายกล่องจากไป หยุนถิงไปหยิบของที่เบาลงมาหน่อย
พวกเขาตามผู้อาวุโสอวี๋เข้าเมือง ทหารยามเฝ้าประตูเมืองรีบสกัดไว้ทันที “ผู้อาวุโสอวี๋ คนพวกนี้คือ?”
“ของพวกนี้เป็นของศิษย์คนสนิทของข้า กล่องหลายกล่องนี้เป็นของขวัญที่นำมาให้ผู้อาวุโสอวี๋!” ผู้อาวุโสอวี๋ยื่นเทียบเชิญออกมา
ทหารยามถึงปล่อยผ่าน “เมื่อครู่เสียมารยาทกับผู้อาวุโสอวี๋ไป เชิญตามข้ามาเถอะ”
“ขอบคุณมาก!”
ทุกคนรีบยกกล่องตามไปทันที พวกผู้อาวุโสอวี๋ถูกจัดไว้ที่เรือนตะวันตก
“ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ อยู่ได้แต่ในเรือนตะวันตกนะ อย่าออกจากเรือนตะวันตก และห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นข้าก็คุ้มหัวพวกเจ้าไม่ได้!” ผู้อาวุโสอวี๋กำชับ
“ขอรับ!” ศิษย์ทั้งหลายรีบเข้าห้องพักผ่อนทันที
ในห้องตกแต่งอย่างหรูหรา เรียบง่ายแต่สง่า หยุนถิงพอใจมาก เก็บข้าวของอย่างเรียบง่าย และออกจากห้อง
พอออกมาก็เห็นจิ่วฟ่างยืนรออยู่หน้าห้องพอดี “ศิษย์พี่?”
“ไปไหน?” จิ่วฟ่างที่จวินหย่วนโยวปลอมแปลงมาถามเสียงเย็น
“ข้าตามอาจารย์มาเกาะเทียนหลงครั้งแรก ตื่นเต้นจังเลย ดังนั้นเลยอยากออกไปดูรอบๆเพื่อเปิดหูเปิดตาหน่อย” หยุนถิงตอบ
“ไปเถอะ!” จวินหย่วนโยวหมุนตัวจากไป
หยุนถิงรีบตามไปทันที “ขอบคุณศิษย์พี่!”
พอศิษย์คนอื่นเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะยังไงถิงหยุนก็เป็นศิษย์ใหม่ พึ่งเข้าสำนักมาก็ตามอาจารย์มาเกาะเทียนหลงเลย รู้สึกแปลกใหม่ก็เป็นเรื่องธรรมดา
ฉินเจี่ยเห็นแผ่นหลังของจิ่วฟ่างและถิงหยุนพอดี อดขมวดคิ้วไม่ได้ ปกติจิ่วฟ่างมักสันโดษไม่สุงสิงกับใครทั้งสิ้น ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเดินเล่นรอบเรือนตะวันตกไปหนึ่งรอบ สถานที่ไม่เล็กเลย ของกินของใช้พร้อมสรรพ ยังมีห้องครัวต่างหาก ไม่เลวอย่างมาก
หยุนถิงพลันเห็นว่า ห่างไปไม่ไกลมีสาวใช้คนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่ ข้างๆมีสาวใช้อีกคนที่อายุมากกว่าคอยปลอบอยู่ว่า “เจ้าก็อย่าเสียใจไปนักเลย พ่อบ้านสนใจเจ้าน่ะ เป็นบุญของเจ้าแล้ว หากเจ้ายอมติดตามเขา ต่อไปไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องปากท้องอีก และไม่ต้องทำงานรับใช้คนอื่นอีกแล้วด้วย ดีออก”