จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 812 ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่812 ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า

“ข้าไม่เอา!” หยุนถิงหันกลับและเดินออกไปอย่างโกรธ

เมื่อวี่หนานเสวียนเห็นนางเช่นนี้ ก็กังวลในทันที “อีนังหนูเจ้าเอาจริงหรือ ข้าก็แค่พูดไปงั้นๆ เจ้าจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?”

“ทำไมถึงไม่ขนาดนี้ เพื่อไปหาวัตถุดิบให้ท่าน ข้าอยู่ที่หลังเขาไปสามวัน ไม่ได้กินไม่ได้ดื่ม แต่กลับมาก็ถูกท่านใส่ร้าย มากที่สุดท่านก็แค่ฆ่าข้าทิ้ง ไม่รับใช้ท่านแล้ว!” หยุนถิงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว

“อีนังหนูนี่เจ้ามากไปแล้วนะ กล้ามาเล่นไร้เหตุผล ก้าวร้าวกับข้า หากเจ้ากล้าเดินออกจากห้องนี้ ข้าจะไปฆ่าเจว๋กู่ทิ้งเดียวนี้เลย!” วี่หนานเสวียนจงใจขู่

เหมือนที่คิดเอาไว้เลย และแล้วหยุนถิงที่เดินออกไปด้วยความโกรธก็หยุดกะทันหัน และขี้ขลาดในทันที “เมื่อครู่มันเป็นความผิดของบ่าวเอง ทำให้คุณชายน้อยทรงโกรธ ขอคุณชายน้อยอย่าได้ถือสากับบ่าว ยกโทษให้บ่าวเถอะเจ้าค่ะ!”

หยุนถิงแสร้งทำเป็นคนประจบสอพลอ และร้องขอความเมตตาทันที

วี่หนานเสวียนพอใจมาก “ถือว่าเจ้ารู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดมิควร รีบไปทำอาหารให้ข้า ถึงตอนนี้ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย”

“เจ้าค่ะ!” หยุนถิงแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง หยิบวัตถุดิบบนพื้นแล้วไปที่หลังครัว

หลังจากนั้นไม่นาน หยุนถิงก็ทำอาหารสี่อย่างและซุปหนึ่งอย่างเสร็จ มีทั้งเนื้อและผัก ทั้งร้อนและเย็น อร่อยยิ่งนัก

วี่หนานเสวียนเพียงแค่ได้กลิ่นก็น้ำลายไหลแล้ว หยิบตะเกียบขึ้นมาและกำลังจะกิน แต่ถูกหยุนถิงห้ามเอาไว้

“เดี๋ยวก่อน เพื่อไม่ให้คุณชายน้อยสงสัยว่าข้าวางยาลงอาหารอีก ข้าจึงจงใจทำเยอะหน่อย ให้พ่อบ้านและบ่าวรับใช้คนอื่นๆกินพวกนี้เถอะ เช่นนี้ท่านก็จะไม่ปรักปรำข้าอีก!” หยุนถิงพูดอย่างเฉยชา

“ได้ เช่นนั้นพ่อบ้านพวกเจ้ากินด้วยกันเถอะ!” วี่หนานเสวียนสั่ง

“ขอรับ!” พ่อบ้านรีบพาคนรับใช้คนกินทันที

หลังจากได้ชิมทุกคนต่างก็พูดชมฝีมือการทำอาหารของหยุนถิงอย่างไม่ขาดปาก โดยเฉพาะพ่อครัวเหล่านั้น ในที่สุดก็รู้สักทีว่าทำไมคุณชายน้อยถึงได้ชอบกินอาหารที่สาวรับใช้นี้ทำ ว่าแล้วไม่เทียบไม่รู้ พอเทียบทีถึงได้รู้ความถึงความแตกต่าง

ในอีกไม่กี่วันต่อมา ฝีมือการทำอาหารของหยุนถิงก็เอาใจคนในนี้ได้จนหมด รวมทั้งพ่อบ้านและคนรับใช้ ต่างกชอบนางยิ่งนัก เพราะไม่ว่าใครก็ชอบกินของอร่อย

วี่หนานเสวียนก็ยิ่งอิ่มอกอิ่มใจยิงนัก อ้วนขึ้นสองโลหลังกินติดต่อกันสองสามวัน

วันนี้ หยุนถิงเพิ่งทำขนมว่างเสร็จ วี่หนานเสวียนกินไปชิ้นหนึ่งก็รู้สึกว่ารสชาติไม่เลว

“คุณชายน้อย เมื่อครู่บ่าวบังเอิญทำเยอะมาพอดี ในเมื่อท่านชอบกิน ก็สามารถส่งไปให้ฮูหยินสักหน่อย เช่นนี้ก็จะได้เห็นถึงความกตัญญูของคุณชายน้อยด้วย” หยุนถิงตอบ

“เจ้าพูดถูก ข้าไม่ได้เจอท่านแม่มาหลายวันแล้ว เจ้าไปยกขนมมาแล้วไปกับข้า!” วี่หนานเสวียนพูด

“เจ้าค่ะ!” ดวงตาแสนสวยของหยุนถิงฉายแววแห่งความสำเร็จ ถูกใจนางพอดีเลย

จากนั้นวี่หนานเสวียนก็พาหยุนถิงไปที่ลานของฮูหยินเจ้าทะเล และบังเอิญพบกับพ่อบ้านพอดี

“ข้ามาส่งขนมของว่างให้ท่านแม่ ท่านแม่ล่ะ?”วี่หนานเสวียนถาม

พ่อบ้านเหลือบมองคุณชายน้อย และสาวใช้ข้างเขาที่ถือขนมไว้ “เรียนคุณชายน้อย ฮูหยินไปปรึกษาหารือเรื่องกับเหล่าผู้อาวุโสแล้ว คาดว่าคงต้องอีกสักพักถึงจะกลับมา”

“ในเมื่อเช่นนี้ ข้าก็รอหน่อยละกัน!” วี่หนานเสวียนเดินตรงเข้าไป

“ขอรับ!” พ่อบ้านตามไปทันที รินน้ำชาให้คุณชายน้อยแล้วถอยไปยืนอยู่ข้างๆ

หยุนถิงยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ หลังจากนั้นไม่นานวี่หนานเสวียนกับพ่อบ้านก็สลบไป หยุนถิงพอใจมาก เมื่อครู่นางฉวยโอกาสตอนสองคนนี้ไม่ทันสังเกตแล้วโรยยาสลบ ไร้สีไร้กลิ่น ขณะนี้มันได้ผลแล้ว

หยุนถิงรีบปล่อยหลงยีกับหลิงเฟิงที่อยู่ในมิติออกมาทันที “นี่คือห้องของเซียวหรูซื่อ แยกกันดำเนิน เพื่อดูว่ามีทางลับหรืออะไรที่น่าสงสัยหรือไม่!”

“ขอรับ!” หลิงเฟิงกับหลงยีรีบแยกดำเนินการทันที

ทั้งสามคนแบ่งงานกัน และคันห้องของเซียวหรูซื่อไปทั่ว หยุนถิงพบแจกันบนชั้นวางน่าสงสัย หมุนเล็กน้อย และชั้นวางหนังสือด้านข้างก็เคลื่อนไปด้านข้าง และมีทางลับหนึ่งปรากฏขึ้น

“หลงยีเจ้าอยู่ที่นี่ หากฮูหยินเจ้าทะเลกลับมา ก็วางยานี้ไว้ใต้จมูกของพวกเขาแล้วเขย่า!” หยุนถิงหยิบขวดหนึ่งขวดออกมาจากมิติ

“ขอรับ!”

หยุนถิงพาหลิงเฟิงเข้าไปในทางลับทันที ในทางลับมีไข่มุกราตรีวางเอาไว้ ซึ่งส่องแสงสว่างมาก ดังนั้นหยุนถิงกับหลิงเฟิงจึงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว

พื้นที่ภายในมีขนาดใหญ่มาก มีห้องลับสามห้อง ขวดต่าง ๆ วางอยู่บนชั้นวางของ ซึ่งล้วนเป็นยาและยาพิษและอีกห้องหนึ่งเต็มไปด้วยหนอนกู่หลากหลายชนิด

ต่อให้เป็นหลิงเฟิงที่เปิดหูเปิดตาอะไรมานับไม่ถ้วน แต่เมื่อเห็นหนอนกู่ที่วางอย่างหนาแน่นบนชั้นวางของบนผนังในขณะนี้ ก็ยังรู้สึกขนลุกเลย

หยุนถิงชำเลืองมองอย่างเย็นชา “ระวัง พวกนี้น่าจะเป็นราชาหนอนกู่ เป็นหนอนกู่ที่มีพิษร้ายแรงที่สุด หากมีแค่พวกนี้ ก็ทำห้องปรุงยาก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างห้องลับขนาดใหญ่เช่นนี้ พวกข้าหาดูอีกที ดูว่ามีกลไกอื่นหรือไม่!”

“ขอรับ!” หลิงเฟิงไปตรวจดูรอบๆ

หยุนถิงก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นางรู้สึกเสมอว่าห้องลับนี้ไม่ควรเรียบง่ายเช่นนี้ แถมห้องลับนี้มีกลิ่นเน่าและกลิ่นของเชื้อราด้วย

ในไม่ช้า หลิงเฟิงก็พบว่าตำแหน่งหนึ่งของไข่มุกราตรีบนกำแพงนั้นแตกต่างจากตำแหน่งไข่มุกราตรีอื่น

“ซื่อจื่อเฟย นี่อาจเป็นกลไก ท่านต้องระวัง!”

“อืม!” หยุนถิงถอยหลังออกไปทันที

หลิงเฟิงเอื้อมมือไปคลำ และในที่สุดก็กดไข่มุกราตรีนั้น จากนั้นผนังด้านหนึ่งก็เคลื่อนออกไป

หยุนถิงรีบมองเข้าไปข้างในทันที ห้องลับขนาดใหญ่ มีคนถูกขังอยู่ข้างใน เสื้อของคนคนนั้นสกปรก เปื้อนเลือด สยดสยองยิ่งนัก

ผมยุ่งเหยิง มองเห็นใบหน้าไม่ชัด มือและเท้าถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ ขยับไม่ได้ พิงอยู่ที่ไม้อย่างดิ้นเฮือกสุดท้าย

บนพื้นรอบๆนางเต็มไปด้วยอุจจาระ อาหาร และกองของเน่าที่ขึ้นรา บางทีอาจเป็นเพราะเวลาผ่านไปนาน อาหารเหล่านั้นไม่สามารถแยกแยะออกแล้ว สิ่งเดียวที่มองออกคือหมั่นโถวที่กินไปครึ่งหนึ่ง

“คนคนนี้ถูกทรมานอย่างน่าเวทนายิ่งนัก!” หลิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

ดูจากสีของสิ่งเหล่านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะถูกขังเอาไว้ในที่นี้นานมากแล้ว

คนคนนั้นเห็นคนแปลกหน้าสองคนอย่างกะทันหัน พยายามที่จะพุ่งไปหาพวกเขา แต่มือและเท้าถูกมัดไว้ โซ่ที่ดิ้นรนส่งเสียงดังกริ๋งกริ๋ง ในปากของนางครวญครางบางอย่าง ตื่นเต้นและบ้าคลั่งมาก แต่กลับทำให้คนได้ยินไม่ชัด

หยุนถิงทนกับกลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียน เดินเข้าไปใกล้สองสามก้าว “เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงได้ถูกฮูหยินเจ้าทะเลขังทรมานอยู่ในนี้?”

คนที่ถูกฮูหยินเจ้าทะเลทรมานได้ถึงเช่นนี้ คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

คนคนนั้นตะโกนอย่างสุดกำลัง แต่กลับพูดอะไรไม่ออก จากนั้นก็ได้ยินคำว่าฮูหยินเจ้าทะเล ก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นราวกับว่าบ้าคลั่งไป

หยุนถิงเฝ้าดูปฏิกิริยาของนางอย่างดี “เจ้าพูดไม่ได้หรือ?”

คนคนนั้นพยักหน้าอย่างหนักแน่น จากนั้นก็ดิ้นรนต่อ

“เจ้าอย่าดิ้นรนไปเลย ต่อให้ดิ้นรนก็ไม่มีประโยชน์ โซ่นี้ทำจากเหล็กเย็นพันปี นอกจากจะมีกุญแจ มิฉะนั้นคนอื่นก็ไม่อาจเปิดได้ ข้าบังเอิญเป็นทักษะทางการแพทย์พอดีข้าสามารถช่วยเจ้าตรวจดูได้!” หยุนถิงเดินเข้าไปอย่างกล้าหาญ

คนคนนั้นตื่นตระหนก กลัว และกำลังจะหลบ แต่ถูกหยุนถิงจับเอาไว้

“อย่ากลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้า!” หยุนถิงพูดอย่างอ่อนโยน และจับชีพจรของหล่อน ทันทีที่จับก็ทำให้นางตกตะลึงเลย

เนื่องจากชีพจรของคนคนนี้ อ่อนแอกว่าของม่อเซิงในตอนนั้นอีก เห็นได้ว่าถูกคุมขังและถูกทารุณกรรมเป็นเวลานาน ถึงได้เป็นเช่นนี้

หยุนถิงหยิบยาถอนพิษ สารอาหารเหลว และยาเสริมพลังจิตออกมาทันที และให้คนคนนั้นกินเข้าไปทั้งหมด

บางทีอาจเป็นเพราะคนคนนั้นรู้สึกได้ว่าหยุนถิงไม่มีเจตนาร้าย และยิ่งไม่มีเจตนาอาฆาต จึงกินเข้าไปทั้งหมด ร่างกายที่อ่อนแอ และพละกำลังที่สูญเสียไปก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา คนคนนั้นเบิกกว้างด้วยความดีใจ และสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ

“ในเมื่อเจ้าพูดไม่ได้ แต่ก็คงเขียนได้สินะ!” หยุนถิงรีบหยิบพู่กันและกระดาษออกมาจากมิติทันที

คนคนนั้นหยิบพู่กันมาอย่างสั่นเทา และเขียนอักษรตัวใหญ่สองสามตัวลงบนนั้น “ข้าคือเซียวหรูซื่อ!?”

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท