จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 894 ข้าจะไม่แต่งงานกับท่านหรอก

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 894 ข้าจะไม่แต่งงานกับท่านหรอก

“ข้าจะรู้ได้อย่างไรเล่า บางทีอาจเพราะก่อนหน้านี้ร่างกายนางไม่ดี เลยฟื้นตัวได้ช้าหน่อย” หมอยมบาลตอบ

ตาเฒ่าเหอที่เดินเข้ามารีบบอก “พวกเจ้าบอกว่า เจ้าห้าปกติน่ะไม่มีปากมีเสียง ทำไมถึงได้ทำเรื่องก่อกบฏเช่นนี้ออกมาได้ล่ะ?”

ฮูหยินเฒ่าฟู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เจ้าห้านี่เหลวไหลจริงๆ แต่ฝ่าบาทคงไม่ถึงกับจะริบทรัพย์หรอก หยุนเฉิงเซี่ยงน่ะเป็นขุนนางเก่าแก่ หยุนถิงเองก็เป็นองค์หญิงที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเอง และยังมีจวินซื่อจื่ออีก

จากที่ข้าเข้าใจฝ่าบาทนะ คาดว่าฝ่าบาทจะเลือกตัดส่วนน้อยออกไป ให้ตระกูลหยุนตัดขาดสัมพันธ์กับเจ้าห้า และเนรเทศเจ้าห้าไป เพราะอย่างไรการก่อกบฏก็เป็นโทษหนัก”

“แล้วนังหนูนี่จะทำอย่างไรล่ะ?” หมอยมบาลโพล่งถามทันที

“คงได้แต่โทษนังหนูนี่ที่โชคไม่ดี เจ้าห้าก่อรเอง หากนางแต่งงานกับเจ้าห้า ก็ต้องโดนเนรเทศด้วย เพราะเจ้าห้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าว่าหยุนเฉิงเวี่ยงต้องให้เจ้าห้าแต่งงานกับหงหลิง แบบนี้ก็จะได้เหลือสายเลือดของเจ้าห้าไว้” ฮูหยินเฒ่าฟู่ถอนหายใจบอก

“น่าสงสารจริง หากนังหนูนี่ไปจากเจ้าห้า ก็จะรักษาชีวิตไว้ได้งั้นสิ?” ตาเฒ่าเหอถาม

“แน่นอนอยู่แล้ว หากนางแต่งงานกับเจ้าห้าก็ต้องตามไปติดไปด้วยไม่ว่าเป็นหรือตายแน่ ต่อให้ตาย กระดูกก็ต้องถูกฝังไว้ในสุสานตระกูลหยุน หากหงหลิงตัดขาดกับเจ้าห้า นางก็จะเป็นอิสระ ก็จะไม่โดนหางเลขของตระกูลหยุนไปด้วย

แต่ก่อนหน้านี้เจ้าห้าเคยพูดว่า ชาตินี้จะไม่แต่งงานกับผู้ใดนอกจากหงหลิง หากเขาขอร้องหยุนเฉิงเซี่ยงให้ช่วยเขาสมปรารถนาเรื่องการแต่งงาน ข้าว่าหยุนเฉิงเซี่ยงต้องรับปากแน่ๆ เพราะลูกชายจะโดนเนรเทศอยู่แล้ว เวลานี้ใครจะยอมแต่งงานกับเจ้าห้าล่ะ” ฮูหยินเฒ่าฟู่ตอบ

หงหลิงที่อยู่บนเตียงได้ยินคำนี้เข้า มือที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่มกำแน่น

นางยังไม่อยากตาย ยังใช้ชีวิตไม่พอ ดูท่านางต้องทำให้เจ้าห้าตัดใจจากตนถึงจะได้ มีเพียงอย่างนี้นางถึงจะมีชีวิตต่อไปได้

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเรากลับไปกันก่อนเถอะ รอนังหนูนี่ฟื้นก่อนค่อยว่ากัน” หมอยมบาลเสนอ

“ได้!”

พวกเขากำลังจะออกไป หงหลิงที่อยู่บนเตียงพลันลืมตาขึ้น “ผู้อาวุโส ฮูหยินเฒ่า ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?”

“ก่อนหน้านี้เจ้าสลบไปในวัง ดังนั้นหยุนซูเลยส่งเจ้ามาที่นี่” หมอยมบาลตอบ

“ต้องโทษร่างกายที่อ่อนแอของข้า ผู้อาวุโส ขอร้องท่านช่วยข้าด้วยเถิด ข้าอยากเจอคุณชายห้าสักหน่อย” หงหลิง พูดพลางลุกขึ้นจากเตียงมาคุกเข่าลงพื้นทันที

“นังหนูนี่รีบลุกขึ้นเร็ว ร่างกายยังไม่หายดีเลยนะ” หมอยมบาลบอก

“ข้าอยากเจอคุณชายห้าสักครั้ง!” หงหลิงอ้อนวอน

“เจ้าอยากเจอ ข้าหาทางให้เจ้าก็ได้”

“ขอบคุณผู้อาวุโส ขอบคุณมาก”

ฮูหยินเฒ่าฟู่รีบให้คนไปบอกหยุนซูทันที ไม่นานหยุนซูก็รีบมา และพาหงหลิงไปที่คุกหลวงในวัง

“คุณหนูสาม เหตุใดวันนี้ถึงเข้าวังมาตอนกลางวันล่ะ?” หงหลิงถาม

“พี่หญิงใหญ่ขอร้องฝ่าบาท ให้ข้ามาเยี่ยมพี่ชายห้า เจ้าฟื้นขึ้นมาพอดี ข้าเลยพาเจ้ามาด้วย” หยุนซูตอบ

หงหลิงมีหรือจะมีแก่ใจมานึกสงสัย นางแค่อยากรีบตัดขาดสัมพันธ์กับเจ้าห้าให้เร็วที่สุด

ในคุกหลวง

ได้เห็นเจ้าห้าในชุดเปื้อนเลือดแต่ไกล สีหน้าซีดเผือดยิ่งนัก ไม่มีความอ่อนโยนสง่างามอย่างปกติ นอนหายใจรวยริน บรรยากาศทะมึน ทำเอาหงหลิงหวาดหวั่นยิ่งนัก

“พี่ชายห้า เหตุใดท่านบาดเจ็บขนาดนี้เล่า?” หยุนซูถามอย่างเป็นห่วง

เจ้าห้าได้ยินเสียงนี้ ก็รีบหันมามองทันที และลุกขึ้นจากพื้นอย่างตื่นเต้น แต่ร่างกายอ่อนเพลียมากเกินไป เจ็บปวดยิ่งนัก พอจะลุกขึ้นมาเลยล้มไปอีกครั้ง เจ็บจนสีหน้าขาวซีด

“คุณชายห้าท่านอย่าขยับ อย่าลุกขึ้นเลย” หงหลิงบอกอย่างสงสาร

“หงหลิง เจ้ามีคำพูดอะไร รีบพูดกับพี่ชายห้าเถอะ ข้าจะไปรอเจ้าข้างนอก!” หยุนซูพูดจบ พลางหมุนตัวจากไป

จนเห็นนางจากไป หงหลิงถึงได้วางใจ ความเป็นห่วงกับความกังวลบนใบหน้าหายไปกลายเป็นเย็นชาและตึงเครียด

เจ้าห้าคลานขึ้นมาจากพื้น เดินโอนเอียงเข้ามาจับแขนหงหลิงไว้ “หงหลิง ขอโทษนะ ข้าทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว แต่เจ้าเชื่อข้านะ ข้าไม่ได้ก่อกบฏจริงๆ ท่านพ่อและซื่อจื่อเฟยต้องล้างมลทินให้ข้าได้แน่ เจ้ารอข้านะ อีกไม่นานข้าจะได้ออกไปแล้ว ถึงเวลานั้นข้าต้องแต่งงานกับเจ้าอย่างถูกต้องแน่”

“พอได้แล้วคุณชายห้า ข้าไม่แต่งงานกับท่านหรอก!” หงหลิงสะบัดมือเจ้าห้าออกอย่างรังเกียจ

เพราะว่าออกแรงมากเกินไป ตัวเจ้าห้าเลยโดนสะบัดจนล้มลงกับพื้น เขาเจ็บจนไอโขล่กๆออกมา

หงหลิงเพียงมองอย่างเย็นชาเท่านั้น ไม่มีวี่แววจะช่วยพยุงเขาขึ้นมาเลยสักนิด

“หงหลิง เมื่อครู่เจ้าพูดอะไรน่ะ เจ้าหลอกข้าใช่ไหม?” เจ้าห้าไม่สนใจความเจ็บ รีบถามทันที

“เมื่อครู่ไม่ได้หลอกท่าน เป็นคำพูดจริงๆ ข้าไม่อยากแต่งงานกับท่าน ไม่อยากโดนเนรเทศไปชายแดนกับท่าน และยิ่งไม่อยากไปทนทุกข์อดๆอยากๆกับท่านด้วย

อันที่จริงข้าไม่เคยชอบท่านมาก่อนเลย ข้าชอบฐานะของท่าน ข้าไม่เคยรักท่านเลยตั้งแต่ต้น ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าจะแต่งกับท่านเท่านั้น เป็นการหลอกท่านทั้งหมด

ท่านแม่ข้าได้รับความทุกข์ยากโดนทรมานจนตายที่ตระกูลเก๋อ ข้าโดนเก๋อฮูหยินและเก๋อฉีทรมานต่างๆนานาแต่เล็ก ข้าอยู่อย่างอยู่ไม่สู้ตาย ดังนั้นเลยแค่อยากหาที่พึ่งให้ตนเอง

พอดีสวรรค์ส่งให้ข้ามาเจอท่าน ข้ารู้ฐานะท่านตั้งแต่แรก ดังนั้นเลยจงใจใกล้ชิดท่าน ให้ท่านสงสารข้า เห็นใจข้าและชอบข้า

ขอเพียงได้แต่งงานกับท่าน แต่งเข้าตระกูลหยุน ข้าถึงจะอาศัยอำนาจตระกูลหยุน อาศัยความสัมพันธ์กับซื่อจื่อเฟย จัดการเหยียบเก๋อฮูหยินและเก๋อฉีไว้ใต้ฝ่าเท้าได้ ให้พวกนางไม่อาจฟื้นตัวได้ทั้งชาติ

ข้าคิดว่าจะได้กลายเป็นชนชั้นสูงแล้ว แต่ท่านกลับก่อกบฏ หยุนเฉิงเซี่ยงถึงกับโกรธจนสลบในวังเพราะท่าน จวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยต่างคุกเข่าอยู่นอกวังหลวง

พวกเขายังหมดปัญญา ดังนั้นท่านต้องโดนเนรเทศไปชายแดนแน่ ข้าอยากจะมาร่วมสุขกับท่าน มิใช่ไปชายแดนที่ทุรกันดารเช่นนั้น

หากคุณชายห้าสงสารข้า ขอคุณชายห้าตัดสัมพันธ์กับข้าเถิด นับตั้งแต่นี้ต่อไปท่านกับข้า ต่างคนต่างอยู่ ไม่ข้องแวะเกี่ยวข้องกันอีก!”

คำพูดแต่ละคำของหงหลิง พูดจาสวยหรูชัดเจน ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงกลางใจเจ้าห้า

เขาอึ้งอยู่นานไม่ได้สติ มองดูใบหน้าเย็นชาและเหินห่างของหงหลิง เจ้าห้าถึงกับคิดว่าหงหลิงตรงหน้านี้เป็นตัวปลอมด้วยซ้ำ

“เจ้าไม่ใช่หงหลิง นางไม่มีทางทำเช่นนี้กับข้า เจ้าหลอกข้าทั้งนั้น ต้องมีคนข่มขู่เจ้าใช่หรือไม่” เจ้าห้าสีหน้าเหลือเชื่อ เขาคลานขึ้นมาจากพื้นอย่างสุดกำลัง อยากจะเอื้อมมือไปดึงมือหงหลิง

หงหลิงกลับถอยหลังไปสองก้าว พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่มีใครบังคับข้า เดิมข้าคิดจะแกล้งตาย แต่ฮูหยินเฒ่าฟู่กลับบอกว่า ต่อให้ข้าตาย ก็ต้องโดนฝังเข้าสุสานตระกูลหยุน ดังนั้นข้าเลยมาพูดเปิดอกกับท่าน ข้าไม่อยากตาย และยิ่งไม่อยากแต่งงานกับนักโทษก่อกบฏอย่างท่านด้วย!”

หงหลิงพูดพลางถอดกำไลหยกที่ข้อมือออกมา “นี่เป็นของแทนใจที่คุณชายห้ามอบให้ข้า วันนี้ข้าคืนมันให้ท่าน”

“ไม่ ที่เจ้าพูดข้าไม่เชื่อเลยสักนิด ข้าไม่ได้ก่อกบฏจริงๆ ฝ่าบาทต้องสืบรู้ความจริงและคืนความบริสุทธิ์ให้ข้าได้แน่ เจ้ารอข้านะ!” เจ้าห้ารีบอธิบาย

แต่หงหลิงขี้เกียจฟังเขาพล่ามเสียเวลา โยนกำไลนั้นลงพื้นทันที

“เพล๊ง!” ดังขึ้น กำไลกระแทกกับพื้นจนแตกเป็นหลายเสี่ยง

เจ้าห้ามองกำไลนั้นอย่างตะลึง จนผ่านไปนานก็ไม่ได้สติ

“นับตั้งแต่นี้ไป ท่านกับข้าตัดขาดจากกัน ขอคุณชายห้าให้หนทางรอดแก่ข้าด้วย!” หงหลิงแค่นเสียงเย็น หมุนตัวจากไป

เจ้าห้ามองตามแผ่นหลังเย็นชาของนาง ที่เหยียบบนเศษซากกำไลนั้นออกไป เขาปวดใจยิ่งนัก

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท