จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 897 ท่านรังแกข้า
ขันทีน้อยพูดพลางถอดหมวกสีดำออก พอสะบัดผมยาวสยาย เผยให้เห็นใบหน้าเดิม
หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ปากจิ้มลิ้มสีชมพูโดยไม่ต้องทาสี ถึงจะไม่ได้แต่งหน้าแต่ก็งดงามนัก
หยุนถิงยังอดไม่อยู่มองหลายครั้ง ดวงตาสตรีผู้นี้ประหนึ่งดวงดาว หน้าตางดงามมาก
“สวิ๋นอวี่ ทำไมเป็นเจ้าล่ะ?” เป่ยหมิงฉี่ถามอย่างเอาเรื่อง
กู้สวิ๋นอวี่คลานขึ้นมากจากที่พื้น บ่นอย่างน่าสงสารว่า “ข้ากลัวว่าเสด็จพี่จะแต่งงานแล้วตื่นเต้นไง เลยตั้งใจมาแก้เบื่อให้ท่านถึงในวังเลยนะ”
“ข้าต้องให้เจ้าแก้เบื่อให้รึ?” เป่ยหมิงฉี่ถามเสียงเย็น
“เสด็จพี่ท่านราชกิจมาก แต่ท่านแต่งงานมีฮองเฮา ทั้งชาติก็มีแค่ครั้งเดียวนะ ข้ามาช่วยท่านไง”
ก็แค่อยากให้การปรากฏตัวเป็นเอกลักษณ์หน่อย สุดท้ายกลับโดนหาว่าจะวางยาพิษท่านเสียนี่ ผงยาพวกนั้นแค่ทำให้คันตัวเท่านั้นเอง ไม่มีพิษสักหน่อย
หากเจ้าหมอนี่ต่างหาก กลับซัดฝ่ามือใส่ข้าจนลอยกระเด็น น่าตายนัก เสด็จพี่ท่านต้องลงโทษเขานะ ไม่งั้นข้าไม่มีหน้าอยู่ต่อแล้ว!” กู้สวิ๋นอวี่โอดครวญ
เป่ยหมิงฉี่มองค้อนนาง “งั้นเจ้าไปตายเถอะ”
กู้สวิ๋นอวี่ตะลึง จากนั้นร้องโหยหวนอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “เสด็จพี่ ท่านรังแกข้า เพื่อชายผู้หนึ่งท่านกลับรังแกข้า?”
“หุบปาก เขาคือจวินหย่วนโยว!” เป่ยหมิงฉี่หน่ายใจ
“จวินหย่วนโยว จวินซื่อจื่อแห่งแคว้นต้าเยียน ชายรูปงามอันดับหนึ่ง ที่แท้หน้าตาอย่างนี้นี่เอง วันนี้ได้เจอตัวเป็นๆแล้ว ดียิ่งนัก
จวินซื่อจื่อข้าเลื่อมใสท่านนัก ผู้คนต่างบอกว่าท่านเย็นชากระหายเลือด น่ากลัวยิ่งกว่าอสุรกายเสียอีก แต่ท่านหน้าตาหล่อเหลานัก คนพวกนั้นตาหามีแววไม่
ไม่รู้ว่าท่านขาดแคลนเมียน้อยหรือคนอุ่นเตียงไหม สาวใช้ก็ได้นะ ขอเพียงได้อยู่ข้างกายท่าน ให้ข้าเป็นอะไรก็ได้” กู้สวิ๋นอวี่พลันทำหน้าเพ้อ
หยุนถิงได้ยินแบบนี้แต่กลับไม่โกรธเลยสักนิด สามีนางหน้าตาดี เสน่ห์แรงเป็นเรื่องจริง นางจะดูสิว่าจวินหย่วนโยวจะทำอย่างไร
“สวิ๋นอวี่สมองเจ้าโดนลาถีบไปรึ กล้าพูดจาไม่คู่ควรกับฐานะเช่นนี้ออกมา จวินหย่วนโยวเป็นคนที่เจ้าคิดอาจเอื้อมได้รึ เจ้าอยากตายรึ อย่าเหลวไหล!” เป่ยหมิงฉี่ตกใจตัวสั่น รีบออกเสียงห้ามปราม
จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงเลื่องชื่อเรื่องรักใคร่ต่อกันยิ่งนัก นังหนูนี่กลับไม่รู้หนักเบา เขาควรจะไล่นางออกจากวังจริงๆ
ดวงตาเย็นชาของจวินหย่วนโยวไม่ชายตาแลนางเลยสักนิด เขาซัดฝ่ามือใส่จนนางลอยกระเด็นไป
กู้สวิ๋นอวี่กระเด็นออกไปสิบกว่าเมตร เสียงพลั่กดังขึ้นเพราะนางไปตกลงในสระน้ำของอุทยานหลวง ประหนึ่งไก่ตกน้ำ ดูอนาถนัก
นางคลานขึ้นมาอย่างยากลำบาก “จวินซื่อจื่อ ท่านนี่ไม่รู้จักทะนุถนอมสตรีเลยนะ ท่านไม่สนใจข้าก็พูดมาตรงๆ ทำไมต้องลงมือด้วยเล่า”
“ทั้งหัวใจและดวงตาข้ามีเพียงซื่อจื่อเฟยเท่านั้น หากองค์หญิงยังพูดจาไม่คิดอีก ข้าไม่รังเกียจให้เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนรั่วจื่ออวิ้น!” น้ำเสียงเย็นเยียบของจวินหย่วนโยวประหนึ่งน้ำแข็งหมื่นปี ทำเอาคนฟังสั่นสะท้าน
กู้สวิ๋นอวี่ตกใจรีบหุบปากทันที นางไม่อยากถูกตัดลิ้นแขวนไว้หน้าประตูเมืองแถมยังโดนส่งตัวไปสำนักบำเรอ แบบนั้นสู้ฆ่านางเสียดีกว่า
“จวินซื่อจื่อ เมื่อครู่ข้าแค่ล้อเล่น ท่านคิดเสียว่าข้าเป็นผายลมแล้วปล่อยข้าไปเถอะ รบกวนแล้ว ข้าจะไสหัวไปตอนนี้เลย!” กู้สวิ๋นอวี่รู้งานดีมาก คลานขึ้นจากสระน้ำ รีบหนีไปทันที
“จวินหย่วนโยว ท่านอย่าถือสาเลย น้องข้าคนนี้เป็นองค์หญิงแซ่อื่นเพียงคนเดียวของแคว้นเป่ยลี่ เพราะปู่ของนางช่วยปู่ของข้าไว้ เลยได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องแซ่อื่น
อันที่จริงนางไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอันใดกับข้าเลย ถึงกู้สวิ๋นอวี่จะนิสัยโผงผางไม่เรียบร้อย ดูโผงผาง ไม่คิดอะไร แต่ไม่ได้เจ้าเล่ห์อะไร ก็แค่พวกปากเก่งเท่านั้นเอง ท่านอย่าได้ถือสานางเลย!” เป่ยหมิงฉี่บอกทันที
“เจ้าควรจะขอโทษซื่อจื่อเฟยของข้า!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
“ใช่ ใช่ ขอโทษด้วยหยุนถิง นังหนูนี่พูดจาไม่คิด เจ้าอย่าโกรธเลยนะ!” เป่ยหมิงฉี่หันมองหยุนถิงทันที
“ไม่หรอก เห็นแก่ที่เจ้าจะแต่งงานแล้ว ข้าไม่ถือสานางแล้วกัน” หยุนถิงตอบเสียงเรียบ
หากนางกล้าหมายมาดท่านพี่จริงๆ หยุนถิงจะไม่มีวันละเว้นนางแน่
เป่ยหมิงฉี่ถึงถอนหายใจโล่งอก “ขอบคุณ ขอบคุณมาก”
ผู้ใหญ่หลายคนกำลังคุยกัน ไม่ได้ใส่ใจจวินเสี่ยวเทียนและจวินเสี่ยวเหยียนที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเลยสักนิด เด็กสองคนกำลังหันมองกู้สวิ๋นอวี่ที่ล้มลุกคลุกคลานหนีไปอย่างโกรธขึ้ง
“พี่ชาย นางจะแย่งท่านพ่อกับเรา!” จวินเสี่ยวเหยียนบอกหน้าบูด
“ท่านพ่อไม่ได้รับปาก” จวินเสี่ยวเทียนตอบ
“เช่นนั้นก็ไม่ได้ ท่านพ่อเป็นของพวกเรา เป็นของท่านแม่” จวินเสี่ยวเหยียนบอก ย่อตัวลงนำหนอนกู่น้อยในแขนเสื้อออกมา
“เจ้าดินน้อย เจ้าช่วยข้าสั่งสอนนางที!”
จวินเสี่ยวเทียนเบ้ปาก เขารู้ว่าจวินเสี่ยวเหยียนตั้งชื่อให้หนอนกู่ตัวนี้ว่าเจ้าดินน้อย หากเป็นปกติ จวินเสี่ยวเทียนต้องห้ามปรามแน่ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำ
มองดูหนอนกู่คลานไป จวินเสี่ยวเหยียนถึงลุกขึ้น “พี่ชาย พวกเราไปเล่นกันเถอะ”
“ได้!”
อีกด้านหนึ่งกู้สวิ๋นอวี่หนีหัวซุกหัวซุน ไม่ได้ออกจากวัง แต่ไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ตำหนักข้าง
สาวใช้หน้าประตูเห็นนางมาในสภาพเปียกโชกก็ตกใจรัก รีบให้นางเข้าไปทันที
“รีบหาเสื้อผ้าสะอาดให้ข้าชุดหนึ่งเร็ว หนาวจะตายแล้ว” กู้สวิ๋นอวี่บ่นตัวสั่น
สาวใช้รีบยกชุดกระโปรงข้างๆมาให้ “องค์หญิง หากท่านไม่รังเกียจโปรดเปลี่ยนเป็นชุดนี้เถอะ”
“ได้!” กู้สวิ๋นอวี่รับมาเปลี่ยนด้านในทันที พอเสื้อผ้าสะอาดแล้ว ก็รู้สึกสบายขึ้นไม่น้อยเลย
นางถึงได้พึ่งสังเกตเห็นว่า ในห้องนี้มีชุดมากมายนัก ด้านในสุดยังมีชุดเจ้าสาวสีแดงชุดหนึ่ง เนื้อผ้านั้น การตัดเย็บนั้นแค่ดูก็รู้เลยว่าเป็นของชั้นเลิศ
“ที่นี่เหตุใดมีเสื้อผ้ามากมายขนาดนี้ แล้วยังมีชุดเจ้าสาวด้วยรึ?” กู้สวิ๋นอวี่ถามออกมาทันที
“ทูลองค์หญิง ของพวกนี้ฝ่าบาทให้เตรียมไว้ให้คุณหนูรั่ว ชุดเจ้าสาวชุดนี้ฝ่าบาทเป็นคนสั่งตัดเย็บด้วยตัวเอง ฝ่าบาทช่างเอาใจใส่คุณหนูรั่วยิ่งนัก” สาวใช้ตอบอย่างนอบน้อม
กู้สวิ๋นอวี่บอกด้วยสีหน้าตกใจ “ที่แท้ก็เป็นชุดเจ้าสาวของรั่วเฟิงซีรึ เสด็จพี่นี่ช่างเอาใจใส่รั่วเฟิงซีนักนะ ข้าไม่เคยเห็นชุดเจ้าสาวงดงามเช่นนี้มาก่อนเลย” พูดพลางจะยื่นมือไปจับชุดนั้น
สาวใช้ตกใจมาก “องค์หญิง ท่านต้องระวังให้มากนะเพคะ ไม่อย่างนั้นหากฝ่าบาททรงทราบ จะลงโทษข้าน้อยเอาได้”
“กลัวอะไร ข้าแค่จะดูเท่านั้น ไม่ได้ทำเสียหายสักหน่อย กระต่ายตื่นตูมทำอะไร” กู้สวิ๋นอวี่บอกอย่างไม่พอใจ
“เพคะ!” สาวใช้ไม่กล้าพูดมากอีก
แต่พวกนางไม่ทันสังเกตเห็นว่า หนอนกู่ขนาดเล็กเท่าเส้นผมคลานเข้ามาในรอยแยกของประตู พุ่งเข้าหากู้สวิ๋นอวี่ทันที และคืบคลานจากรองเท้านางไปขึ้นเสื้อผ้า
กู้สวิ๋นอวี่กำลังจะพูดอะไร ก็พลันรู้สึกเจ็บแปลบที่คอ ยกมือขั้นปัดไปมาบริเวณคออย่างรำคาญทันที
“องค์หญิง ท่านเป็นกระไรรึ ให้ข้าน้อยดูให้ท่านดีหรือไม่” สาวใช้รีบถามทันที
“ไม่ต้องหรอก ข้ามีธุระไปก่อนล่ะ” กู้สวิ๋นอวี่บอก พลางออกไป
สาวใช้ถึงลอบถอนหายใจโล่งอก “น้อมส่งองค์หญิงเพคะ”
กู้สวิ๋นอวี่ออกจากห้อง กลับไปอีกครั้ง แต่เดินไปได้ไม่ไกล ก็รู้สึกคันที่คอยิ่งนัก รู้สึกไม่สบายตัว นางยกมือขึ้นไปเกาทันที แต่ยิ่งเกายิ่งคัน รำคาญยิ่งนัก หน้าตาบูดบึ้งยิ่งนัก