ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!! – บทที่ 25 สแตมปีด (4)

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

 

เรียกได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวร้ายนี่อยู่ในสถานการณ์ที่จนมุมเลยเชียวล่ะ

 

 

“ อร๊ากก!! พวกแกนี่มัน! น่ารำคาญชิบหาย!!! ” ?

 

 

แขนของมันที่ถูกวีตัดขาด งอกกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว มันถอดผ้าคลุมของมันออกแล้วปาใส่วี เผยให้เห็นร่างของมอนสเตอร์ ที่สามารถยืนสองขาได้เหมือนมนุษย์

 

 

“ นีราร์!! ” ?

 

 

พอเสื้อคลุมของมันกำลังจะถึงตัวของวี มันใช้งานวงเวทที่สลักไว้บนเสื้อทันที

 

 

ส่งผลให้เกิดระเบิดขนาดย่อมๆต่อหน้าของวี ทำให้เธอถูกแรงระเบิดซัดปลิวออกไปไกลพอสมควร จากนั้นผมกับคุณกอร์ก็พุ่งเข้าใส่มันพร้อมๆกัน

 

 

กอร์ฟาดขวานยักษ์ใส่มัน มันสามารถป้องกันไว้ได้ด้วยแขนของมันเอง ที่ดูแล้วน่าจะต้องแข็งมากแน่ๆ แล้วเขาก็ใช้เท้าขวาถีบมันจนกระเด็นออกไปถึง 10 เมตร 

 

 

ผมรีบวิ่งไปหามัน หวังที่จะแทงทะลุหัวใจของมันด้วยมีดคู่จากเรโมดิชสองเล่มนี้ ทว่า-

 

 

“ นีราร์!! ” ?

 

 

“ เย้ย!!? ”

 

 

ต้นไม้โดยรอบเกิดระเบิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน! นี่มันวางวงเวทไว้กับต้นไม้หรอเนี่ย!?

 

 

“ แกวางอาคมกับต้นไม้ทุกต้นเลยเรอะ ทำได้ยังไง!! ”กอร์

 

 

“ เพราะข้า- คือจอมเวทมนตร์ดำมอริสไงเล่า!!! ”มอริส

 

 

“ ระหว่างทางที่แกเดินมาที่นี่ แกวางอาคมไว้ทั่วเลยสินะ ”กอร์

 

 

กอร์หยุดโจมตี แล้วพูดคุยหลอกล่อมัน

 

 

ผมถอยออกมาตั้งหลักก่อน เพราะไม่รู็ว่ามันจะมีทริคอะไรซ่อนเอาไว้อีก

 

 

“ ฉลาดดีนี่~ แต่ที่ข้าทำได้มันไม่ได้มีแค่นั้นหรอกนะ!! ”มอริส

 

 

จากสีหน้าไอ้บ้านี่.. แม่งเสียสติไปแล้ว!

 

 

นอกจากร่างกายที่แข็งราวกับเหล็กที่เกิดมาจากการกลายพันธ์ของมอนสเตอร์แล้ว มันก็ดูไม่มีอะไรดีเลยนอกจากเป็นนักเวทมนตร์ดำ ที่มีเล่ห์เหลี่ยมอยู่พอตัว

 

 

ผมคงจะพูดได้เต็มปากเลยล่ะว่าพวกมันนั้นเป็นคิเมร่า เพราะมันดูเป็นแบบนั้นจริงๆ

 

 

“ พวกแกมันก็แค่นักผจญภัยโง่ๆ! จะมาสู้กับจอมเวทมนตร์ดำระดับ 6 อย่างข้าได้ไงวะ!! ”มอริส

 

 

‘ ชิ ไอ้นี่แม่งก็แค่จอมเวทระดับ 6 ข้าดันไปคิดว่ามันเก่งซะได้ ’กอร์

 

 

“ เมื่อครู่ข้ายั้งมือไว้เนื่องจากข้าไม่รู้ความสามารถของแก ”กอร์

 

 

“ แต่ครั้งนี้ ไม่เหมือนกัน!! “กอร์

 

 

หลังจากที่คุณกอร์พูดจบ แรงกดดันอันมหาศาลก็ได้ถาโถมเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้

 

 

แม้แต่วีที่เป็นออร่ามาสเตอร์เอง ก็ยังต้องขวัญผวากับจิตสังหารที่ราวกับปีศาจร้ายของคนคนนั้น

 

 

ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดเลยว่ากอร์ที่สามารถฆ่าคนได้นับแสนๆจะมีสภาพเป็นยังไง และมีพลังแบบไหน แม้ว่าตัวเขาที่ผมได้พูดคุยก่อนหน้านี้จะดูไม่เหมือนคนที่ฆ่าคนไปมากขนาดนั้นเลย แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า.. แรงกดดันของเขา

 

 

มันหนักอึ้งซะจนสามารถขยี้ผมให้นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นได้อย่างง่ายดาย.. แม้ว่าผมจะมีนามแท้ของเขา และมีพลังส่วนหนึ่งของเขาก็ตาม ผมก็ไม่สามารถที่จะทนต่อจิตสังหารที่น่าขนลุกนั่นได้เลย..

 

 

และแน่นอนว่า เจ้ามอริสตัวร้ายนั่นที่ไม่เคยได้รู้ถึงความหวาดกลัวและเอาแต่พูดมาก เมื่อได้เจอของจริงเข้าไป ก็ต้องชะงักอยู่กับที่..

 

 

“ ฮ่าๆๆๆๆ!! ”กอร์

 

 

เมื่อผมได้มองไปยังเขา หัวใจของผมมันก็สั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัว.. ออร่าแห่งการฆ่ารอบๆตัวเขามันน่ากลัว

 

 

รอยยิ้มของกอร์มันเหมือนกับปีศาจ ที่กำลังเล่นกับเหยื่ออยู่เลย

 

 

ผมสลัดภาพนั้นทิ้งไป พยายามหมุนเวียนมานาภายในร่างเพื่อให้ร่างกายของผมสามารถต้านทานแรงกกดดันนี้ได้ ทว่ามันกลับไม่เป็นผล มานาไหลย้อนกลับจนผมกระอักเลือดออกมาเลยล่ะ

 

 

“ อั่ค- อึก…”

 

 

ทว่า วีที่กำลังหมุนเวียนมานาในร่างกายอยู่นั้น ได้เปลี่ยนวิถีของมานาให้ไปหมุนรอบๆหัวใจแทนเพื่อให้มานาเหล่านั้นกลายเป็นออร่าสีขาวประจำตัวของเธอ สิ่งนั้นทำให้เธอสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อแรงกดดันนั้นได้ อีกเหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะว่าเธอมีออร่าที่แข็งแกร่งล่ะนะ

 

 

ถึงแม้ว่าวีจะสามารถต้านทานมันได้ นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีสักเท่าไหร่

 

 

“ ข้าจะฆ่าแกซะ ”กอร์

 

 

ทันทีที่กอร์เริ่มก้าวเดิน พื้นดินที่เขาเหยียบ.. ก็ต้องแตกร้าวเป็นหลุมขนาดใหญ่ นั่นทำให้เห็นว่าออร่าของกอร์ที่ห่อหุ้มร่างกายของเขานั้นมันมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน

 

 

เจตนาของเขานั้นชัดเจน ว่าเขาต้องการที่จะฆ่ามอริสนั่นให้ตายคามืออย่างแน่นอน

 

 

“ ฮ- ฮี๊!!!!!– ”มอริส

 

 

เจ้านั่นส่งเสียงร้องแปลกๆออกมาก่อนที่มันจะเริ่มวิ่งออกไปจากตรงนั้นด้วยความกลัวที่หยั่งรากลึกลงไปในจิตใจของมัน ทำให้มันต้องวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

 

 

“ น- นีราร์!!!!! ”มอริส

 

 

แม้ว่ามันจะเปิดใช้วงเวทระเบิดก็เถอะ.. แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้มันหนีรอดจากกอร์อยู่ดี

 

 

เหล่าต้นไม้ใหญ่ทั้งหลายที่ถูกระเบิด ได้โค่นลงมาขวางทางของกอร์ไว้

 

 

“ เปล่าประโยชน์ ”กอร์

 

 

“ สะบั้นยักษ์ ”กอร์

 

 

เขาฟาดขวานคู่ใจลงพื้น คลื่นออร่าที่ปล่อยออกมาจากขวานพุ่งผ่านต้นไม้ใหญ่มากมายที่โค่นล้มอยู่ตรงหน้าเขาไป สร้างเป็นเส้นทางที่เขาสามารถผ่านไปได้อย่างสะดวก

 

 

ทันใดนั้นหลังจากที่กอร์มุ่งตรงไปฆ่าเจ้ามอริสนั่น ข้อความก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าของผม

 

 

 [ เนื่องจากกอร์กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และได้แสดงสถานะของตน จึงขอคืนพลังให้กอร์ 3 ส่วน 4 จากเจ้าของปัจจุบัน ]

 

 

[ ด้วยการกลับมามีชีวิตของเจ้าของโดยชอบธรรม นามแท้จะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป ]

 

 

เอ๊ะ… ไหงมันเอาแต่ใจงี้วะเนี่ย!!

 

 

ชิบหายแล้วไง… ผมอาจจะอยู่รอดยากกว่าเดิมก็ได้นะเนี่ยถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบนี้..

 

 

[ สกิลส่วนใหญ่กลับคืนสู่เจ้าของโดยชอบธรรม ]

 

 

…เจ้าหน้าต่างบ้าเอ้ย!

 

 

[ ลิสต์สกิล : 

 

 

(แอ็คทีพ)ยุทธาสตร์จำลอง SS/ต้องห้าม

 

(แอ็คทีพ)เคลื่อนที่ฉับพลันผ่านอาวุธ B ]

 

 

สกิลที่เหลืออยู่มีแค่นี้เองหรอเนี่ย.. แต่ไม่เป็นไร สกิลส่วนใหญ่ของกอร์ยังไงก็ไม่น่าจะได้ใช้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องพละกำลัง.. อึก- แรงลดไปเยอะเลยแฮะ

 

 

ยังดีที่ยังมีพลังเวทส่วนหนึ่งของกอร์อยู่ด้วย ไม่งั้นคงจะแย่แน่เลยเพราะไม่รู้ว่าอันตรายจะมาจากทางไหนบ้าง

 

 

“ … เห้อ ขยับได้แล้ว! ”

 

 

หลังจากที่กอร์มุ่งหน้าไปหาเจ้านั่น แรงกดดันก็ค่อยๆหายไป จนไม่มีเหลืออยู่ทางนี้อีกเลย.. นั่นคงหมายความว่ากอร์อยู่ห่างจากตรงนี้มากแน่ๆ

 

 

ไม่รู้ว่าผมที่ลงมาจากแบล็คซันนั้น มาเพื่อที่จะช่วยคุณกอร์หรือเป็นภาระกันแน่ แต่ยังไงก็เถอะ เหมือนว่าเรื่องนี้เขาจะจัดการเองได้นะน่ะ ผมนี่มันยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ

 

 

“ ส่งมือมาสิคะ ”วี

 

 

วิกตอเรียมาอยู่ตรงหน้าผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว แล้วเธอก็ช่วยพยุงผมขึ้นมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งหนึ่ง

 

 

“ ให้ตายสิ เจอจิตสังหารแบบเมื่อกี้เข้าไป เข่าอ่อนหมดเลยแฮะ ”

 

 

“ ฮ่ะๆ เข้าใจเลยล่ะค่ะ ”วี

 

 

ผมปัดฝุ่นเล็กน้อยก่อนที่หมุนเวียนมานาในร่างเพื่อให้ระบบประสาททำงานได้ดี ในตอนนี้ยิ่งผมไม่มีพลังส่วนใหญ่ของกอร์อยู่ด้วยแล้ว ผมยิ่งต้องใช้ยุทธศาสตร์จำลองอย่างระมัดระวังเลยล่ะ

 

 

และระวังตัวเองมากยิ่งขึ้น เพราะผมไม่ได้มีความอึดเหมือนครั้งที่มีพลังของกอร์อยู่

 

 

ตอนแรกผมหลงตัวเองไปสักหน่อย ที่คิดว่าตัวเองนั้นเป็นพระเอกเทพ แต่พอมาตอนนี้สภาพมันดูไม่จืดเลยล่ะ

 

 

เพราะงั้นผมคงต้องจัดการในสิ่งที่ผมทำได้ล่ะนะ

 

 

“ เราควรตามเขาไปดีไหมคะ? ”วี

 

 

“ ไม่ล่ะ เราไปที่อารุฟานดีกว่า- ”

 

 

ทว่าเมื่อผมได้หันไปยังทิศตะวันตกจากทางที่ไปอารุฟาน ผมก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้พวกมอนสเตอร์ปรากฏตัวออกมาอย่างมหาศาล.. มันเป็นประตูมิติขนาดใหญ่สีแดง 

 

 

ไม่น่าเชื่อว่ามันจะซ่อนรูปร่างของมันมาจนถึงตอนนี้โดยที่ไม่มีใครเห็นได้

 

 

“ วิกตอเรีย ”

 

 

“ คะ? ”วี

 

 

“ ฉันว่า.. ฉันเจอสาเหตุของพาเหรดมอนสเตอร์นี้แล้วล่ะ, ดูนั่นสิ ”

 

 

วีหันไปตามทางที่ผมชี้ไป สิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอกำดาบในมือแน่น

 

 

ใช่แล้ว มันคือเกตสีแดงขนาดยักษ์ที่มอนสเตอร์ทั้งหลายแหล่ได้พุ่งทะลุออกมาจากข้างในนั้นอย่างกับมดแตกรัง

 

 

“ ดันเจี้ยน ”วี

 

 

“ ว่าไงนะ? ”

 

 

“ มันคือดันเจี้ยนค่ะ! ฉันคิดว่า.. เราคงจะจัดการมันด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะปริมาณมานาที่อัดแน่นอยู่ข้างในมันมหาศาลเกินไป คิดว่าบอสมอนสเตอร์ข้างในนั้นแข็งแกร่งไม่ต่ำกว่าแรงก์ S+ ค่ะ.. ”วี

 

 

“ มีทางที่จะเข้าไปไหม? ”

 

 

“ ครูว์ค่ะ เธอพาเราเข้าไปได้แน่นอน … แต่ว่าเราไม่ได้เชื่อมความคิดกับครูว์ก่อนหน้านี้น่ะสิคะ.. ”วี

 

 

“ ถ้าไปพาคนอื่นมา มันคงจะนานเกินไป.. เอาเถอะ อีกเดี๋ยวคุณกอร์ก็คงมาเจอเอง เราจัดการกันเองเลยไหม? ”

 

 

“ พลังของฉันตอนนี้.. ฉันไม่คิดว่าจะสามารถเคลียร์มันได้ค่ะ.. ”วี

 

 

พวกผม ยืนคิดกันอยู่อย่างหนักเลยล่ะตอนนี้

 

 

หากว่าผมยังมีพลังของกอร์อยู่เต็มที่ล่ะก็อาจจะพอสามารถจัดการมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนนั้นได้บ้าง แต่ไอ้ระบบมันดั๊น ริบพลังคืนให้เจ้าของจริงๆซะงั้น ทีนี้ผมจะสู้ยังไงไหวล่ะเนี่ย

 

 

ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมก็พอมีทางจัดการสถานการณ์ในตอนนี้อยู่บ้างล่ะนะ

 

 

“ เอ๋!? จะบุกเข้าไปเลยหรอคะ??? ”วี

 

 

“ ใช่ ”

 

 

“ ไม่คิดว่ามันดูอันตรายไปหน่อยหรอคะคุณเดเมี่ยน! ”วี

 

 

“ ก็ถูก แต่จะทำยังไงได้ ถ้าเราไม่จัดการตอมัน การบุกรุกของมอนสเตอร์คงไม่จบง่ายๆแน่ ”

 

 

“ ..เอาด้วยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา- สัญญากับฉันมาสิว่าจะหนีด้วยกัน ”วี

 

 

“ แน่นอน ”

 

 

ก็นะ.. แผนของผมคือ บุกเข้าไปมันทั้งๆแบบนี้ล่ะ ถ้ามีเรื่องขึ้นมาก็ค่อยว่ากันอีกที ยังไงเราก็เป็นพวกกล้าได้กล้าเสียอยู่แล้ว ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้หรอก!

 

 

 

 

 

 

เพล้ง!!

 

 

“ ว๊าย!! อะไรเนี่ย.. อยู่ๆแจกันมันก็ตกแตกซะงั้นอ่ะ ”โรเซ่

 

 

“ หยุดทำข้าวของเสียหายได้แล้วโรเซ่ ”เมเดียร์

 

 

“ บางทีมันอาจจะเป็นลางร้ายก็ได้นะคะ ”อิกนิส

 

 

ขณะที่พวกฉันกำลังเดินอยู่ตรงโถงทางเดินภายในบ้าน อยู่ๆโรเซ่ก็สะดุดกับแท่นวางแจกันจนมันร่วงลงมาและตกกระจาย อิกนิสกล่าวว่ามันอาจจะเป็นลางร้ายก็ได้ นั่นทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของแม่

 

 

ที่ว่าอัลเลียนจะอยู่ในอันตราย สิ่งนั้นทำให้ข้าไม่สบายใจเลยสักนิด

 

 

“ บางทีพี่ชายของแกอาจจะใกล้ตายแล้วก็ได้นะโรเซ่ ”เมเดียร์

 

 

“ พี่ชาย? ใครอ่ะ? ”โรเซ่

 

 

“ ก็เข้าใจได้อยู่หรอก เพราะเจ้านั่นเป็ฯพี่ชายแกได้แค่วันเดียวและออกจากบ้านไป แกเลยลืม.. แต่นี่ไม่เคยคิดจะจำชื่อคนที่เป็นครอบครัวเดียวกับแแหน่อยรึไง อัลเลียนน่ะ ”เมเดียร์

 

 

“ อ๋อ… นึกออกแล้ว! พี่อัลเลียนนี่เอง! แล้วเขาทำไมอ่ะ? ”โรเซ่

 

 

“ ข้าก็บอกอยู่ว่าเจ้านั่นจะตายไงเล่า! ”เมเดียร์

 

 

ให้ตายสิเจ้าน้องบ้านี่ มันไม่เคยคิดจะฟังข้าเลยรึไงนะ

 

 

“ ยังไงมันก็เป็นแค่ลางบอกเหตุนะเมเดียร์ อาจจะไม่ได้เป็นจริงเสมอไปก็ได้ ”อิกนิส

 

 

ไม่ ข้าเชื่อว่ามันเป็นความจริง เพราะท่านแม่ไม่เคยทำนายผิด แม้แต่ครั้งเดียว

 

 

ยังไงซะฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี คงได้แต่ภาวนาให้เจ้าหมอนั่นกลับมาครบ 32 ล่ะนะ

 

 

“ จริงสิท่านพี่ อีกไม่กี่วันโรงเรียนจะเปิดแล้วนี่ พวกเราจะเอาไรไปกันดีอ่ะ? ”โรเซ่

 

 

“ เรื่องนั้นคงต้องคิดดูอีกทีล่ะนะ ส่วนอิกนิส แกจะไปอยู่กับพวกศาสนจักรตั้งแต่พรุ่งนี้เลยใช่ไหม? จะได้ให้พวกเมดกับคนใช้ย้ายของให้ ”เมเดียร์

 

 

“ อือ ขอบคุณนะ ”อิกนิส

 

 

หลังจากวันนี้อิกนิสน่าจะต้องอยู่ที่โบสถ์ไปอีกนานเลยล่ะ เนื่องจากเป็นเหตุผลของทางศาสนจักรนั่นล่ะนะ

 

 

พวกศาสนจักรน่ะไม่ได้ทำอะไรตามใจตัวเองหรอก พวกนั้นแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจะมารุกรานอาณาจักรเราเลยสักนิด และอาณาจักรเรายังนับถือเทพีอิกนิสเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย จึงคุยกันง่ายหน่อย

 

 

แต่พอพูดถึงเรื่องเทพีแล้ว ก็ชักจะสงสัยแล้วสิว่าเทพีของพวกมารนั้นจะร้ายแบบที่พระคำภีร์ได้กล่าวเอาไว้รึเปล่า สำหรับฉัน คงคิดว่าเทพสององค์นี้คงจะไม่ถูกกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ พวกเรื่องร้ายๆของเทพีอิกนอร์ เทพีอิกนิสคงจะแต่งขึ้นมาเพื่อเยาะเย้ยล่ะมั้ง

 

 

ใครจะรู้กันล่ะ จริงไหม

 

 

 

 

 

 

ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย.. หายนะเรอะ??

 

 

หลังจากที่พวกผมได้แอบเข้ามายังดันเจี้ยนแล้ว ก็ต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด..

 

 

“ นี่คือดันเจี้ยนของเกตนี้หรอ… น่าหดหู่เหลือเกิน.. ”วี

 

 

ตรงหน้าผมคือเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ ภายในดันเจี้ยนนี้มันเหมือนกับโลกของผมที่ผมได้จากมาเลย เพียงแต่ว่ามันกลับถูกไฟเผาไปทั้งหมดแล้วและยังมีศพนอนตายกันเกลื่อกลาดไปทั่วเลย อีกทั้งยังมีพวกมอนสเตอร์ผุดขึ้นมาจากพื้นพิภพอย่างกับมดอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่กันแน่

 

 

ยังดี ที่ผมกับวิกตอเรียลักลอบเข้ามาภายในเกตได้อย่างปลอดภัย ทว่าภาพของดันเจี้ยนในความเป็นจริง กับดันเจี้ยนในจินตนาการของผมมันต่างกันลิบลับเลย

 

 

ทั้งๆที่คิดว่ามันน่าจะเป็นพื้นที่ปิด อย่างเช่นพวกถ้ำ คุกร้าง หรืออะไรเทือกนี้ แต่นี่มันเป็นโลกอีกใบหนึ่งที่กำลังล่มสลายเลยต่างหาก

 

 

แบบนี้มันก็เหมือนกับที่ครูว์พูดเอาไว้เลยน่ะสิ

 

 

ว่าดันเจี้ยนน่ะเป็นอีกโลกหนึ่งที่ พระเจ้าได้ทอดทิ้งมันไปแล้ว แม้ว่าในคำพูดของเธอ เธอจะบอกว่าพระเจ้านั้นตายไปแล้วก็เถอะนะ

 

 

“ ยังไงก็เถอะ เราไปทางไหนกันดี ”

 

 

“ ไม่รู้สิคะ ”วี

 

 

พวกผมเดินหลบเข้ามาตามซอกหลืบภายในเมือง เพื่อหลบสายตาจากตัวอะไรก็ตามที่หลุดมาจากพื้นพิภพ

 

 

“ แต่ว่า..คิดเหมือนฉันไหมคะ ว่ารอยแยกที่พื้นนั่นมันเหมือนกับนรกเลยค่ะ ”วี

 

 

ใช่แล้ว พวกมันผุดขึ้นมาจากรอยแยกขนาดใหญ่บนพื้นที่เชื่อมไปถึงชั้นลาวา ราวกับว่าพวกมันกำลังขึ้นมาจากนรกเลยล่ะ

 

 

“ อืม ฉันก็ว่างั้น ”

 

 

แกร็ก- แกร็ก

 

 

ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ ผมก็ได้ยินเสียงเหล็กกระทบกันจากข้างหลัง คิดว่าน่าจะเป็นเสียงของวิกตอเรียที่ได้ถอดหมวกเกราะออก เพราะด้วยอากาศที่มันร้อนจนเกินไป ทำให้เธอไม่สามารถสวมมันเป็นเวลานานๆได้

 

 

“ ท้องฟ้าที่นี่เป็นสีแดงไม่ต่างจากข้างนอกเลยแฮะ ”

 

 

“ แต่ของข้างในนี้มันแย่กว่ามากเลยนะคะคุณอัลเลียน ”วี

 

 

“ จริง ”

 

 

“ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนา ” ???

 

 

“ มองยังไงมันก็แย่นิ ”

 

 

เอ๊ะ?

 

 

เมื่อกี้.. เสียงใคร??

 

 

ผมรีบหันไปมองตามเสียงนั่น เพื่อดูให้แน่ใจว่าเสียงนั่นเป็นของคนรึเปล่า 

 

 

ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก

 

 

หัวใจผมเริ่มเต้นแรงซะแล้วสิ

 

 

สวบบ!!

 

 

“ อ๊ากก!!- อุก- ”

 

 

“ คุณอัลเลียน!! ”วี

 

 

ทันทีที่ผมได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น ผมก็ถูกหอกแทงเข้าที่หน้าท้องโดยที่ไม่รู้ตัว แม้แต่วิกตอเรียเองก็ยังไม่สามารถจับสัมผัสของผู้หญิงคนนี้ได้

 

 

“ แก-.. กึ่ก- แกเป็นใคร!! ”

 

 

“ แหมๆๆ อุตส่ามาหาข้าถึงที่ นี่เจ้าไม่รู้รึว่าข้าคือใคร? ”???

 

 

“ ไม่รู้โว้ยย!!! ”

 

 

“ คุคุ ช่างน่าสังเวชเสียจริง ” ???

 

 

ทันใดนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็กางปีกสีดำทั้งหกออกมา พร้อมๆกับวงแหวนฮาโลของทูตสวรรค์ที่มีรูปทรงคล้ายคลึงกับมงกุฎ เธอยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด เห็นแบบนั้นวีก็เตรียมตัวตั้งท่าเตรียบตอบโต้ทันที

 

 

 “ หุหุหุ ข้าคือใครน่ะรึ? ข้าคือผู้ที่ประเสริฐที่สุดบนโลกแห่งนี้อย่างไรเล่า! ” ???

 

 

ออร่าของผู้หญิงคนนี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แรงกดดันของเธอมีมากพอๆกับกอร์เลย.. ทว่าในคราวนี้ทั้งผมและวี ก็ไม่สามารถต้านทานพลังของผู้หญิงคนนี้ได้เลย

 

 

คลืดดด!!

 

 

เลือดกำเดาเริ่มไหลออกมาทางจมูกของผม ผมเริ่มรู้สึกเจ็บที่หน้าท้องแล้วสิ.. แรงผมเริ่มอ่อนลงแล้วล่ะ เนื่องจากผมนั้นเสียเลือดมากเกินไป..

 

 

“ ร- หรือว่า แกจะเป็นบอส.. มอนสเตอร์ ”

 

 

“ บอสมอนสเตอร์รึ? จิ๊จิ๊ ช่างเป็นคำพูดที่ดูน่ารังเกียจเสียจริง เหมาะกับใบหน้าน่าเกลียดๆของแกเลย เจ้ามนุษย์ ” ???

 

 

“ เรียกข้าว่าลูซิเฟอร์!! ผู้ปกครองขุมนรกลูซิเฟอร์ !!! ”ลูซิเฟอร์

 

 

ยัยนี่แม่ง.. เป็นบ้าไปแล้ว!! 

 

 

ลูซิเฟอร์มันแทงผมซ้ำๆ ขณะที่กำลังยิ้มและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

 

ความเจ็บปวดแสนสาหัสได้ถาโถมเข้ามาหาผม โดยที่ผมและวีไม่สามารถทำอะไรได้เลย

 

 

“ ฮ่าๆๆๆ!!! โลกใบนี้น่ะ ไม่มีแม้แต่พระเจ้า!! ข้าจะทรมาณแกให้พอใจเลยล่ะ!!! วะฮ่าๆๆๆ!!! ”ลูซิเฟอร์

 

 

พลังของลูซิเฟอร์ รุนแรงซะจนสามารถพัดพาตึกราบ้านช่องโดยรอบให้ปลิวขึ้นฟ้าได้เลย และทั้งหมดที่เธอทำนั้น ผมทำได้เพียงมองดูก็เท่านั้น ตอนนี้ผมไม่มีแรงที่จะหนีไปไหนเลย..

 

 

แต่ด้วยสกิลพลังจิตของผม แม้มันจะมีระดับต่ำ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ผมใช้เทเลคิเนซิสสื่อสารสั้นๆกับวีได้แล้ว

 

 

“[หนีไป!! ] ”

 

 

ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้สนใจในตัวของวิกตอเรียเลยสักนิด แถมยังเมินผู้หญิงคนนั้นอีกทั้งๆที่เธอแข็งแกร่งกว่าผมแท้ๆ แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร มันก็ดีกว่าเราต้องตายที่นี่กันสองคนแน่นอน

 

 

วีกลั้นใจ.. เธอพยักหน้า เธอมองผมเป็นครั้งสุดท้าย นั่นทำให้ผมสามารถเห็นหน้าของวีได้อย่างชัดเจน เธอมีผมสีขาวซีด ผิวของเธอเองก็ซีดเหมือนกัน แต่ดวงตาของเธอกลับมีสีฟ้าเหมือนกับน้ำทะเล มันช่างมีเอกลักษณ์จริงๆ

 

 

เธอทำปากพะงาบๆ พึมพำเป็นคำพูดบางอย่าง และผมก็อ่านปากของเธอได้ว่า..

 

 

เดี๋ยวกลับมา..

 

 

งั้นหรอ..

 

 

“ อ- อา… ยุทธศาสตร์.. จำลอง ”

 

 

หลังจากที่วีได้แอบหนีออกไปอย่างเงียบๆพร้อมทั้งปกปิดร่องรอยของตนอย่างมิดชิด ผมโล่งใจที่ลูซิเฟอร์ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรกับ

 

 

ผมใช้สกิลยุทธ์ศาสตร์จำลอง เพื่อทำให้แน่ใจว่าลูซิเฟอร์มีแรงก์อะไรกันแน่

 

 

[ ลูซิเฟอร์ มอร์นิ่งสตาร์ อายุ : ไม่ทราบ แรงก์ : ###^&@&&^@&  ]

 

 

อ- อ่านแรงก์ไม่ได้อย่างงั้นหรอ!? อันตราย! นี่มันโคตรอันตรายเลยนี่หว่า!!! 

 

 

“ จิ๊จิ๊ นี่เจ้ากำลังล้วงข้อมูลข้ารึ? ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย แล้วแบบนี้ เจ้าจะเป็นสามีใครได้ล่ะเนี่ย? ”ลูซิเฟอร์

 

 

“ไม่ได้อยากเป็นของใครโว้ยย!! อุ่ก- อรั่ค!!”

 

 

ผมกระอักเลือดออกมาเยอะเลย

 

 

“ คุคุคุ มีแรงเหลือเฟือเลยหนิ แต่- แย่หน่อยนะ ที่เจ้าน่ะ จะต้องมาเป็นของข้า ”ลูซิเฟอร์

 

 

ไม่อ๊าววว!! ไม่เอาเด็ดขาดเลย!!! นี่คุณเธอเห็นอะไรในตัวตูเนี่ย!! ตูไม่มีอะไรดีเลยนะเห้ยย!! 

 

 

ชวิ้งส์~

 

 

“ เห๊ะ- ”

 

 

“ ห๊า? ”ลูซิเฟอร์

 

 

พริ๊ง พริ๊ง-

 

 

ตู้มมม!!!!!!

 

 

หอกแห่งแสงพุ่งลงมาจากฟากฟ้า แยกระหว่างผมและลูซิเฟอร์ออกจากกัน 

 

 

“ ชิส์ ไอ้พวกตัวยุ่ง ”ลูซิเฟอร์

 

 

ทันใดนั้นฟากฟ้าทางด้านหลังของผม ก็ส่องสว่างไปด้วยแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ แบ่งแยกท้องฟ้าแห่งวันสิ้นโลก และท้องฟ้าสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ออกจากกัน

 

 

ไม่นานนักผมก็หันไปตามลูซิเฟอร์ และที่อยู่ตรงหน้าของผมคือ ทูตสวรรค์คนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิง มีปีกอยู่สามคู่เช่นเดียวกับลูซิเฟอร์ เธอมีวงแหวนฮาโลที่บริสุทธิ์และเปล่งรัศมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือหัว ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาเลย

 

 

ไม่คิดว่าโลกที่ล่มสลายนี้จะยังมีเทพเหลืออยู่อีก

 

 

“ หยุดการกระทำของท่านซะ ท่านพี่ ” ???

 

 

“ โฮ่ เรียนรู้การใช้ ลองกินุส มาแล้วรึมิคาเอล ”ลูซิเฟอร์

 

 

“ หอกที่ท่านใช้ฆ่าพระองค์เล่มนี้.. ข้าจะใช้มันกับท่าน ท่านพี่ ”มิคาเอล

 

 

“ หึ้ย! แกจะมายุ่งเรื่องของข้าทำไมกัน สวรรค์ก็ถูกทำลายไปแล้ว เทวทูตต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง แกสู้ข้าไม่ได้หรอก มิคาเอล!! ”ลูซิเฟอร์

 

 

“ ข้าสู้ท่านไม่ได้ แต่ข้า ปราบท่านได้!!! ”มิคาเอล

 

 

ทูตสวรรค์คนนั้นที่ชื่อมิคาเอล หายไปจากท้องฟ้า ปรากฏตัวอีกทีก็มาปะทะกับลูซิเฟอร์ตรงหน้าอยู่ซะแล้ว

 

 

แรงปะทะของทะสองทำให้ร่างกายผมนั่นแทบแหลกสลาย ส่วนพื้นที่ในระยะ 10 กิโลเมตรกับเหล่ามอนสเตอร์ล้วนถูกแรงปะทะนั่นซัดจนทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง 

 

 

เพียงแค่ทั้งสองใช้อาวุธเข้าตนเข้าปะทะกันก็เท่านั้น

 

 

เหอะๆ.. จะว่ายังไงดีล่ะ 

 

 

ร้สึกเหมือนผมเป็นภาระเลยแฮะ เรี่ยวแรงไม่มีเหลือ บาดแผลฉกรรจ์ยากจะรักษา อีกทั้งพลังที่พึ่งถูกยึดไป ทำให้ผมนั้นเป็นเหมือนกับสัตว์ตัวน้อยๆในกำมือนักล่าขนาดใหญ่เลยล่ะ..

 

 

รู้สึกแย่ชะมัด

 

 

“ ข้าขอเสียมารยาทนะ ”มิคาเอล

 

 

เธอถอยออกมาตั้งหลัก ก่อนที่จะรักษาผมจนแผลผมเริ่มหายไป อีกทั้งแรงผมยังกลับมาเหมือนเก่าอีก นี่มัน.. เยี่ยมไปเลย!!

 

 

“ อยากจะให้ผมทำอะไร ”

 

 

“ ผนึกลูซิเฟอร์กับข้า ”มิคาเอล

 

 

“ ยังไงนะ!!? ”

 

 

หลังจากที่แรงกลับมาก็ได้ยินเรื่องน่าเหลือเชื่อเลยแฮะ

 

 

“ ผนึกท่านพี่ และข้าพร้อมกัน! เราไม่มีทางฆ่าท่านพี่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้พี่ลูซิเฟอร์มีพลังเหนือพระเจ้าไปแล้ว! ทางเดียวที่เราทำได้ คือผนึกเธอไว้ในอาวุธของเธอเอง ”มิคาเอล

 

 

“ งั้นท่านคงจะมีแผนการอยู่แล้วสินะ ท่านเทวทูต ”

 

 

“ อืม- ”มิคาเอล

 

 

“ คุยอะไรกันยะ!!! ”ลูซิเฟอร์

 

 

ลูซิเฟอร์พุ่งเข้ามาทางนี้ เธอร่นระยะระหว่างเราไปได้ในเสี้ยววิ

 

 

อย่างแรงเลย ผมคงต้องจัดการสถานการณ์ในตอนนี้ก่อน ไม่งั้นแย่แน่! 

 

 

หวังว่าผมจะยังพอเอาชีวิตรอดจากตรงนี้ไปได้นะ ไม่งั้นผมตายหยังเขียดแน่นอน!!!

 

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

 

 

 

 

 

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

Status: Ongoing
อยู่มาวันหนึ่ง ผมก็หลุดไปในอีกจักรวาลที่เรียกว่ามิติคู่ขนาน เรียกสั้นๆว่า ต่างโลกผมได้รู้ว่าที่นั่นเป็นโลกที่มีเวทมนตร์ทุกอย่างที่แฟนตาซี!แล้วก็ผมได้พบกับตัวเองที่นั่นที่เป็นผู้หญิงและใช่เธอแม่งบ้าาาา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท