หลังการฝึกกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความอดทนโดยให้ไรนะช่วย และการเข้าไปฝึกในดันเจี้ยน
ดูเหมือนว่าจะผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่พวกเราทั้งสามคนอยู่ด้วยกัน
และหลังจากนี้ศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบรอบแรกก็จะเริ่มขึ้น
รอบคัดเลือกนั้นจะมีนักดาบแรงค์ C และแรงค์ D รวมกัน 400 คน ถ้าหากจะสู้กันตัวต่อตัวก็คงจะใช้เวลานานมาก ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจให้แข่งพร้อมกันทั้ง 10 คน
ผมที่เพิ่งมาถึงเมืองนี้ ตอนนี้อยู่ที่แรงค์ D ดังนั้นผมจึงต้องเข้าร่วมรอบคัดเลือกรอบแรกนี้
[งั้นพวกเรามาเริ่มการแข่งขันรอบที่สี่กันเลย! ขอเชิญผู้เข้าแข่งขันขึ้นมาบนเวทีได้เลยครับ!]
อืม
ดูเหมือนว่าจะถึงตาของผมแล้ว
ผมขึ้นไปบนเวทีตามตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้
เวทีนั้นเป็นทรงกลม โดยมีคนสินคนยืนเรียงห่างกันอยู่บนนั้น
มีผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวที่สามารถผ่านไปรอบต่อไปได้
นั่นคือคนที่ต้องอยู่รอดโดยไม่สูญเสียพรคุ้มกันศักดิ์สิทธิ์
คุณอาเรล! โชคดีนะ!—-แต่ว่าฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดนั้นเป็นคนของดาบทมิฬงั้นเหรอ!?
ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็น แต่ลิเลียก็มาให้กำลังใจผม
“คุคุคุคุ ช่างน่าสงสารจริงๆเลยเจ้าคนไร้อาชีพ”
“ตามที่ผู้หญิงคนนั้นพูด พวกเราทั้งเป็นเป็นนักดาบจากกิลด์ดาบทมิฬ”
“ช่ายย นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญในการแข่งหรอกนะ?”
“ถูกต้องแล้ว พวกเราทั้งเก้าคนน่ะ มาจากกิลด์เดียวกันทั้งหมด”
คู่ต่อสู้ของผมหัวเราะเยาะในขณะที่พูดแบบนั้น
“มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างไร! พวกแกน่ะจงใจแน่นอน มันจะต้องมีคนภายในช่วยเหลืออย่างแน่นอน!”
ลิเลียตะโกนคำเหล่านั้นออกมา
“เฮ้ยๆๆ อย่ามาว่าร้ายกันสิ”
“นี่เป็นผลจากการจับสลากนะ”
“ถ้ามันเป็นตามที่พูดจริง ไหนล่ะหลักฐาน”
พวกนั้นปฏิเสธคำพูดของลิเลีย
ถ้าพวกนั้นไม่ได้โง่จริงๆ ก็คงไม่เหลือหลักฐานเอาไว้ตรวจสอบหรอก
เธอเข้าใจมันใช่ไหม และจากนั้นลิเลียก็คร่ำครวญออกมาโดยไม่พูดอะไรกลับไป
“ถึงแม้มันจะลำบากไปบ้าง แต่เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ผมพูดออกไปแบบนั้น
“ผมแค่ต้องเอาชนะพวกนั้นทั้งหมดให้เร็วที่สุด”
หลังจากผมพูดเสร็จพวกนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น
“อย่างมาอวดดีหน่อยเลย”
“ขอบอกก่อนเลยนะว่าพวกเราทั้งหมดอยู่ในระดับท็อปของแรงค์ C”
“ไม่ว่าแกจะสามารถชนะแรงค์ A ได้กี่คนก็ตาม แต่แกไม่สามารถเอาชนะคนจำนวนมากได้หรอก”
“ไอ้สารเลวแบบแกนะ จะต้องพ่ายแพ้ในรอบแรกของศึกชิงถ้วยเทพแห่งดาบ!”
พวกนั้นแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา แต่ว่าตั้งแต่แรกแล้ว พวกนั้นก็สงสัยในความสารถของผม
“นายรู้ไหม? ว่าสุนัขยิ่งอ่อนแอเท่าไหร่ มันก็จะเห่าดังขึ้นเท่านั้น”
“”แกพูดว่าอะไรนะ!?””
“เหมือนกับนายตอนนี้ไง”
“”แกมันไอ้สารเลว…..””
[มาดูกัน…]
กรรมการสับสนว่าต้องทำอย่างไร เพราะว่าทุกคนแสดงท่าทีเตรียมพร้อมต่อสู้ออกมา กรรมการได้ตัดสินใจว่า มันจะเป็นการดีกว่า ถ้าหากจะเริ่มการต่อสู้ตามแผน
[ถ้าอย่างนั้น เริ่มต้นการต่อสู้ได้]
ทั้งเก้าคนข้างๆผมชักดาบออกมาทันที
และในเวลาเดียวกันก็ล่นระยะทางเข้ามาหาผม
“ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ”
ผมเดินเข้าไปที่ตรงกลางเวทีทรงกลม
“แกมันโง่จริงๆ”
“ที่ทำให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบที่สุด”
“ฮ่าๆๆๆๆ การแข่งขันนี้พวกเราเป็นฝ่ายชนะแล้ว”
พวกนั้นล้อมรอบผมไว้ในทันที
“ในการต่อสู้แบบกลุ่มเช่นนี้ จะทำให้อาชีพเจ้าหญิงแห่งดาบโชว์พลังออกมาได้มากที่สุด”
หลังจากนั้น พวกนั้นทุกคนก็กระโดดมาจากทุกทิศทุกทาง
———“ระบำดาบ”
“อะไรน่ะ-!?”
อืม
สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่นักดาบแรงค์ C จริงๆ?
แม้ว่าพวกนั้นจะมีจำนวนคนที่เยอะกว่า แต่มันก็เป็นไปตามคาด
“…เป็นไปไม่ได้…?”
“แม้ว่าพวกเราจะมีคนเยอะกว่า…แต่ก็แพ้….?”
“ไอ้สัตว์ประหลาด….”
นักดาบทั้งเก้าคนที่สูญเสียพรคุ้มกันศักดิ์สิทธิ์ไปจนหมด พูดคำเหล่านั้นออกมาจากปากของเขา
“ใช้เวลาประมาณห้านาทีตามที่คาด มันยากสำหรับผมที่จะใช้ระบำดาบแบบต่อเนื่อง…แต่ว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับตอนนี้”
สกิลนั่นมันดูสง่างามและสวยงาม แต่มันยากมากสำหรับผมที่จะใช้มัน
ต้องเพิ่มการรับรู้ไปในทุกทิศทุกทาง และคาดการณ์การโจมตี
นอกจากนั้นยังต่อใช้เคลื่อนที่ฉับพลันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งร่างกายมีความเร็วและความคล่องตัว
เมื่อพูดถึงสกิลของเจ้าหญิงแห่งดาบซึ่งเป็นอาชีพระดับสูง มันได้สร้างความเหนื่อยล้าให้กับร่างกายอย่างรุนแรง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณการฝึกกล้ามเนื้อ ที่ทำให้ผมสามารถใช้งานมันได้ง่ายขึ้น
บางทีตอนนี้ผมคงใช้มันได้สูงสุดแค่หนึ่งชั่วโมง
[ผ-ผู้ที่เหลือรอดก็คือคนจากเขี้ยวมังกร นักดาบอาเรล! ผู้ที่จะได้เข้าไปแข่งรอบที่สอง!]
รอบที่สองของการคัดเลือกรอบแรกจะเริ่มในรุ่งขึ้น
จำนวนผู้เข้าแข่งลดลงจาก 400 เหลือ 40 ในการต่อสู้รอบแรก และการแข่งขันรอบที่สองนี้ก็จะเป็นการแข่งแบบเป็นกลุ่มเหมือนกัน
รอบนี้จะเป็นการแข่งขันแบบห้าคนพร้อมกัน และผู้ชนะจะมีแค่คนเดียว
“หืม? อีกแล้วเหรอ พวกนั้นทั้งหมดมาจากกิลด์ดาบทมิฬงั้นเหรอ?”
เมื่อถึงรอบการแข่งขันของผม อีกสี่คนที่เหลือแสดงออกมาให้เห็นว่าผมนั้นตัวคนเดียวไม่มีพันธมิตร
“แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น นี่เป็นสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันร่วมมือกันเพื่อที่จะกำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปก่อน!”
เห็นได้ชัดว่าผมถูกมองว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง และดูเหมือนว่าพวกนั้นตั้งใจที่จะช่วยกันสู้
“ผมเข้าใจแล้ว แต่ว่าถ้าหากพวกนายต้องการจะเอาชนะผมน่ะ อย่างน้อยพวกนายต้องมีซัก 10 คน”
“”อ๊ากก~!?””
หลังจากที่ชนะการแข่งรอบที่สองแล้ว รอบต่อไปจะเปลี่ยนเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ของผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ามาทั้ง 8 คน
“เพราะว่ามันลำบาก ผมจะขอบคุณมากถ้าหากจัดการแข่งขันให้เสร็จภายในครั้งเดียว”
ผมพยายามที่จะเสนอต่อผู้บริหาร
“เดี๋ยว นายกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ!? ถ้าหากเป็นเช่นนั้นทุกคนก็จะลุมนายอีกครั้งนะ!?”
“นั่นเป็นวิธีที่เร็วที่สุดแล้ว”
“ฝ่ายตรงข้ามเป็นนักดาบที่สามารถผ่านเข้ารอบมาได้ บางทีความสามารถของพวกเขาคงเท่ากับนักดาบแรงค์ B เลยนะ!”
“หรือก็คือ ความสามารถระดับเดียวกับลิเลียใช่ไหม? ถ้าแบบนั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอก”
“มันค่อนข้างซับซ้อนน่ะ”
“แต่อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารได้อนุญาตแล้ว”
ดังนั้นทั้งแปดคนรวมทั้งผมได้ขึ้นไปบนเวทีประลองพร้อมกัน
“อย่ามาอวดเก่งหน่อยเลย….”
“พวกเราทั้งหมดเป็นแรงค์ C คิดว่าคนคนเดียวสามารถเอาชนะพวกเราได้งั้นหรือ?”
“…ไม่เป็นไร ผมจะเอาชนะนายด้วยพลังทั้งหมดเอง…”
ทั้งเจ็ดคนมองมาที่ผมด้วยสายตาอาฆาต
…ทำไมพวกนั้นถึงต้องโกรธด้วย?
Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ