“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิ” (คูฟา)
หลังจากออกจากสถานที่สอบแล้ว คูฟาก็วิ่งตามมา
“อ๊ะ! อาจารย์! ผมกำลังตามหาอยู่เลย!” (ไคท์)
นอกจากนี้ไคท์ก็ปรากฏตัวขึ้นมา และวิ่งเข้ามาหาเช่นเดียวกัน
“เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย? ทำไมนายถึงใช้เวทมนตร์สีน้ำเงินที่ทรงพลังขนาดนั้นได้!?” (คูฟา)
“นี่มันหมายความว่ายังไงครับอาจารย์!? ที่ไปสอบเข้าที่สถาบันอื่นเนี่ย!” (ไคท์)
ผมไม่อยากให้พวกเขาทั้งสองคนคุยกับผมในเวลาเดียวกันเลย
โชคดีนะที่ผมสามารถตอบคำถามของพวกเขาทั้งสองได้พร้อมกัน
“ผมสามารถใช้เวทมนตร์สีแดง และสีน้ำเงินได้” (อาเรล)
ไคท์มองไกลออกไป
“เอ๋? อาจารย์สามารถใช้เวทมนตร์สีน้ำเงินได้ด้วยงั้นเหรอ!?” (ไคท์)
คูฟาตะโกนออกมาจากด้านข้าง
“นี่มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆเลยนะ!” (คูฟา)
แล้วเธอก็หันมาทางผม
“เนะ~ นายควรมุ่งเน้นไปที่เวทมนตร์สีน้ำเงินอย่างจริงจังนะ!” (คูฟา)
“หา? เธอกำลังพูดอะไรนะ?” (ไคท์)
คราวนี้เป็นเสียงของไคท์ที่ดังขึ้นมาเพื่อหยุดบทสนทนา
“อาจารย์คือคนที่จะครองตำแหน่งสูงสุดในเวทสีแดงนะ! เขาไม่มีเวลาว่างที่จะไปเรียนเวทสีน้ำเงินหรอก! เพราะเขาคือคนที่สามารถละลายเป้าที่ทำจากมิธริลในการสอบได้” (ไคท์)
“นั่นมันอะไรนะ! เขาเพิ่งยิงคมมีดน้ำแข็ง 40 อันในเวลาเดียวกันนะ และยังทำให้พวกมันเขาเป้าในเวลาเดียวกัน! นอกจากนั้นยังทะลุมิธริลได้อีก! นั่นถือเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของเวทสีน้ำเงินเลย! นาย นายไม่เห็นมันงั้นเหรอ!? มันน่าเสียดายมากเลยนะ!” (คูฟา)
“ฉันจะดูได้ยังไงล่ะ! ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่เอง! ฉันหมายถึง ฉันอยากจะคืนคำนั้นให้กับเธอที่ไม่ได้เห็นเวทสีแดงของอาจารย์! มันน่าเสียดายสำหรับเธอนะ!” (ไคท์)
นี่ อย่าทะเลาะกันในสถานที่แบบนี้สิ
“ผู้ใช้เวทสีแดงนั้นมีแต่คนโง่ ที่คิดว่ายิ่งพลังเยอะยิ่งดี! ซึ่งเวทสีน้ำเงินนั้นในเชิงกลยุทธ์และศิละปะนั้นจะดีกว่านะ!” (คูฟา)
“อย่ามาล้อเลียนเวทสีแดงนะ ถ้างั้นแล้วอะไรคือกลยุทธ์ล่ะ พลังในการทำลายก็ต่ำ และทำได้เพียงแค่สร้างความเสียหายเท่านั้น! มันช่างไร้สาระจริงๆเลย!” (ไคท์)
“เวทน้ำแข็งนั้นมีพลังทำลายมากกว่าเวทสีแดงนะ!” (คูฟา)
“เนื่องจากว่ามันต้องใช้เวลาในการเปิดใช้งาน ดังนั้นผู้คนจึงไม่ค่อยใช้มันยังไงล่ะ!” (ไคท์)
…..นอกจากนี้ การโต้เถียงกันระหว่างความเหนือกว่าและด้อยกว่าของเวทมนตร์สีแดงและเวทมนตร์สีน้ำเงินก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
การโต้เถียงกันครั้งนี้น่าจะไม่มีวันสิ้นสุด
ผมทิ้งพวกเขาทั้งสองเอาไว้ และตัดสินในมุ่งหน้าไปสถานที่สอบถัดไปตามลำพัง
สถานที่ที่ใกล้ที่สุดดูเหมือนจะเป็นสถาบันสีเขียวนะ
เมื่อผมพยายามที่จะเข้าไปในอาคาร ผมก็พบกับคนที่หมอบอยู่ด้านหลังของอาคารสถาบัน
ผมพยายามที่จะเข้าไปใกล้
“ฮือ~…เพราะว่าฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน….แต่…แต่ฉันคิดว่าฉันไม่อยากจะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง และต้องกลับบ้านตามลำพัง…ฉันไม่ต้องการแบบนั้น” (คอลเล็ต)
“แล้วเธอกำลังทำอะไรนะ?” (อาเรล)
“กรี๊ดดด!?” (คอลเล็ต)
เมื่อผมพูดจากทางด้านหลังเธอ เธอก็มองกลับมาที่ผม จากนั้นเธอก็ตกใจจนตัวกระโดด
เธอคือคอลเล็ต เด็กผู้หญิงที่มาที่เมืองนี้ด้วยกันกับไคท์และคูฟา
“อ๊ะ? นั่นมัน….คุณอาเรล”
พูดถึงเรื่องนั้น เธอไม่ได้บอกว่าจะสอบเข้าที่สถาบันสีเขียวงั้นเหรอ
“อ-เอ่อ~นั้นสินะ…? เอ่อ-คุณอาเรล ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้…?” (คอลเล็ต)
“ผมมาที่นี่เพื่อสอบนะ” (อาเรล)
“เอ๋~” (คอลเล็ต)
คอลเล็ตทำตาโตด้วยความตกตะลึง
แต่ว่ามันยุ่งยากถ้าจะให้อธิบายตั้งแต่ต้น
“แล้วเธอล่ะมาทำอะไรที่นี่? เกิดอะไรขึ้นกับการสอบงั้นเหรอ?” (อาเรล)
“เอ่อ คือ~…จ-จริงๆแล้ว…” (คอลเล็ต)
ผมได้ยินมาว่าเธอนั้นกลัวการสอบ นอกจากนี้เธอยังกรอกใบสมัครไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ
ถ้าอย่างงั้นแล้ว ทำไมเธอถึงกลัวการสอบนักล่ะ
การสอบของสถาบันสีเขียวมันยากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ มันยากขนาดทำให้ผู้เข้าสอบหมอบลงเลยเหรอ
ดูเหมือนว่านักเรียนที่สอบเข้า จะได้รับการคัดเลือกที่เข้มงวดมากกว่าสถาบันสีแดงและสถาบันสีน้ำเงินนะ
“ฉ-ฉันเป็นคนประเภทที่กังวลมากจนทำให้ที่กลัวค่ะ… ค-คุณอาเรล เอ่ออ เวลาคุณกังวล คุณรับมือกับมันยังไงเหรอค่ะ…?” (คอลเล็ต)
คอลเล็ตถามออกมาด้วยความกลัว
อืม เวลากังวลงั้นเหรอ
แน่นอนว่ามันเป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน…
“น่าเสียดายนะ แต่ผมไม่เคยรู้สึกกังวลเลย” (อาเรล)
“ไม่เคยเลยงั้นเหรอค่ะ” (คอลเล็ต)
นั่นมันทำให้เธอประหลาดใจมากงั้นเหรอ?
“เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่า ผมไม่เข้าใจว่าความกังวลคืออะไรตั้งแต่แรก” (อาเรล)
“ตั้งแต่แรกงั้นเหรอ!?…ต-ตอนนี้ฉันตัวสั่นจนคิดอะไรไม่ออกเลย…” (คอลเล็ต)
ร่างกายของเธอสั่น และเธอก็คิดอะไรไม่ออก
นั่นเป็นเงื่อนไขที่ทำให้กลัวงั้นเหรอ?
“มันจะหายได้โดยพรคุ้มกันศักดิ์สิทธิ์ หรือเวทสีขาวรึเปล่านะ?” (อาเรล)
“ม-มันไม่เหมือนกับอาการบาดเจ็บหรืออาการป่วยหรอกค่ะ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ผล”
ถ้าแบบนั้นแล้ว
มันน่าจะเป็นสภาวะผิดปกติที่น่ากลัวมากในโลกเลยนะ…
“งั้นเธอตกอยู่ในสภาวะผิดปกติที่เรียกว่าความกังวลได้อย่างไร?” (อาเรล)
“ค-ความผิดปกติงั้นเหรอ…? เอ่ออ~ อืมม…คงเป็นเพราะฉันกังวลที่จะทำผิดพลาดค่ะ” (คอลเล็ต)
หือ…?
“ผมขอถามอย่างหนึ่งได้ไหม?” (อาเรล)
“ค-ค่ะ…?” (คอลเล็ต)
“เธอไม่เคยทำผิดพลาดในชีวิตเลยงั้นเหรอ?” (อาเรล)
“????” (คอลเล็ต)
คอลเล็ตนั้นสับสน เนื่องจากคำถามของผมนั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
ไม่ ผมต่างหากที่แปลกใจมากกว่า
“ถ้าหากเธอพยายามหลีกเลี่ยงความผิดพลาด แสดงว่าเธอไม่เคยทำผิดพลาดเลยสินะ” (อาเรล)
จริงๆแล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ อาจจะปกปิดความสามารถของเธอเอาไว้ ซึ่งตรงข้างกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ
“ไม่! ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ชีวิตของฉันนั้นเต็มไปด้วยความผิดพลาด และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันกลัว” (คอลเล็ต)
“….?” (อาเรล)
นั่นมันอะไรนะ?
ผมรู้สึกว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้มันไม่สัมพันธ์กันเลย
“มันหมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? ถ้าหากเธอเคยทำผิดพลาดซ้ำๆ ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงพยายามหลีกเลี่ยงมันขนาดนั้น” (อาเรล)
“…อ เอ่อ?” (คอลเล็ต)
ผมพูดกับคอลเล็ตที่มีสีหน้าเขินอาย
“ความผิดพลาดนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าหากเธอเคยมีประสบการณ์มาหลายครั้ง เธอก็น่าจะรู้จักมันนะ…” (อาเรล)