ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 751 เฝ้ามอง (กลาง)

ตอนที่ 751 เฝ้ามอง (กลาง)

“​รีบ​เรียก​เขา​เข้ามา​”​ ​ไม่​รอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว

บ่าว​รับใช้​วิ่ง​ออก​ไป

“​อวี​้​เกอ​คง​เดา​ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ออกเดินทาง​ภายใน​สอง​สาม​วันนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​สอง​วันก่อน​ที่​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​ส่ง​คน​นำ​เม็ด​กระจับ​และ​เม็ด​บัว​มา​ให้​เรา​ ​ยัง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​ส่ง​ของ​มา​ให้​จิ​่น​เกอ​เลย​”

พี่น้อง​ควร​รัก​และ​สามัคคี​ ​ช่วยเหลือ​ซึ่ง​กัน​แล้วกัน

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ

บ่าว​รับใช้​พา​ป้า​รับใช้​สอง​คน​เข้ามา​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​ป้า​เซี่ยง​ ​ผู้ดูแล​หญิง​คนสนิท​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​

ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​คน​ย่อเข่า​คำนับ​อย่างนอบน้อม​ ​เอ่ย​แสดงความยินดี​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง

“​สอง​วันก่อน​พึ่ง​ทราบ​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ผู้บัญชาการ​ทหาร​กุ้ย​โจว​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ปิติยินดี​เป็นอย่างมาก​ ​ส่ง​พวก​บ่าว​เข้ามา​เมืองหลวง​ทันที​ ​ในที่สุด​ก็​เข้ามา​ใน​เมือง​ก่อน​พระอาทิตย์​ลับ​ขอบฟ้า​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​เซี่ยง​ยิ้ม​พลาง​ใช้​มือสอง​มือถือ​กล่อง​ที่​ห่อ​ด้วย​ผ้าไหม​สีฟ้า​ขึ้น​มา​ ​“​นี่​คือ​ของขวัญ​ออกเดินทาง​ที่​คุณชาย​น้อย​สอง​มอบให้​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​ ​แล้วยัง​ฝาก​มาบ​อก​อีกว่า​ ​ขอให้​คุณชาย​น้อย​หก​มี​อนาคต​ที่​กว้างไกล​ ​เดินทาง​ราบรื่น​”​ ​จากนั้น​ก็​ถือ​ถุง​ผ้า​ขึ้น​มา​ ​“​นี่​คือ​เสื้อผ้า​ฤดูใบไม้ร่วง​ที่​คุณนาย​น้อย​สอง​ทำให้​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​รีบ​ทำ​ ​หาก​มีที​่​ใด​ไม่เหมาะสม​ ​คุณชาย​น้อย​หก​โปรด​ให้อภัย​”

เห​ลิ่ง​เซียง​เดิน​ไปรั​บมา​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​หัน​เซี่ยว​ไป​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​คน​ ​นั่ง​พูดคุย​กัน​ ​ถามถึง​เรื่อง​ทั่วไป​ของ​ครอบครัว

รู้​ว่า​ครอบครัว​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​คุ้นเคย​กับ​ชีวิต​ที่จ​ยา​ซิ่ง​แล้ว​ ​ใน​เดือน​หกจ​ยา​ซิ่ง​มี​ฝนตก​หนัก​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มี​ความดี​ความชอบ​ใน​การป้องกัน​เขื่อน​ ​ข้าหลวง​เริ่ม​ให้ความสำคัญ​กับ​เขา​ ​นาง​เอง​ก็ดี​ใจ​ ​“​ดึก​แล้ว​ ​วันนี้​พวก​เจ้า​ก็​นอน​ที่​จวน​เถิด​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​ ​อย่า​ลืม​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​พวก​นาง​ฟัง​ ​ให้​พวก​นาง​ร่วม​ยินดี​ด้วย​”

ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​คน​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​กับ​เห​ลิ่ง​เซียง​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถามถึง​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​…​ ​เหตุใด​ถึง​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​เขา​”

ถึงแม้​กระทรวง​ขุนนาง​จะ​ให้​เวลา​สอง​สาม​วัน​ ​แต่​หาก​ยัง​ไม่​ออกเดินทาง​ ​เกรง​ว่า​จะ​ไป​ไม่​ถึง​กุ้ย​โจว​ ​พรุ่งนี้​เช้า​หลังจาก​คารวะ​บรรพบุรุษ​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​็​จะ​เดินทาง​ไป​กุ้ย​โจว​ทันที​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​ไปดู​ว่า​เตรียม​ของ​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​จึง​ถาม​ว่า​ ​“​ฉั​งอา​นบ​อก​ว่าวั​นนี​้​จิ​่น​เกอ​จะ​ไป​ทานอาหาร​เย็น​กับ​เว​่ย​ซุ่น​ ​คง​กลับมา​ช้า​หน่อย​ ​ท่าน​โหว​มี​อะไร​จะ​คุย​กับ​เขา​เจ้า​คะ​ ​หรือว่า​ท่าน​โหว​จะ​ไปหา​เขา​พร้อมกับ​ข้า​ดี​เล่า​”​ ​นาง​พูด​พลาง​กำชับ​ให้​หัน​เซี่ยว​นำ​ของ​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​สอง​สามีภรรยา​นำมา​ให้​ไป​ด้วย​

“​ก็ดี​เหมือนกัน​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ชิง​หยินจ​วีกั​บสื​ออี​เหนียง

อาจิน​กับ​สุย​เฟิ​งกำ​ลัง​เก็บ​ข้าวของ​ ​เมื่อ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​พวกเขา​ก็​รีบ​เก็บ​สมุดบัญชี​แล้ว​เดิน​เข้ามา​คำนับ​

“​ยัง​เก็บของ​ไม่เสร็จ​อีก​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ขึ้น

“​เก็บ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​อาจิน​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แต่​บ่าว​กลัว​ว่า​จะ​ลืม​ของ​อะไร​ ​จึง​ตรวจสอบ​กับ​สุย​เฟิ​งอี​กรอบ​เจ้าค่ะ​”

ครั้งนี้​ ​อาจิน​และ​สุย​เฟิ​งก​็​ไป​กุ้ย​โจว​กับ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ด้วย

เห็น​หีบ​เหล่านั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​ได้​ว่า​ประเดี๋ยว​บุตรชาย​ตัวเอง​ต้อง​ออก​ไป​แล้ว​ ​นาง​พลัน​รู้สึก​เศร้าใจ​ ​“​ไม่รู้​ว่า​เขา​จะ​กลับมา​เมื่อไร​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ปลอบใจ​นาง​ ​“​ตอนนี้​เขา​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​สาม​แล้ว​ ​ต้อง​เข้ามา​สอบ​ใน​เมืองหลวง​ทุกปี​ ​ดีกว่า​ตอนที่​เขา​อยู่​ที่​กองพัน​ผิง​อี๋​เสียอีก​”

คิด​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ถอนหายใจ​ ​นาง​รู้สึก​ดีขึ้น​ไม่น้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​นาง​นั่ง​รอส​วี​ซื่อ​จิ​่​นบน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง

“​วันนี้​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​มาป​รึก​ษา​กับ​ข้า​ ​อยาก​ให้​เฉิง​เกอ​ไป​กุ้ย​โจว​กับ​จิ​่น​เกอ​!​”

หาก​เป็นตัว​เอง​ ​เกรง​ว่า​ก็​คงจะ​เลือก​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​สือ​อี​เหนียง​คาดเดา​ได้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​ให้​เซิน​เกอ​อยู่​ที่​จวน​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​อยาก​ให้​เขา​ไป​สำนัก​ราชการ​เหอ​หนาน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ท่าน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​เคย​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​กลาง​ ​ลูกน้อง​บางคน​ยังอยู่​ที่​เหอ​หนาน​ ​แล้ว​ผู้บัญชาการ​ทหาร​เหอ​หนา​นก​็​มี​มิตรภาพ​อัน​ดี​กับ​ข้า​…​ให้​เขา​ไป​ฝึกฝน​สัก​สอง​สาม​ปี​ ​เรียนรู้​ความสามารถ​ที่แท้​จริง​ ​จากนั้น​ค่อย​ไป​ค่าย​ใหญ่​ซี​ซาน​”

เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​ควน​สอง​สามีภรรยา​มา​พอดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​หันมา​มองหน้า​กัน

“​เกรง​ว่า​คงมา​เพราะ​เรื่อง​ของ​เฉิง​เกอ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ห้องโถง​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​คิดไม่ถึง​ว่า​พี่​สี่​กับ​พี่สะใภ้​สี่​จะ​อยู่​ที่นี่​ด้วย​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​แล้ว​ทักทาย​พี่ชาย​กับ​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​ ​ทุกคน​นั่งลง​ ​อาจิน​พาสาว​ใช้​น้อย​ยก​ของว่าง​และ​น้ำชา​เข้ามา​ ฮู​หยิน​ห้า​ถามถึง​สวี​ซื่อ​จิ​่​นอย​่า​งอ​้​อม​ค้อม​ ​“​ทำไม​ไม่อยู่​ที่​เรือน​ ​บอกว่า​จะ​ออกเดินทาง​พรุ่งนี้​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​เล่า​ที่​ไป​ที่มา​อีกครั้ง

ฮู​หยิน​ห้า​ยัง​อยาก​จะ​ถาม​อะไร​ต่อ​อีก​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​ควน​กลับ​คิด​ว่า​พี่น้อง​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงใจ​กัน​ขนาด​นี้​ ​ไม่​รอ​ให้ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ ​เขา​ก็​พูด​จุดประสงค์​ที่มา​ของ​ตัวเอง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างตรงไปตรงมา​ ​“​…​เฉิง​เกอ​นั้น​สู้​เซิน​เกอ​ไม่ได้​ ​ปีนี​้​เขา​อายุ​เพียง​สิบสอง​ปี​ ​ถึงแม้​จะ​อยู่​ลาน​นน​อก​ ​แต่​ก็​มักจะ​วิ่ง​เข้ามา​ลาน​ใน​บ่อยๆ​ ​จิ​่น​เกอ​พึ่ง​จะ​รับ​ตำแหน่ง​ใหม่​ ​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​มากมาย​ ​คง​ไม่มีเวลา​ดูแล​เฉิง​เกอ​ทุกวัน​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่​สู้​ผ่าน​เทศกาล​ตรุษจีน​ไป​แล้ว​ค่อย​ให้​เฉิง​เกอ​ออก​ไป​ ​เช่นนี้​ ​จิ​่น​เกอ​จะ​ได้​จัดการ​เรื่อง​ทุกอย่าง​ให้​เรียบร้อย​ ​เฉิง​เกอ​จะ​ได้​มี​เวลา​เตรียมตัว​ ​เรา​ก็​จะ​ได้​จัดการ​เรื่อง​ของ​เซิน​เกอ​ให้​เรียบร้อย​เช่นกัน​”

แน่นอน​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต้อง​ตอบ​ตกลง

ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ ​“​…​คนรุ่นก่อน​บอก​เอาไว้​ว่า​ ​ทุกข์​คือ​ชีวิต​ ​สุข​ก็​คือ​ชีวิต​ ​สวรรค์​ได้​ลิขิต​ไว้​หมด​แล้ว​ ​เด็ก​สอง​คน​นี้​ ​ให้​เดิน​บน​ถนนใหญ่​ไม่​เดิน​ ​แต่กลับ​จะ​ไป​ปีน​เขา​ ​ข้า​เอง​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​ทำได้​แค่​ขอให้​พระโพธิสัตว์​คุ้มครอง​ ​อย่า​ให้​พวกเขา​ลำบาก​อย่าง​เปล่าประโยชน์​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความ​เอือมระอา​ ​ปน​หดหู่​และ​โศกเศร้า

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ตอนนั้น​ที่​ตัวเอง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลังเล​เรื่อง​อนาคต​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​เหมือน​ความรู้สึก​ตอนนี้​ของฮู​หยิน​ห้า​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​เอ่ย​ปลอบใจฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ตอนนั้น​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่ยอม​ ​แต่​ตอนนี้​ดูเหมือนว่า​ลูก​ๆ​ ​จะ​โต​ขึ้น​ทุกวัน​ ​ไม่เพียงแต่​สามารถ​ดูแลตัวเอง​ ​แล้วยัง​สามารถ​ดูแล​คนใน​ครอบครัว​ได้​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​มัน​คือ​ความโชคดี​ ​โชคดี​ที่​ตอนนั้น​ข้า​ตัดสินใจ​เช่นนั้น​ ​น้อง​สะใภ้​ห้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​เซิน​เกอ​กับ​เฉิง​เกอ​ล้วนแต่​เป็น​เด็ก​ฉลาด​ ​ออก​ไป​เรียนรู้​ข้างนอก​ ​ต่อไป​พวกเขา​ก็​จะ​รู้ความ​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​มี​ความสามารถ​มากขึ้น​ไป​อีก​”

“​หวัง​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนั้น​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​ด้วย​สีหน้า​ที่​มีความหวัง​ ​“​เฉิง​เกอ​ยัง​ต้อง​ให้​จิ​่น​เกอ​คอย​แนะนำ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่จริง​ใจ​ ​ฟังออก​ว่านี​่​เป็น​คำพูด​ที่​ออกมา​จาก​ใจ​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​ทอดถอนใจ

ฮู​หยิน​ห้า​เป็น​คน​เย่อหยิ่ง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เรื่อง​ของ​บุตรชาย​ตัวเอง​ ​เกรง​ว่านา​งคง​ไม่ยอม​ทำตัว​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​เช่นนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มารดา​ทุกคน​ล้วนแต่​เหมือนกัน​!

แต่​สวี​ลิ่ง​ควน​กลับ​คิด​ว่าฮู​หยิน​ห้าวิ​ตก​กังวล​เรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​ ​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตอบรับ​ ​เขา​ก็​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​เป็น​พี่ชาย​ ​เขา​ต้อง​แนะนำ​เฉิง​เกอ​อยู่​แล้ว​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ไร้สาระ​พวก​นี้​”

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่พอใจ

สือ​อี​เหนียง​กลัว​พวกเขา​สอง​คน​จะ​ทะเลาะ​กันที่​นี่​ ​เลย​รีบ​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​คุณชาย​ห้าว​่าง​หรือไม่​ ​หาก​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ ​ท่าน​โหว​อยาก​เชิญ​ไป​ส่ง​จิ​่น​เกอ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​ว่า​บุตรชาย​ตัวเอง​สามารถ​จับตัวตั​่ว​เหยี​ยน​กลับมา​ได้​ ​ไป​กุ้ย​โจว​เลย​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​เขา​ก็​กลับมา​แล้ว​ ​ตน​เลย​ไม่ได้​คิด​จะ​ไป​ส่ง​บุตรชาย​ตัวเอง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง

เดิมที​พรุ่งนี้​สวี​ลิ่ง​ควน​ต้อง​ไป​เฝ้ายาม​ ​แม่ทัพ​องครักษ์​วัง​หลวง​รู้​ว่า​หลานชาย​ของ​เขา​ถูก​เเต่ง​ตั้ง​เป็น​อู่​จิ้นปั​๋ว​ ​ผู้บัญชาการ​ทหาร​กุ้ย​โจว​จึง​ให้​เขา​หยุด​วันหนึ่ง​ ​บอก​ให้​เขา​จัดการ​เรื่องเล็ก​น้อย​ใน​ครอบครัว

เขา​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​คิด​ว่า​พี่สะใภ้​ให้ความสำคัญ​กับ​ตัวเอง​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​จิ​่​นคือ​ขุนนาง​ระดับ​สาม​ ​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ ​ไป​ส่ง​เขา​ใน​ฐานะ​ผู้อาวุโส​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คนที​่​มีตำ​แหน่ง​สูง​กว่า​ตัวเอง​หรือ​ต่ำกว่า​ตัวเอง​ ​ก็​ต้อง​คำนับ​คารวะ​เขา​ ​ทำ​อะไร​ตาม​สีหน้า​ของ​เขา​ ​แค่​คิด​ก็​ทำให้​เขา​รู้สึก​พอใจ​

“​ข้าว​่าง​ขอรับ​”​ ​ไม่ได้​สังเกต​ท่าทาง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ยาม​เหม่า​ข้า​จะ​ตื่น​ไป​ศาล​บรรพชน​กับ​จิ​่น​เกอ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สวี​ลิ่ง​ควน​ดีอกดีใจ​เพราะ​เรื่องเล็ก​น้อย​แค่นี้​ ​เขา​จึง​ใจอ่อน

หาก​น้อง​ห้ามี​คน​คอย​แนะนำ​ ​บางที​เขา​อาจ​สร้าง​ความดี​ความชอบ​ได้​ก็ได้

เขา​เลย​ตามใจ​สวี​ลิ่ง​ควน​มากกว่า​ปกติ​ ​ยิ้ม​แล้ว​หยอกล้อ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​อย่า​หลับ​จน​ลืม​ตื่น​ก็แล้วกัน​!​”

“​ไม่มีทาง​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​เห็น​พี่ชาย​ตัวเอง​พูดจา​หยอกเย้า​ ​สีหน้า​ของ​เขา​พลัน​มี​ความตื่นเต้น​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ ​“​ถึงแม้​เรื่องสำคัญ​ข้า​จะ​ไม่​ค่อย​ได้เรื่อง​ ​แต่​เรื่องเล็ก​น้อย​เช่นนี้​ ​ข้า​ไม่เคย​ทำ​พลาด​”

ทุกคน​ต่าง​พากัน​หัวเราะ

บรรยากาศ​ไม่​เพียง​ครึกครื้น​แต่​ยัง​กลมเกลียว

“​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ทำตัว​เป็น​เด็ก​ไป​ได้​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​แล้ว​บ่น​สวี​ลิ่ง​ควน​

สวี​ซื่อ​จิ​่​นก​ลับ​มา​พอดี

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​เขา​ดื่ม​มาก​ไป​หน่อย​ ​จับ​หัว​ตัวเอง​แล้ว​พูด​ ​“​วันนี้​ข้า​ออก​ไป​ตั้งแต่​เช้า​ ​ไม่ได้​ทำ​อะไร​นะ​ขอรับ​!​”

ทุกคน​หัวเราะ​อีกครั้ง

ฮู​หยิน​ห้า​เดิน​เข้าไป​จับมือ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ที่นี่​คือ​บ้าน​ ​พูด​ออก​ไป​ใคร​จะ​เชื่อ​เล่า​ว่า​ใต้เท้า​จิ​่น​ ​ผู้บัญชาการ​ทหาร​กุ้ย​โจว​เป็น​เช่นนี้​!​”​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​อาจิน​รีบ​ชงชา​เข้ามา​ให้​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ดื่ม​ให้​สร่าง​เมา​ ​แล้ว​เล่า​จุดประสงค์​ที่มา​ให้​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ฟัง

สวี​ซื่อ​จิ​่น​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​เขา​ตบหน้า​อก​ตัวเอง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ขอ​แค่น​้​อง​เจ็ด​กับ​น้อง​แปด​ต้องการ​ข้า​ ​บอก​ข้า​แค่​คำ​เดียว​ก็​พอ​ขอรับ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​พอใจ​กับ​ท่าที​ของ​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ดื่ม​ชา​เสร็จ​ ​ทุกคน​ก็​พากัน​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

ไท่ฮู​หยิน​เตรียม​น้ำแกง​สร่าง​เมา​ไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​นาง​บอก​ให้​ลู่​จู​ไป​ยก​เข้ามา

สวี​ซื่อ​จิ​่น​ดื่ม​ชา​ไป​จน​เต็ม​ท้อง​แล้ว​ ​ตอนนี้​ยัง​มีน​้ำ​แกง​ชาม​ใหญ่​อีก​ ​กว่า​จะ​ทาน​จน​หมด​เลย​ใช้เวลา​ตั้ง​นาน

ไท่ฮู​หยิน​จับมือ​เขา​พลาง​เอาแต่​ถาม​ว่า​มี​ใคร​ไป​ส่ง​เขา​บ้าง​ ​แล้ว​จะ​กลับมา​เมื่อไร​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่​นค​่อย​ๆ​ ​ตอบ​ทีละ​คำถาม

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​ตอนนี้​ดึก​แล้ว​ ​จึง​แนะนำ​ให้​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​กลับ​เรือน

ไท่ฮู​หยิน​มองดู​จิ​่น​เกอ​ที่​สง่างาม​ภายใต้​แสงไฟ​ ​คิด​ว่า​พรุ่งนี้​เขา​ก็​ต้อง​ไป​สถานที่​ที่​ยากลำบาก​เช่นนั้น​ ​แล้วยัง​ไม่มี​สตรี​คอย​รับใช้​ ​ยาม​ที่นาง​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มักจะ​บอกว่า​ศิลปะ​การต่อสู้​ของ​เขา​ยัง​ไม่ดี​พอ​ ​ให้​รอ​ไป​ก่อน​ ​นาง​จึง​ไม่สบายใจ​ ​“​วันนี้​เจ้า​นอน​ที่​เรือน​ของ​ข้า​เถิด​ ​ข้า​จะ​ได้​พูดคุย​กับ​เจ้า​”

สวี​ซื่อ​จิ​่​นม​อง​ดูท่าน​ย่า​ที่​ดู​แก่​ลง​เป็น​สิบ​ปีก​็​รู้สึก​เศร้าใจ​ ​แสร้งทำ​เป็น​ดีใจ​แล้ว​โอบ​ไหล่​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ข้า​อยาก​คุย​กับ​ท่าน​ย่า​ ​แต่​กลัว​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​ห้าม​…​”

“​เขา​ไม่กล้า​หรอก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​จับจ้อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ใบหน้า​เคร่งขรึม

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​บุตรชาย​ตัวเอง​หยอกล้อ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​ปลื้ม​ปริ่ม​จะ​เอ่ยปาก​ห้าม​ได้ที่​ไหน​กัน​ ​แต่​แสร้งทำ​เป็น​เอือมระอา​แล้ว​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​

ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​อย่าง​มีความสุข​ ​นาง​กระซิบ​กับ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​กลัว​ ​หาก​เขา​กล้า​ว่า​อะไร​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​มา​ฟ้อง​ข้า​ ​ข้า​จะ​ลงโทษ​เขา​ไป​คุกเข่า​ที่​ศาล​บรรพชน​!​”

“​ได้​เลย​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จิ​่น​หัวเราะ​ ​คิด​ว่า​จะ​หา​โอกาส​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​ต่อหน้า​ท่าน​ย่า​อีก​ดี​หรือไม่​…

สือ​อี​เหนียง​ที่​กลับมา​ถึง​เรือน​ ​บอก​ให้​เห​ลิ่ง​เซียง​ตัก​น้ำอุ่น​เข้ามา​แช่​เท้า​ด้วย​ความเหน็ดเหนื่อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไล่​สาวใช้​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ยก​เก้าอี้​มานั​่ง​นวด​เท้า​ให้​นาง​ข้างๆ

“​เป็น​อะไร​หรือไม่​ ​ข้า​เห็น​เท้า​ของ​เจ้า​บวม​!​”

“​จริง​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ย้าย​ตะเกียง​มา​ ​มองดู​อยู่​ตั้ง​นาน​ก็​ไม่เห็น​อะไร​ผิดปกติ​ ​“​ท่าน​ตาลาย​หรือไม่​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเป็นนัย​ ​“​พรุ่งนี้​เจ้า​ไม่ต้อง​ไป​ส่ง​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ ​เขา​ใช่​ว่า​จะ​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​!​”

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​แข็งทื่อ

“​ทำไม​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​เป็นห่วง

“​ข้า​ ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​บอก​เขา​เจ้าค่ะ​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ยัง​หา​โอกาส​ที่​เหมาะสม​ไม่ได้​…​”​ ​แต่​ที่จริง​แล้ว​นาง​เขินอาย​ต่างหาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ

“​พรุ่งนี้​จิ​่น​เกอ​ไป​คารวะ​บรรพบุรุษ​ที่​ศาล​บรรพชน​ ​ท่าน​ก็​บอก​เขา​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

ให้​ข้า​บอก​เขา​?

เรื่อง​พวก​นี้​เป็นเรื่อง​ของ​คน​เป็น​แม่​ไม่ใช่​หรือ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบรับ​อย่าง​กระอักกระอ่วน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท