บทที่ 713 เสี่ยวชี เมื่อไร้น้ำเจ้าจึงไร้ชีวิตชีวาใช่หรือไม่ พี่กระโถนจะช่วยเจ้าเอง!
จ้าวแห่งรัตติกาลชอกช้ำจากใจจริง มันตัดการเชื่อมต่อรวดเร็วทันใจปานนั้น ทันทีที่ฝูถูรายงานถึงความผิดปกติ มันก็ถอนกำลังทันที สุดท้ายก็ยังไม่ทัน โดนหมายหัวไว้แล้ว!
“ทุกท่าน ครั้งนี้เป็นความผิดของข้า ข้าขอโทษทุกท่านด้วย! ข้าไม่ควรหมายตาทุกท่าน! แต่ข้านั้นถูกยุยงมา ข้าจักส่งตัวการให้ทุกท่านจัดการเดี๋ยวนี้!”
จ้าวแห่งรัตติกาลกล่าว “มันต่างหากคือคนชั่วตัวจริง เหตุการณ์สองครั้งก่อนหน้าล้วนเกิดขึ้นเพราะมัน ครั้งนี้ก็เช่นกัน! ข้าจักส่งตัวมันไปให้ หวังว่าทุกท่านจะคลายความขุ่นเคืองลง”
มันไม่มั่นใจเลยจริง ๆ ต่อให้ที่นี่คือฐานทัพใหญ่ของมัน มันก็มิกล้าสู้ อยากจะมอบตัวเจ้าหลวงให้เพื่อบรรเทาความโมโหของเหล่าของวิเศษ
“อะไรกัน!!!”
แต่เมื่อมันคลี่แผ่พลังออกไปเตรียมพาตัวเจ้าหลวงมา มันก็นิ่งอึ้งไปในบัดดล
เจ้าหลวงอะไรกัน!
ยังเหลือเงาของเจ้าหลวงที่ไหน
ทั้งนครพิศวงนี้ก็ไม่มี!
เห็นได้ชัดว่าเจ้าหลวงหนีไปนานแล้ว!
“ไอ้เวรตะไลนี่! สหายคนสนิทและพี่ใหญ่ของมันก่อนหน้านี้ก็โดนมันทอดทิ้งเช่นนี้กระมัง!”
มันก่นด่าในใจ คราวนี้ไม่เหลือหนทางแล้วจริง ๆ ซ้ำยังร้ายแรงกว่าเดิมอีกด้วย เหล่าของวิเศษต้องคิดว่ามันจงใจปั่นหัวพวกมันเล่นแน่!
“อยู่ที่ใด”
กระโถนถาม น้ำเสียงไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าหลอกผู้ใต้บัญชาของเจ้า มอบกระถางปลอมให้มัน บัดนี้ยังจะมาหลอกพวกเราอีกหรือ”
มันไม่สนใจจ้าวแห่งรัตติกาลอีก เพียงแต่หันไปหาเหล่าของวิเศษพลางกล่าว “ผู้ใดในพวกเจ้าอยากจัดการมัน”
พี่หลิวเอ่ยปากแล้วว่าต้องให้โอกาสเหล่าของวิเศษได้ออกโรงบ้าง มันไม่คิดลงมืออีก ตั้งใจส่งตัวจ้าวแห่งรัตติกาลให้เหล่าของวิเศษจัดการ
“ไม่ ๆๆ พวกเราขอจัดการผู้อื่นดีกว่า!”
“รู้สึกว่าห่างกันไกลไปหน่อย”
เหล่าของวิเศษพากันปฏิเสธ สิ่งมีชีวิตตนนี้เคยอาบน้ำใน ‘สายน้ำ’ มาก่อน พวกมันไม่อยากสู้ด้วย
“ข้าจัดการเอง!”
ถังขยะอาสา “คู่หูพิฆาต ข้าเองก็ไม่อยากล้าหลังท่านมาก ข้าต้องหมั่นฝึกปรือฝีมือ กระตุ้นพลังที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ออกมา เพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่กระโถน!”
“ได้!”
กระโถนกล่าว “เช่นนั้นขอมอบให้เป็นหน้าที่เจ้า”
“ไม่มีปัญหา!”
ถังขยะบุกสังหารไปหาจ้าวแห่งรัตติกาลทันที
มันดุดันเหลือคณา สุดท้ายไปถึงกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดนจ้าวแห่งรัตติกาลกระเทือนจนกระเด็นไปอีกด้าน!
จ้าวแห่งรัตติกาลนั้นมีพลังดุดันน่ากลัว เมื่อยืมพลังพิศวงลางร้ายมาแล้ว สามารถต่อสู้กับจักรพรรดิเซียนสูงสุดได้ทีเดียว หากมิใช่เช่นนี้ มันคงมิกล้าหมายตาภพเซียน
“ฆ่า!”
จ้าวแห่งรัตติกาลคำรามเสียงทุ้ม เปล่งพลังเต็มที่ มันรู้ดีว่านี่คือการต่อสู้ที่ไม่ตายไม่เลิกรา เหล่าของวิเศษไม่มีทางปล่อยมันไป มีแต่ต้องเอาเลือดเนื้อเข้าห้ำหั่นเท่านั้น!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ดวงดาราอันมีขนยาวพิศวงงอกอยู่มากมายส่งเสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัว เอกภพทั้งผืนสั่นสะเทือน พวกมันต่างมี ‘จิตสำนึก’ ผนวกเข้าด้วยกัน จู่โจมเหล่าของวิเศษ
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายมากมายในดาราดวงนี้บุกออกมา กำลังรบของสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายจำนวนหนึ่งยังอยู่ในขั้นจักรพรรดิเซียนอีกด้วย!
“นี่ก็ไม่ได้!”
“ห่างชั้นเกินไป!”
เหล่าของวิเศษพากันเอ่ยบอก หลังผ่านการกระตุ้นพลังจากคราวก่อน พลังที่พวกมันใช้ได้นั้นยกระดับขึ้นมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย กระนั้นหากคิดจะต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้ายที่กรูกันออกมาเช่นนี้ก็ยังไม่ไหว!
จำนวนของกำลังรบระดับจักรพรรดิเซียน ว่าที่จักรพรรดิเซียน เซียนจวินมหาศาลเกินไป ระดับเหล่านี้ล้วนเหนือกว่ากำลังของพวกมัน
“พี่น้องทั้งหลายไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง!”
กระโถนตะโกนบอก “ข้าจะสาด ‘น้ำ’ ใส่พวกมัน เพื่อริดรอนกำลังของพวกมัน”
อย่านะ!
ขืนเปื้อน ‘น้ำ’ เช่นนี้เข้าไป พวกมันจะสู้ต่อได้อย่างไร
เหล่าของวิเศษร่ำร้องในใจ
“ข้าลุยเอง”
เวลานั้น เสียงของต้นหลิวดังขึ้น จากนั้น ก้านหลิวก้านหนึ่งสะบัดออกไปเบา ๆ คลื่นแสงพิเศษบางอย่างแผ่ขยาย กำลังรบระดับเหนือกว่าเซียนจวินขึ้นไปถูกริดรอนพลังไปจำนวนหนึ่งทันที ทำร้ายเหล่าของวิเศษจนอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ไม่ถึงขั้นที่เหล่าของวิเศษไร้กำลังต้านทาน
พี่หลิวดีกว่าจริง ๆ!
เหล่าของวิเศษคิดกันในใจ ซาบซึ้งต่อพี่หลิวอย่างยิ่งยวด พี่หลิวดูแลพวกมันดีจริง ๆ!
จากนั้น พวกมันไม่เหลือข้อกังขาอีก บุกสังหารตรงไปข้างหน้า
อีกด้าน สิ่งมีชีวิตอย่างพวกจ้าวแห่งรัตติกาลตาค้างกันหมด ต้นหลิวอะไรนี่ น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ก้านหลิวสะบัดเพียงเบา ๆ ก็ริดรอนพลังของพวกมันไปได้ ต้องอยู่ในขอบเขตสูงขนาดไหนเชียว?!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้นหลิวทลายขอบเขตวิถีเซียนไปแล้วแน่ ๆ ตั้งอยู่ในระดับที่เหนือชั้นกว่าขอบเขตเซียน มิฉะนั้น ต้นหลิวไม่มีทางริดรอนพลังของพวกมันไปได้ง่าย ๆ!
เรื่องแบบนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อห่างชั้นกันมากเท่านั้น!
ต้นหลิวจากไหนกันนี่
แดนบรรพโกลาหลหรือ
จ้าวแห่งรัตติกาลก่นด่าเจ้าหลวงในใจเป็นบ้าเป็นหลัง นึกในใจว่าอย่าให้มันได้เจอเจ้าหลวงอีก มิฉะนั้น มันจักฉีกเจ้าหลวงเป็นชิ้น ๆ แน่!
ทว่ามันคงไม่มีหวังเท่าใดแล้ว
มีตัวตนเกินหยั่งอย่างต้นหลิวประทับที่นี่ มันไฉนเลยจะรอดไปได้
เป็นไปไม่ได้เลย!
นี่ก็เพราะเจ้าหลวงไม่อยู่ที่นี่ หากเจ้าหลวงอยู่ที่นี่ รับรู้สิ่งที่จ้าวแห่งรัตติกาลต้องการบอก เขาต้องเอ่ยออกมาว่า ท่านพ่อบุญธรรม เรื่องนี้โทษข้าได้อย่างไร ข้าบอกท่านไว้ก่อนแล้วว่าอย่าหมายตาของวิเศษเหล่านี้เลย!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น การต่อสู้อันชุลมุนปะทุ เหล่าของวิเศษบุกเข้าไป ห้ำหั่นกับบรรดาสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้าย
มัจฉาสัตมายาก็บุกเข้าไปเช่นกัน เลือกประมือกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะกับตนเอง
ทว่ามันออกจะใจลอยไปหน่อย ตั้งสมาธิมิได้
มันในตอนนี้ คิดถึงแต่ชางเหยาอยู่เต็มหัว
แปลกยิ่งนัก!
เมื่อก่อนยามชางเหยาเอาแต่ร้องหามัน มันรำคาญจะแย่ รู้สึกว่าหากชางเหยาไม่มาหามันอีกคงดียิ่ง!
แต่บัดนี้ มันกลับไปยังอาณาจักรอวี้ซวีถึงสองครา ชางเหยาก็มิเคยมาหามัน กลับเป็นมันที่เฝ้าถวิลหาถึงชางเหยา!
มันชักอ่อนไหว เริ่มกังวลว่าชางเหยาอาจถอดใจจากมันจริง ๆ ไม่ยอมมาหามันอีกหลังจากนี้
“เอ๋ เสี่ยวชี เจ้าเป็นอันใดไป โบราณว่าไว้ ดั่งปลาได้โลดแล่นในน้ำ เจ้าไม่ได้อยู่ในน้ำ ถึงได้ตายอดตายอยากเช่นนี้ ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้ใช่หรือไม่”
กระโถนสังเกตเห็นว่ามัจฉาสัตมายาอยู่ในสภาวะไม่ดีเท่าไหร่ จึงบอกกับมัจฉาสัตมายา “ข้าช่วยเจ้าสักหน่อยดีหรือไม่ ช่วยพ่นน้ำให้เจ้าสักนิด น้ำในกระโถนของข้ายังเหลืออีกมาก”
เดิมที มัจฉาสัตมายากำลังคิดถึงชางเหยา แต่หลังได้ยินวาจาของกระโถนก็สะดุ้งโหยง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“พี่กระโถนพูดถูก ข้าชินกับการต่อสู้ในน้ำอย่างที่ว่า เมื่อต้องออกจากน้ำจึงรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่! ทว่าข้าจะเอาแต่ต่อสู้ในน้ำอย่างเดียวคงมิได้ ข้าต้องเรียนรู้การเติบโต! เพราะอย่างนั้น คงไม่รบกวนพี่กระโถนแล้ว!”
มันรีบบอก
จากนั้น มันโหดเหี้ยมขึ้นมาเหลือแสน ประหนึ่งปลาฉลามกินคน จนคู่ต่อสู้ของมันกลัวแทบแย่
“ถ้าอย่างนั้น…ก็ได้”
กระโถนถอนหายใจ “น่าเบื่อจริง พวกเจ้าได้เล่นสนุกกันหมด มีแต่ข้าที่อด!”
“ผู้ใดบอกเจ้ากัน ผู้ที่เล่นเป็นเพื่อนเจ้าได้มาแล้ว…”
เวลานั้น ต้นหลิวเอ่ยขึ้น
“หืม?”
กระโถนสนอกสนใจขึ้นมาทันที รีบเอ่ยถาม “อยู่ที่ใด”
ครืนคราน!
สิ้นเสียงของมัน ก็มีปรากฏการณ์ประหลาดอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงเผยให้เห็นจากด้านกระถางมารคลั่งคลุมเวหา สิ่งมีชีวิตพิศวงตัวมโหฬารตัวหนึ่งก้าวออกมาจากในนั้น
สิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นจ้าวแห่งความพิศวงตนหนึ่งเช่นกัน คล้ายคลึงกับจ้าวหลานก่อนหน้านี้ กระถางมารคลั่งคลุมเวหาแท้จริงแล้วมาจากแดนกำเนิดพิศวง บัดนี้ได้เปล่งแสนยานุภาพทั้งหมด สิ่งมีชีวิตพิศวงที่นั่นจึงรับรู้ได้
“มาจริงหรือ!”
กระโถนยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ทว่ามันตะลึงในใจเช่นกัน มันรู้ว่าต้นหลิวนั้นลึกล้ำเกินหยั่ง แต่คิดไม่ถึงว่าต้นหลิวจะลึกล้ำเกินหยั่งถึงเพียงนี้
ต้องรู้ว่า ก่อนหน้านี้มันไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด แต่ต้นหลิวกลับรู้ว่าจ้าวแห่งความพิศวงระดับนี้กำลังจะมา
ต้นหลิวเก่งกาจกว่ามันเสียอีก!
“ตัวบ้าอะไรกัน?!”
จ้าวแห่งความพิศวงที่เพิ่งก้าวเดินออกมาได้เห็นเครื่องใช้ประจำวันจำนวนหนึ่งรวมถึงกระโถน มันสับสนมึนงงไปหมด
บอกตามตรง มันนั้นถือว่ามากประสบการณ์ พบเจอเหตุการณ์มาแล้วทุกรูปแบบ
ทว่าสถานการณ์เฉกเช่นตอนนี้มันไม่เคยพบเห็นมาก่อนจริง ๆ!
เครื่องใช้ประจำวันอยู่กันจำนวนหนึ่ง มีแม้กระทั่งกระโถน อย่าว่าแต่มันเลย เกรงว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนกำเนิดพิศวงก็ไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน!
แน่นอนว่า แดนกำเนิดที่ว่านี้มิใช่แดนกำเนิดอย่างแท้จริง เป็นเพียงแดนสาขาในจักรวาลโกลาหลผืนนี้
สมบัติของแดนกำเนิดพิศวงจริง ๆ ไม่มีทางตกหล่นอยู่ในอาณาจักรนี้
“ตัวบ้าอะไรกัน? พูดจาอะไรของเจ้า!”
กระโถนจ้องมองจ้าวแห่งความพิศวงตาเขม็ง วาจามุ่งร้ายเป็นอย่างมาก
มันกล่าวต่อ “ข้าดูก็รู้ว่าเจ้าขาดการโดนอัด วันนี้ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าให้สนุก!”
จากนั้น มันเริ่มเคลื่อนไหว เหินไปอยู่เหนือหัวจ้าวแห่งความพิศวงผู้นั้นพร้อมตะโกนเสียงสูง “ดูท่าเหยี่ยวเยี่ยวของข้า!”
จากนั้น มันเปิดปากกระโถนกว้าง สายล้ำหลั่งไหลไปหาจ้าวแห่งความพิศวงอย่างบ้าคลั่ง
“ถุย!”
จ้าวแห่งความพิศวงสบถ นึกในใจว่าโชคร้ายยิ่งนัก มันคิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่มาถึง มันต้องมาประมือกับโถปัสสาวะเช่นนี้!
“ไสหัวไปเสีย!”
มันคำรามกราดเกรี้ยว คลื่นพลังสยดสยองสุดขีดซัดสาด เอกภพทั้งผืนเริ่มสั่นคลอน ดวงดารานับไม่ถ้วนระเบิดกลายเป็นเศษดวงดาว เกลื่อนกลาดเต็มพื้น!
ในฐานะจ้าวแห่งความพิศวง พลังของมันนั้นไม่ต้องพูดถึง มันต่อสู้กับยอดฝีมือในแดนบรรพโกลาหลได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตข้างนอกนั่น
ซ้ำยังเป็นเพียงกระโถนใบหนึ่ง!
มันมั่นใจว่าสามารถกำจัดกระโถนให้สิ้นซากได้!
ทว่ามันหวังสูงเกินไป พลังที่มันเปล่งออกไปอย่าว่าแต่กำจัดกระโถนให้สิ้นซากเลย กระทั่งสายน้ำที่พุ่งออกจากกระโถนยังยับยั้งไม่อยู่!
ซ่า!
สายน้ำถล่มใส่ตัวมันจนเปียกชุ่ม ขนยาวพิศวงแนบติดเนื้อกาย สภาพของมันเหมือนลูกหมาตกน้ำ
“ข้า…ข้าแปดเปื้อนเสียแล้ว!”
มันคำรามอย่างขุ่นเคือง โมโหจนอกแทบระเบิด
มันถูกน้ำในกระโถนสาดรดทั้งกาย เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นฉุน มันอยากระเบิดร่างกายนี้ของตัวเองนัก ไม่อยากได้ร่างกายนี้อีกแล้ว!
“แปดเปื้อนหรือ?”
กระโถนกล่าว “เรื่องนั้นง่ายนิดเดียว ข้าอาบน้ำให้เจ้าก็จบ”
จากนั้น มันพ่นสายน้ำออกจากปากกระโถนเพิ่มขึ้น กระหน่ำใส่ตัวจ้าวแห่งความพิศวงดัง ‘ซ่า ๆ’ ทั้งหมด
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
จ้าวแห่งความพิศวงดวงตาแดงก่ำ สายตาที่จ้องมองกระโถนเคียดแค้นยิ่งกว่ามองผู้สังหารบิดามารดาเสียอีก
เจ้ากระโถนเดนตาย น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!
มันระเบิดพลังทั้งหมด บุกสังหารไปหากระโถน!