อายุครรภ์ : 6 สัปดาห์
เมื่อมองเห็นผลตรวจอัลตร้าซาวด์ ฉันช็อคสะดุ้งเลย แค่ครั้งเดียวก็ติดเลยเหรอ
ฉันจะทำยังไงดี จะบอกอาธิปดีไหม ถ้าเขารู้ อาจจะเป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเลิกคิดที่จะหย่ากับฉัน เหอะ เหอะ ไม่มีทางหรอก คงจะทำให้เขารู้สึกว่าฉันน่ารังเกียจต่างหาก เขาคงคิดว่าฉันใช้ลูกในท้องเป็นเครื่องมือมาบังคับเขา
ฉันเก็บอารมณ์เศร้าอึดอัดไว้ และเก็บรายงานผลตรวจใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วเดินออกจากโรงพยาบาล
หน้าตึกโรงพยาบาลนั้น มีรถไมบัคคันสีดำจอดอยู่ กระจกรถเลื่อนลงไว้นิดหน่อย มองจากข้างนอก จะมองเห็นคิ้วตาของผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ที่นั่งคนขับแบบเท่ห์ๆ
รถหรู หนุ่มหล่อ ยังไงก็ดึงดูดสายตาคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา
รวยและหล่อ เป็นภาพลักษณ์ของอาธิป อยู่กับเขามาหลายปีแล้ว เรื่องแบบนี้ฉันไม่แปลกเลย ฉันไม่ได้สนใจสายตาที่มองผ่านมา ก็ขึ้นรถนั่งที่นั่งข้างคนขับ
อาธิปหลับตาพักผ่อนอยู่ เขาคงรู้สึกได้ว่ามีคนขึ้นรถมาแล้ว แต่ก็แค่ขมวดคิ้วนิดนึง ไม่ได้ลืมตาเลยด้วยซ้ำ ทำเสียงแบบเฉยๆ ถามฉันว่า “เรียบร้อยแล้วเหรอ”
“อืม” ฉันพยักหน้า พร้อมยื่นสัญญาที่เซ็นมากับโรงพยาบาลนั้นให้เขา และพูดว่า “ ผอ.ลู่ฝากสวัสดีคุณ” ที่จริง วันนี้ฉันต้องมาเซ็นสัญญาเอง แต่ดันมาเจออาธิประหว่างทาง ไม่รู้ว่าเป็นอะไรของเขา เขาจะแวะมาส่งฉันด้วย
“ต่อไป เคสนี้เธอดูแลทั้งหมดนะ” ปกติ อาธิปจะพูดสั้นๆ อยู่แล้ว เขาไม่ได้รับสัญญาณจากมือฉัน ก็สตาร์ทรถเลย ฉันพยักหน้า ไม่พูดเยอะ เวลาอยู่กับเขา ฉันจะไม่ค่อยพูด พอเวลาผ่านมานานแล้ว ฉันเหมือนจะทำอย่างอื่นไม่ได้อีกเลย นอกจากฟังคำสั่งกับปฏิบัติตามคำสั่ง
รถมุ่งหน้าไปทางใจกลางเมือง ตอนนี้ก็มืดแล้ว เขาไม่กลับบ้าน จะไปไหนนิ ฉันถึงจะเอะใจ แต่ก็ไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวของเขา ก็เลยเงียบไป
นึกถึงผลตรวจอัลตร้าซาวด์ ฉันไม่รู้จะคุยกับเขายังไง ฉันชำเลืองตามองเห็นเขาจับจ้องแต่ข้างหน้า สายตาดุเดือด หน้าตาเฉยชาเหมือนเดิม
“อาธิป” ฉันจะบอกข่าวเขา เหงื่อเต็มฝ่ามือไปหมด คงจะเป็นเพราะตื่นเต้น เลยเหงื่ออก
“มีไรว่ามา” เขาพูดขึ้นมาแบบไม่มีอารมณ์อะไรเลย
เขาเป็นแบบนี้กับฉันมาตลอด พอผ่านมาเยอะแล้ว ฉันก็ไม่คิดอะไรมาก ฉันเก็บอาการตื่นเต้นไว้ หายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ฉัน…” ท้องแล้ว .. ก็แค่สามคำนี้ แต่มือถือเขามีสายเข้าพอดี ฉันเลยไม่ได้พูดออกไป
“ฮัลโหล ซินหลาน ว่ายังไงครับ” ความอ่อนโยนของคนเรา ก็ย่อมมีไว้ให้แก่คนที่รักคนเดียว จะสุข ทุกข์ หรือความอ่อนโยใดๆ สุดท้ายแล้วก็ย่อมมีไว้ให้สำหรับคนคนเดียว
ความหวานอ่อนโยนของอาธิปมีไว้เพื่อนัชชาคนเดียว ฟังจากที่เค้าคุยกันก็รู้
ไม่รู้ว่านัชชาพูดอะไรกับอาธิป เขาเหยียบเบรคแบบกะทันหัน และพูดแบบเป็นห่วงกับทางนั้นว่า “ได้ครับ เดี๋ยวผมไป อยู่เฉยๆนะครับ”
วางสายปุ๊บ เขาก็กลับสู่โหมดเย็นชา หันมาทางฉันว่า “ ลงจากรถเดี๋ยวนี้”
สั่งมาแบบเด็ดขาด
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำกับฉันแบบนี้แล้ว ฉันพยักหน้า เก็บคำพูดทั้งหมดไว้ในใจ เปิดประตูแล้วลงจากรถ
การสมรสระหว่างฉันกับอาธิป เป็นการที่คาดการไม่ถึง ก็เป็นชะตากรรมของเราสองคน แต่มันไม่เกี่ยวกับความรัก ในใจของอาธิปที่มีให้นัชชา
ส่วนฉันเป็นแค่ส่วนเกิน หรือเป็นคนกีดขวางทาง
สองปีที่แล้ว อาก๋งฟู่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย อาก๋งบังคับให้อาธิปแต่งงานกับฉันตอนที่นอนอยู่โรงพยาบาล ถึงแม้อาธิปจะไม่ยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับฉัน สองปีที่ผ่านมานี้ มีอาก๋งคอยปกป้องฉัน อาธิปก็แค่ทำตัวเหมือนไม่มีฉันอยู่ แต่ตอนนี้อาก๋งเสียชีวิตไปแล้ว อาธิปก็รีบให้ทนายความร่างสัญญาหย่าไว้เรียบร้อย รอให้ฉันเซ็นชื่ออย่างเดียว
พอกลับมาถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว บ้านหลังใหญ่โตเงียบเหมือนบ้านผี อาจจะเป็นเพราะว่าฉันท้อง ฉันเลยไม่อยากกินอะไร ก็เลยขึ้นห้อง รีบอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเข้านอน
ฉันยังหลับไม่ค่อยสนิท เหมือนได้ยินเสียงดับเครื่องรถยนต์จากสนามหน้าตึก
อาธิปกลับมาแล้วเหรอ เขาไปหานัชชามาแล้วหรือ?