ช่วงนี้เกิดเรื่องวุ่นวายหลายเรื่อง จนฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ นานา ยังไง ก็เลยหนีไปหาน้ำทิพย์ที่ไทม์บาร์
ฟ้ายังไม่มืด คนที่มาเที่ยวผับไม่เยอะเท่าไร น้ำทิพย์สั่งคอกเทลให้ฉันแก้วนึง และถามฉันว่า “ทำไมมาตอนนี้อ่ะ มีไรหรือเปล่า”
ฉันส่ายหัว และวางแก้วที่ยกขึ้นมาไว้ที่ฝิปากกำลังว่าจะจิบแอลกอฮอล์ในนั้น ขณะเดียวกันฉันสายตามองไปที่เวที บนเวทีนั้นมีรายการเต้นโพลแดนซ์อยู่ เสียงดนตรีโด่งดัง ผสมไปด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดของคนมาเที่ยวผับ และตอบน้ำทิพย์ว่า “ไม่เป็นไร แค่แวะมาหาเฉย ๆ”
“ไอ้อาทธิปนั่นทำเธอเสียใจอีกแล้วใช่มะ” น้ำทิพย์ถามมา และรู้สึกเหนื่ยใจแทนฉํนว่า “ถ้าแกอยู่กับเขาไม่มีความสุขจริงๆ นะ แก็รีบหย่า ๆ ไปเหอะ แกนี่หุ่นก็ดี น้ำตาก็สวย จะไปหาผู้ชายแบบไหนก็ได้ ทำไมต้องอยู่กับผู้ชายที่เฉยชากับแกตลอดแบบนี้ แกไม่เหนื่อยบ้างเหรอวะ” น้ำทิพย์เป็นคนพูดตรง ๆ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมเป็นร่วมตายมากับฉัน เธอใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเอง หากอยู่ตรงไหนไม่มีความสุข เธอก็จะไม่เอาด้วย แล้วเธอก็เห็นแบบฉันที่ทำอะไรกับอาธิปไม่เด็ดขาดไม่ได้
ฉันยื่นผลตรวจอัลเตอร์ซาวให้น้ำทิพย์ และพูดในอารมณ์แบบทำอะไรไม่ได้ว่า “ถึงจะหุ่นดีหน้าสวนแค่ไหน แต่ฉันมีลูกติดด้วย แกคิดว่าจะมีผู้ชายที่ไหนรับฉันได้”
น้ำทิพย์แย่งกระดาษในมือฉันไป อ่านแบบละเอียดไปมาหลายรอบ และทำตาโต ๆ แบบตะตลึงใจ มองหน้าฉัน แล้วถามว่า “หกสัปดาห์แล้วเหรอ!!! แกไม่ได้ทำกับอาธิปไม่ใช่อ่อ ลูกเอามาจากไหนเนี่ย”
“แกยังจำครั้งที่ฉันกินเมาเดือนที่แล้วอีกป่ะ วันที่อาธิปมารับฉันกลับน่ะ” ฉันแย่งรายงานผลตรวจอัลเตอร์ซาวในมือของเธอกลับมา
เธอทำตาโตแบบตกใจอย่างมาก และไม่รู้จะว่าอะไรฉัน เธอเงียบไปสักพักแล้วบอกว่า “แล้วตอนนี้แกจะเอายังไงเนี่ย”
ฉันส่ายหัว มาถึงตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อดี
“ไปทำแท้งเลย” น้ำทิพย์พูด “แกกับอาธิปไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ยิ่งตอนนี้อาก๋งไปเสียไปแล้ว ถ้าแกเก็บเด็กคนนี้ไว้ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ทำแท้งไปดีกว่า ถ้าแกหย่ากับอาธิปแล้ว ชีวิตที่เหลือของแกก็ยังอีกยาวนาน แกจะไปรักใครคนเดียวจนตายไม่ได้”
ฉันเริ่มมึน เห็นคนเริ่มาเข้ามาเยอะขึ้น ฉันเลยบอกน้ำธิพย์ว่า “ไปดูแลลูกค้าเหอะ ฉันอยู่ตรงนี้คนเดียวก็ได้”
น้ำทิพย์เห็นฉันไม่ได้ฟังที่เธอพูด เธอเลยไม่อย่ากคุยกับฉันต่อ เหลือบตามองฉัน แล้วเปลี่ยนน้ำผลไม้ให้ฉัน
ฟ้าเริ่มมืด ลูกค้าก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ น้ำทิพย์ก็เริ่มยุ่งขึ้น เธอก็ไม่มีเวลาให้ฉันอีก ฉันเลยย้ายไปนั่งมึนๆ ที่ซอกมุม
เห็นสาว ๆ หนุ่ม ๆ เที่ยวเต้นเฮฮาไปมา คิดอะไร ๆ ไปเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ตัว
เมื่อเกิดเรื่องในผับ ฉันยังไม่รู้ตัวเลย จนกระทั่งมีเสียงทะเลาะวิวาทกัน ฉันถึงรู้ตัวแบบสะดุ้ง
เห็นมีคนเข้ามาหาเรื่องน้ำทิพย์ในผัด ไม่รู้ว่าผวกเขาเข้ามากันเมื่อไร ทำให้ลูกค้ารีบหนีไปแล้วบางส่วน ดนตรีในผัดก็ปิดไปแล้ว
ฉันนั่งอยู่ในซอกมุม ค่อยข้างมืด ๆ ถ้าไม่ตั้งใจดูจะไม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ เห็นพวกหนุ่ม ๆ ที่เข้ามาล้อมน้ำทิพย์ไว้ และในมือเขาถือไม้กัน
ดูก็รู้เลยว่ามาเพื่อหาเรื่องกัน แต่น้ำทิพย์ก็ยังมีสมาธิอยู่ ดูพวกเขาแล้วพูดว่า “พวกคุณมาหาเรื่องหรือมาหาความสนุกเนี่ย”
“มาหาเรื่องโว่ย ถ้ามึงเก่งนัก ก็มาเล่นกับพี่สิวะ อีน้อง” ผู้นำทีมพูดขึ้นมา แล้วมือไปจับหหน้าของนืทิพย์พร้อมเสียงหัวเราะแบบน่าทุเรด
“เพียะ” มือเขายังไม่ทันได้จับหน้าของน้ำทิพย์ ฉันก็เอาแก้วน้ำที่อยู่ในมือฉันโยนไปที่มือเขา
โดนของตีแบบกะทันหัน หนุ่มคนนั้นร้องเจ็บและตะโกนว่า “ใครวะ”
“ฉันเอง” ฉันลุกขึ้นมา และเดินเข้าไปหาน้ำทิพย์ น้ำทิพย์มองหน้าฉันและเป็นห่วงฉัน เธอพูดว่า “ทำไมแกยังอยู่นี่อ่ะ”
ฉันไม่รู้จะพูดอะไรละ แบบนี้เธอคงคิดว่าฉันกลับไปแล้ว
ฉันเหลือบตาดูเธอ และพูดว่า “ ไม่อยู่นี่แล้วจะไปไหนล่ะ”
“อีโง่” น้ำทิพย์ดุฉันแล้วดึงฉันไว้หลังตัวเธอ และพูดกระซิบกับฉันว่า “ถ้าเกิดเดี๋ยวเขาต๋อยตีกัน แกรีบหาโอกาสหนีเลยนะ”
ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็ไม่พูดอะไรมาก ก็แค่มองไปที่พวกมาหาเรื่องว่า “เป็นลูกผู้ชาย มารังแกผู้หญิงแบบนี้ ใช่เรื่องเหรอวะ”
��