สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 21 เขาจะไปมีความสามารถอะไร

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิงเหยาอาบน้ำเสร็จ ก็เอนตัวลงนอนบนเตียงเตรียมตัวพักผ่อน

เห็นเขาไม่ไปซักที ในใจกู้ฉางชิงค่อนข้างกังวล แม้ว่ารอไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่เห็นท่าทีว่าจะขยับเขยื้อน

จู่ๆทั้งร่างกายก็เริ่มผ่อนคลายลง

เขาค่อยๆขยับผ้าห่มนุ่มๆขึ้นมาห่ม ถึงจะเข้าสู่ห้วงนิทรา

วันต่อมา เป็นอีกวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง

เฟิงจิงเหยาทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ไปบริษัททันที

กู้ฉางชิงอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ทำ พอเห็นว่าอากาศดีก็เลยสั่งให้คนรับใช้จัดหาเก้าอี้นอนกับโต๊ะตัวเล็กหนึ่งตัวมาวางไว้ที่ลานบ้าน กะว่าจะอาบแดดไปด้วย แก้ภาพเขียนแบบที่เฟิงจิงเหยาให้มาเมื่อวานไปด้วย

บนโต๊ะตัวเล็กมีทั้งของว่างและเครื่องดื่ม ส่วนตัวเองนั้นสนุกกับการหยิบภาพเขียนแบบปึกนั้นมานั่งข้างบน แล้ววาดๆเขียนๆโครงร่างอย่างสบายใจ

ในขณะที่หลู่ซือหยีออกมาจากอีกฝั่งของสวนดอกไม้ จุดประสงค์ที่เข้ามาก็เพื่อเห็นฉากนี้

พอเห็นกู้ฉางชิงในท่าทางสบายอกสบายใจ เขาก็รู้สึกโมโห ได้แต่กัดฟันกรอดเพราะทำอะไรไม่ได้

ไม่กี่วันมานี้เขาส่งคนมาเฝ้ากู้ฉางซินตลอด อยากที่จะจับจุดอ่อนของเขาให้ได้

เดิมทีคิดว่าเขาจะเหมือนกันกับแต่ก่อน ที่แอบย่องออกไปเที่ยวเล่น

ใครจะไปรู้ว่ากู้ฉางซินเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ถึงขนาดไม่ก้าวเท้าออกไปไหนเลย

ไม่เพียงแค่นี้ หลังจากได้รับการขัดเกลาคุณธรรมแล้ว อยู่บ้านทุกวันไม่อ่านหนังสือก็วาดภาพ

เปลี่ยนไปมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

หลู่ซือหยีก็คงสงสัยว่ามีคนมาสับเปลี่ยนตัวกับนาง

นิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ หลู่ซือหยีกวักมือเรียกนางรับใช้คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ตรงลานบ้านมาถาม“เสี่ยวเหลียน มานี่หน่อย!”

“คุณหนูลู่”เสี่ยวเหลียนวางงานที่ทำอยู่ จัดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็วิ่งไปหา“คุณหนูเรียกหาฉัน?”

หลู่ซือหยีดูจากที่นั่งของกู้ฉางชิงแล้วเกาคาง “กู้ฉางซินกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?”ดูท่าทางแล้วตั้งใจมาก

นี่มันไม่ใช่นิสัยของนางสักนิดเลยนะ

“ได้ยินมาว่ากำลังช่วยคุณชายแก้ภาพเขียนแบบค่ะ”

เสี่ยวเหลียนบอกอย่างระมัดระวัง ถ้าเขารับรู้ความคิดของหลู่ซือหยีสักนิดก็คงดี ในใจรู้สึกกลัวว่าเขาจะโทษตัวเองที่ไม่ได้รีบมารายงานให้ทันเวลา

“อะไรนะ?”

หลู่ซือหยีทำหน้าตกใจ วันนี้ตอนเช้าเขาก็เพิ่งจะได้ยินคุณน้าหมิงพูดถึงอยู่เหมือนกัน ว่าพี่จิงเหยาจะสร้างบริษัทออกแบบ

ธุรกิจออกแบบอาชีพนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการเบื้องหลังวิชาชีพเฉพาะทางที่มั่นคง อีกทั้งยังต้องมีความสามารถในการชื่นชมและพินิจพิเคราะห์คุณค่าได้อีกด้วย

ตอนที่เขาอยู่ตระกูลเฟิงตั้งแต่เล็กก็เจอเสื้อผ้าหรูหรามาเยอะ การแสดงบนรันเวย์ก็เห็นนับครั้งไม่ถ้วน ในใจรู้สึกว่าตนเองสามารถช่วยพี่จิงเหยาได้

เริ่มแรกเขายังคิดอีกว่าอาศัยจังหวะที่พี่จิงเหยาขาดกำลังคน ยื่นข้อเสนอจะช่วย

ถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่ทำให้พี่จิงเหยารู้สึกขอบคุณเขา การทำงานด้วยกันยังช่วยพัฒนาความรู้สึกอีกด้วย

แต่ตอนนี้พี่จิงเหยาเอาเรื่องสำคัญอย่างแปลนออกแบบมอบหมายให้คนที่ไม่ชำนาญอย่างกู้ฉางซิน

คนที่มีทิฐิ ใจแคบแบบนั้นจะไปเข้าใจอะไร?

“เหอะๆ น่าขำสิ้นดี!”

หลู่ซือหยียิ้มแหยๆ กู้ฉางซินเขาจะไปมีความสามารถอะไร

เขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าพี่จิงเหยาเอาเรื่องสำคัญขนาดนี้มอบหมายให้เขา

แต่ว่านะดูทางนั้นที่กำลังสบายใจอยู่ กินองุ่นไปด้วย บางทีกู้ฉางชิงที่ตั้งใจในการแก้งาน ก็เหมือนจะใช้งานได้จริง

หลู่ซือหยีไม่อยากจะรอต่อไปแล้ว

หันหลังเดินกลับที่พักอย่างไม่พอใจ เขาเพิ่งจะกลับมาก็โดนคุณนายเฟิงเรียกไว้

“ซือหยี?ไม่ใช่ว่าไปหาจิงเหยาหรอกเหรอ? ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ?”

คุณนายเฟิงเห็นเขากลับมา ท่าทางไม่พอใจเลยถามอย่างแปลกใจ เขาชอบที่หลู่ซือหยีไปช่วยงานลูกชาย

จิงเหยาสร้างบริษัทใหม่ก็ต้องการผู้ช่วย อีกอย่างยังสามารถพัฒนาความรู้สึกของทั้งสองคนได้ด้วย

ยิ่งกว่านั้นหลู่ซือหยีเป็นคนที่รู้จัก รู้ตื้นลึกหนาบางและสนิทกันที่สุด เด็กคนนี้ก็นับว่ามีความสามารถอยู่เหมือนกัน

“คุณน้าหมิง ฉันไม่ได้โกรธแทนตัวเองนะคะ คุณน้ารู้ไหม? พี่จิงเหยาถึงขนาดเอาแปลนออกแบบเสื้อผ้าของบริษัทใหม่ให้กู้ฉางซินออกแบบ”

พูดถึงตรงนี้หลู่ซือหยีพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง“กู้ฉางซินเป็นคนแบบไหน? คุณน้าก็รู้ดี ไม่พูดเรื่องความประพฤตินะคะ แต่ลองนึกถึงเรื่องมืออาชีพ วิชาเอกมหาลัยเกี่ยวกับการเงิน หน่วยกิตการเรียนก็ยังเก็บไม่หมด ประวัติการศึกษาก็ใช้เงินซื้อมา”

“แปลนออกแบบงานสำคัญขนาดนี้ ให้กู้ฉางซินทำ เขา เขาเนี่ยนะ ไม่เป็นตัวถ่วงให้พี่จิงเหยาก็บุญแล้ว!”

“เหลวไหล!ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ”

คุณนายเฟิงดึงมือหลู่ซือหยีแล้วพูดปลอบ“หนูวางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันจะกลับไปคุยกับจิงเหยาเอง กู้ฉางซินนั่นไม่ไหวจริงๆ”

หลู่ซือหยีพยักหน้า“ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ เสียดายก็แต่ภาพออกแบบพวกนั้น ไม่รู้ว่าแก้ไปถึงไหนแล้ว”

เขาก้มหน้าท้อใจ

ในใจกลับไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณนายเฟิง พี่จิงเหยาก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาบ้านเมื่อไหร่อีก

รอคุณน้าเหมยไปคุยกับเขา เกรงว่าผักดอกเข็มคงเย็นหมด

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่มีความสามารถหรอก กู้ฉางซินโอ้อวดไปก่อนเถอะ

……

กู้ฉางชิงบิดขี้เกียจบนเก้าอี้นอนจากนั้นลุกขึ้น

ภาพที่ออกแบบในมือเขาแก้ไปแล้วครึ่งนึงแล้วก็หยุดชะงักลง

เป็นการออกแบบที่เหมือนเหตุการณ์จริงๆ ต้องใช้สมอง แรงบันดาลใจไม่ใช่ว่าบอกมีก็มีได้เลย

ตอนบ่ายดื่มชายามบ่าย กู้ฉางชิงก็คิดว่าจะหาอะไรทำหน่อย

“หรือจะไปเดินเล่นบ้านคุณปู่ พอดีเลย งั้นเอาเสื้อผ้าที่ซื้อมาเมื่อวานไปด้วย”

ขณะที่กู้ฉางชิงกำลังไป นายท่านกำลังวาดภาพ พอเห็นเขาเข้ามาก็ถามว่า“ยัยหนูมานี่สิ ภาพนี้ของปู่ดูเป็นอย่างไรบ้าง”

กู้ฉางชิงเดินไปดูเป็นชุดรูปไม้ยืนต้นเก่าแก่ชนิดหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียนภาพวาดด้วยหมึกแบบจีน กลับเข้าใจได้ถึงบางส่วน มองอย่างละเอียดไปครู่ใหญ่แล้วพูดว่า“คุณปู่ ภาพนี้ดูแข็งแรงและมีกำลัง กิ่งก้านนี่ก็เจริญงอกงาม ก็เลยเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง”

นายท่านเฟิงฟังจบก็หันไปดูเขา“เก่งนี่ฉางซิน พัฒนาขึ้นแล้วสินะ ถึงกับมองความหมายแฝงของภาพนี้ออก”

เมื่อสักครู่กู้ฉางชิงปากเร็วไปหน่อย พูดจบก็เห็นนายท่านไม่ได้สงสัยอะไรก็ยิ้มแล้วพูดต่อ“คุณปู่ เมื่อวานหนูไปเดินซื้อของ ก็เลยซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ให้คุณปู่ด้วย วันนี้เอามาให้คุณปู่โดยเฉพาะ”

“เหรอ?”

นี่เป็นครั้งแรกที่นายท่านเฟิงได้รับของขวัญจากลูกหลาน เขาไม่ได้ขาดเหลืออะไร ที่ใช้อยู่ก็เป็นสิ่งที่ดีชั้นยอดอยู่แล้ว ลูกหลานพวกนั้นเห็นเขาก็ต่างพากันกลัวหมด ยากนักที่จะกล้ามาใกล้ชิดกับเขา

ได้ยินกู้ฉางชิงซื้อของขวัญให้เขา นายท่านเฟิงก็ดีใจมาก อยากจะลองใส่ให้ดูทันทีเลย

คนรับใช้ที่ชราแล้วคอยอยู่ข้างเขาตลอดทั้งปีเห็นสถานการณ์อย่างนี้ก็อดไม่ได้ที่จะดีใจไปด้วย

ด้านนอกต่างพูดกันว่าคุณนายรองไม่ดี แต่จากที่เขาดู จิตใจที่รู้จักกตัญญูนี้นับว่าเป็นที่หนึ่ง

เดิมทีกู้ฉางชิงก็เรียนด้านออกแบบเสื้อผ้าเฉพาะทาง สายตาสำหรับการคัดเลือกเสื้อผ้าก็นับว่าเฉียบแหลมทีเดียว

เสื้อแจ็คเก็ตขนสัตว์สีเทาอ่อน เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนเข้าคู่กับกางเกงลำลองสไตล์ตะวันตกรุ่นใหม่ออกแบบโดยGianran ขับให้นายท่านเด่นและดูอายุน้อยกว่าอายุจริง

กู้ฉางชิงยังเป็นพูดจาไพเราะ พูดชมติดต่อกันแบบนี้เหมือนนายท่านไม่มีผิด

ทำให้บ่ายนี้เต็มไปด้วยความสุข

ใกล้ค่ำ ช่วงรับประทานอาหารมื้อค่ำ

พอเฟิงจิงเหยากลับมา ทานข้าวได้ไม่กี่คำก็หันไปถามกู้ฉางชิง“แบบแปลนวันนี้แก้ไปถึงไหนแล้ว”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท