กู้ฉางชิงงุนงงเล็กน้อย ยังไงเธอนึกไม่ถึงเลยว่าคุณชายฟู่ท่านนี้ คาดไม่ถึงว่าจะต้องการเลื่อยขาเก้าอี้เธอ
ถึงแม่ตระกูลฟู่จะมีชื่อเสียงสู้เฟิงซื่อกรุ๊ปไม่ได้ แต่ก็เป็นธุรกิจใหญ่ที่โดดเด่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการออกแบบเสื้อผ้า ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นผู้นำใหญ่ก็ดูไม่กล่าวเกินไป
เห็นเธอเหม่อลอย ฟู่หยุนชวนก็กล่าวอีกว่า “อันที่จริงฉันเคยเห็นผลงานทางด้านศิลปะของคุณแล้ว ที่บนเวทีมิลานนั่น ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ!”
ได้ฟังเธอเอ่ยถึงเวทีมิลาน ใบหน้ากู้ฉางชิงก็ตะลึงงัน
เรื่องนี้นอกจากคนตนะกูลเฟิงแล้ว คงจะไม่มีใครรู้นะ แท้จริงแล้งฟู่หยุนชวนไปได้รับข่าวมาจากไหนกัน
กู้ฉางชิงกล่าวถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัยว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
“คุณอย่าเข้าใจผิด! ฉันไม่มีนิสัยชอบตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของคนหรอก”
ฟู่หยุนชวนยิ้มๆ “ฉันแค่บังเอิญได้ยินหลู่ซือหยีเอ่ยขึ้นมา เธอพูดว่าตำนานlongที่ลึกลับบนเวทีนั้นก็คือคุณ”
ได้ยินชื่อหลู่ซือหยีนี้แล้ว กู้ฉางชิงไม่ใจเย็นเล็กน้อย
เธอขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คุณเป็นเพื่อนของหลู่ซือหยีหรอ?”
การปฏิบัติตัวของหลู่ซือหยีต่อเธอก็นับได้ว่าชัดเจนแล้ว ถ้าเป็นเพื่อนของผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เธอก็คงออกห่างให้ไกลหน่อยจะเป็นการดีที่สุด
เมื่อถึงเวลาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายยุ่งยากอะไรอีก!
เห็นสีหน้าท่าทางเธอคล้ายกับต่อต้านเล็กน้อย ฟู่หยุนชวนก็ใจเต้น กิ่นกน้านี้เข้าเคยให้คนไปตรวจสอบ
เล่ากันว่ากู้ฉางชิงและหลู่ซือหยีไม่ลงรอยกันอย่างมาก ตอนนี้ที่เห็นก็คงเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ตอนนี้เขาเพียงแค่เอ่ยถึงชื่อ ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่อยากจะสนทนากับเขาต่อไป
เขารีบอธิบายว่า “ไม่ได้ลึกซึ้งมาก เพียงแค่บังเอิญพบกัน รู้จักเท่านั้น”
ฟู่หยุนชวนนำมือทั้งสองข้างมากุมไว้บนโต๊ะ ตาทั้งคู่จ้องมองกู้ฉางชิง คล้ายกับว่าอยากจะปล่อยอารมณ์ใดๆบนใบหน้าของเธอ
กู้ฉางชิงพยักหน้า กล่าวรับว่า “ขอบคุณความหวังดีของคุณ แต่ฉันจะไม่คิดใคร่ครวญเรื่องนี้ชั่วคราว”
ทางเฟิงจิงเหยานั้นเธอก็ยังไม่ได้ตอบกลับ จะรับปากกับคนอื่นได้อีกยังไง
“คุณกู้ ฉันหวังว่าคุณจะคิดใคร่ครวญอย่างจริงจังสักเล็กน้อยอีกครั้ง ครั้งนี้ฉันไม่ได้ต้องการคุณมาทำงาน แต่ต้องการดึงคุณมาเป็นหุ้นส่วน”
ฟู่หยุนชวนขัดจังหวะคำพูดของเธอในเวลาอันสั้น ดวงตาทั้งคู่ยังแฝงไปด้วยท่าทีที่ดื้อรั้นต้องการจะทำให้ได้
กู้ฉางชิงชะงักงันเล็กน้อย แล้วเงยหน้าไปมองเขา
“ครั้งนี้ก็คือฉันจะกลับไปเตรียมสาขาบริษัทอีกหนึ่งแห่ง ก่อตั้งแบรนด์ใหม่แบรนด์นึง ต้องการเพียงแค่คุณเข้าร่วม เงินเฟินเดียวคุณก็ไม่ต้องออก ฉันเต็มใจที่จะแบ่งหุ้นให้คุณสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ เงินทุนทั้งหมดล้วนเป็นฉันที่ออก ต้องการเพียงฝีมือของคุณมาเข้าร่วมหุ้นก็พอ”
เสียงของฟู่หยุนชวนจริงใจอย่างมาก
กู้ฉางชิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง กล่าวอย่างสับสนว่า ยังมีเรื่องที่ดีแบบนี้อีกหรอ
เพียงแต่ตระกูลฟู่มีเงินมากธุรกิจใหญ่โต ไม่ได้ต้องการเชื้อเชิญนักออกแบบแบบไหน ทำไมต้องเลือกเธอล่ะ?
มองในตาของฟู่หยุนชวนเต็มไปด้วยการดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฟู่หยุนชวนก็ไม่หลบซ่อนอนุญาติให้กู้ฉางชิงพิจารณา
“เมื่อตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยก็เรียนสาขาวิชาการออกแบบ ก็เคยได้สัมผัสด้านการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่น กระทั่งยังได้ออกแบบผลงานหลายชิ้น คุณกู้ลองดูๆก็ได้”
เขาพูดพลาง ก็หยิบรูปการออกแบบที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วออกมา แสดงให้กู้ฉางชิงเห็นแล้วกล่าวว่า “ฉันชื่นชมคุณอย่างมากจริงๆ ก็เชื้อเชิญคุณด้วยความจริงใจ มาเข้าร่วมกับกลุ่มของพวกเรา”
กู้ฉางชิงหยิบรูปการออกแบบของฟู่หยุ่นชวน ในสายตาเผยให้เห็นความตกตะลึงเล็กน้อย
“นี่ล้วนเป็นการออกแบบของคุณหรอ? สองสามแผ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นมุมมองและการออกแบบ ล้วนแปลกใหม่อย่างมาก ถ้าคุณสามารถเข้ามาเป็นนักออกแบบได้ล่ะก็ จะต้องเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน” กู้ฉางชิงกล่าวอย่างไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย
“ขอบคุณคำชมที่ดีคุณกู้ คุณก็ไม่ธรรมดา”
ฟู่หยุนชวนได้ฟังเธอพูดแบบนี้ ก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“แน่นอน ฉันไม่เคยหลอกใคร” กู้ฉางชิงกล่าวว่า “เพียงแต่ทำไมคุณถึงต้องนำส่วนนี้มาแก้ไขให้สั้นลงล่ะ?”
นิ้วมือที่เรียวขาวหยุดอยู่บนตำแหน่งนึงอย่างไม่คลาดเคลื่อน กู้ฉางชิงให้ความสนใจอย่างชัดเจน
ฟู่หยุนชวนยิ้ม “เมื่อตอนฉันเรียนมหาวิทยาลัยก็ไปต่างประเทศ การแสดงเกี่ยวกับการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นของในประเทศจีนและต่างประเทศ มีความแตกต่างทางแนวคิดอย่างชัดเจนมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ล้วนก็เป็นเพียงจากวัตถุดิบสิ่งทอ สีสัน แนวคิด จริงๆแล้วความต้องการทำให้คนรู้สึกถึงความสะดวกสบายและความพึงพอใจ”
“ดังนั้นการออกแบบเช่นนี้ของคุณ ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของชาติตะวันตกในการใช้งานจริงเท่านั้น แต่ยังตอบสนองการแสวงหาความงามโดยนัยของชาวตะวันออกอีกด้วย”
มือของกู้ฉางชิงลูบๆ แล้วกล่าวว่า “อีกทั้งลวดลายที่คุณใช้นี้ เป็นลวดลายสวนป่าโบราณของประเทศจีน ทั้งยังเข้ากับดอกลำโพงที่ลึกลับของตะวันตก ทำให้สามารถรู้สึกถึงภาพฝันที่ลึกลับ จะสามารถครองใจสาวแฟชั่นได้ไม่น้อยอย่างแน่นอน”
“ไม่เลว ฉันกำลังต้องการความเชี่ยวชาญจำนวนมากของตระกูลฟู่
ฟู่หยุนชวนได้ฟังความคิดเห็นที่ตรงจุดตรงประเด็นของกู้ฉางชิงแล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
กู้ฉางชิงพยักหน้า “แนวคิดของคุณไม่เลว เพียงแต่วัฒนธรรมทางตะวันออกลึกซึ้งกว้างไกล ตะวันออกตะวันตกล้วนต้องเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน แนวคิดทั้งหมดที่นำไปใช้ประโยชน์ อาจจะดูเหมือนฟุ่มเฟือยเกินไปหน่อย น่าวิงเวียนเล็กน้อย”
เธอพูดพลาง แล้วก็ชี้อีกสองสามส่วนให้เห็นไปพลาง “ยกตัวอย่างเช่นส่วนนี้ ลวดลายของคุณมันถี่เกินไป อันที่จริงสองสามที่นี้ใส่สีขาวล่ะก็ บางทีวิสัยทัศน์อาจจะดีกว่า”
ฟู่หยุนชวนฟังแล้วก็พยักหน้า
คนทั้งสองสนทนากันไปพลาง ฟู่หยุนชวนก็หยิบสมุดโน๊ตที่พกไว้ข้างกายไม่ห่างออกมา
กู้ฉางชิงตรงไปตรงมาบนรูปภาพ แสดงแนวคิดของตนเองออกมา
เวลาผ่านไปทุกนาทีทุกวินาที
เป็นเวลานานแล้วที่ฉันได้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการออกแบบโดยตรงกับผู้อื่นอย่างสบายใจขนาดนี้ กู้ฉางชิงมีความสุขอย่างมาก
“จริงๆฟังคำที่พูด ดีกว่าหนังสือที่อ่านมาเป็นสิบไป”
ฟู่หยุนชวนอดไม่ได้ที่จะมองกู้ฉางชิง เปลี่ยนมุมมองแปลกหูแปลกตามากยิ่งขึ้น
กู้ฉางชิงก็ยิ้มกลับแล้วกล่าวว่า “ที่ไหนกัน เพียงแค่เรียนรู้ด้วยกันก็เท่านั้นเอง ฉันก็เรียนทางตะวันออกตะวันตกมาไม่น้อย ภายหลังความคิดทางผลงานวรรณกรรมยังแพร่หลายยิ่งขึ้นไป”
พูดพลางกู้ฉางชิงก็ก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ นึกไม่ถึงว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว
“ต้องขอโทษคุณฟู่ด้วย ฉันน่าจะต้องไปแล้วล่ะ!”
เห็นเธอจะไปแล้ว ฟู่หยุนชวนก็กล่าวว่า “เรื่องที่ฉันเชิญคุณ คุณยังไม่จำเป็นต้องให้คำตอบฉันก็ได้ แต่ก็หวังว่าคุณจะติดไตร่ตรองให้ดีสักเล็กน้อย ฟู่ซื่อกรุ๊ปยินดีต้อนรับคุณตลอดเวลา”
“ขอบคุณค่ะ!” กู้ฉางชิงพยักหน้า “ฉันยังมีธุระอีก ต้องไปก่อนแล้ว”
“ฉันไปส่งคุณ!” ฟู่หยุนชวนรีบหยิบเสื้อที่แขวนอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เดินตามไป
“ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้”
กู้ฉางชิงขวางฟู่หยุนชวนเล็กน้อบ “ฉันก็อยู่ฝั่งตรงข้าม”
คนทั้งสองยืนอยู่ในสถานี่เดียวกัน ทั้งชายรูปหลิอหญิงสาวสวยที่สะดุดตาอย่างยิ่ง
เดิมทีหลู่ซือหยีและเพื่อนก็กำลังช้อปปิ้งอยู่ระแวกใกล้เคียงนี้ คาดไม่ถึงเมื่อกวาดสายตาไปด้วยความบังเอิญ ก็เห็นพวกเขา
“ซือหยี?”
“ถอนใจ!” หลู่ซือหยีหยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋า เดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆสองสามก้าว
เพื่อนสนิทของเธอที่ติดตามอยู่ข้างๆกล่าวว่า “นั่นไม่ใช่กู้ฉางชิงหรอ? ทำไมข้างๆมีผู้ชายยืนอยู่ด้วยคนนึงล่ะ คนแบบไหนเธอก็สมคบหมดจริงๆ”
เสียงของเด็กผู้หญิงนั้นแหลม แต่หลู่ซือหยีจ้องมองกู้ฉางชิงและฟู่หยุนชวนอย่างไม่พูดจา
รอเมื่อชายคนนั้นหันกลับมา เด็ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลู่ซือหยีก็ปิดปากในรวดเดียว “เธอไปร่วมงานด้วยกันกับฟู่หยุนชวนได้ยังไง?”