เช้าวันต่อมา
กู้ฉางฉิงปวดหัวแทบระเบิด ระบมไปทั้งร่างจนต้องตื่นขึ้นมา
พร้อมกับที่ เฟิงจิ่งเหยาเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ตื่นแล้วหรอ วันนี้เธอไม่สบายก็นอนพักอยู่ที่บ้านนะ”
เขามองใบหน้าหวานของกู้ฉางฉิงที่ทำหน้าไม่ถูกในตอนนี้
กู้ฉางฉิงได้ฟังแล้ว มีสติขึ้นมาก็มองตรงไปที่เขา
แค่พริบตาเดียว ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็ย้อนเข้ามาในหัวทั้งหมด
โดยเฉพาะตอนที่ผู้ชายตรงหน้าอาบน้ำให้เธอ ทั้งอายทั้งหงุดหงิด แล้วตอบด้วยอารมณ์ขุ่น “ฉันต้องพักแน่ๆอยู่แล้ว”
พูดจบ เธอก็ดึงผ้าห่มแล้วทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงเหมือนเดิม
เฟิงจิ่งเหยามองท่าทางของเธอด้วยสายตาอ่อนโยน ยิ้มออกมาเบาๆ และหมุนตัวเดินออกไป
หลังจากที่เขาเดินออกไป กู้ฉางฉิงถึงค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แววตาขุ่นเคือง แล้วก็ถอนหายใจออกมา
ดูเหมือนว่าเพราะความเมาเมื่อคืน เฟิงจิ่งเหยาจึงไม่ได้สงสัยอะไร
ยิ่งคิด เธอก็ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน จนหน้าเห่อร้อน
ลู่ซือหยี่ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมากจริงๆ ถึงขนาดจ้างคนมาพรากความบริสุทธิ์ของเธอ
เสียดายที่ไม่มีหลักฐานมัดตัวเธอ ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้แน่
เธอนอนอยู่บนเตียงสักพัก รอให้จิตใจสงบ จึงลุกขึ้นมา
หลังจากนั้นก็ลงไปชั้นล่างเพื่อทานอาหาร เห็นว่าวันนี้อากาศดี จึงคิดว่าหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว จะออกไปนั่งวาดแบบที่ในสวนสักหน่อย นั่งรับแสงแดดอุ่นไปพร้อมกับวาดรูป
เธอนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างสบายใจ
พร้อมกับมีกาน้ำชา อาหารว่าง รับแสงแดดอุ่นๆ แต่ก็รู้สึกแปลกๆ
เฟิงจิ้งหยวนเดินเข้ามา มองคนที่กำลังวาดรูปอย่างสบายใจ ด้วยสายตาเกลียดชัง
นังผู้หญิงคนนี้ดูสุขสบายเสียจริง
เธอบ่นในใจ ตอนแรกที่คิดว่าจะแกล้งมองไม่เห็นแล้วเดินผ่านไป
แต่พอคิดถึงคำพูดที่พูดกับลู่ซือหยี่ในวันนั้นแล้ว ทำให้เธอต้องหันกลับมา
มองไปที่เธออีกครั้ง แล้วมุ่งตรงเข้าไปหากู้ฉางฉิง
กู้ฉางฉิงได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้นมาดู มองไปที่เฟิงจิ้งหยวนที่เดินเข้ามา แล้วทักทาย
แม้จะไม่นึกว่าวันพักผ่อนที่สงบสุขของเธอ จะต้องเจอคนอื่นที่ไม่อยากเจอ
“สวัสดีค่ะคุณอาเล็ก”
เธอทักทายพอเป็นมารยาท เพื่อเลี่ยงการชวนทะเลาะกับอีกฝ่าย
เฟิงจิ้งเหยวนได้ยินคำทักทายแล้ว มองไปที่อีกคนอย่างสมเพช
เธอไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่มองกู้ฉางฉิงจนรู้สึกอึดอัด
“คุณอาเล็กมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
เธอขมวดคิ้วถามออกมา
หลังจากที่เธอถามจบ เฟิงจิ้งหยวนก็ค่อยๆดึงสายตากลับไปช้าๆ แต่ก็ยังคงเหล่ตามองเธออยู่
“ไม่มีธุระอะไรหรอก แค่อยากจะมาบอกกับเธอว่า คืนนี้ที่ข้างนอกจัดงานเลี้ยงใหญ่ จิ่งเหยาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก็ไม่ควรที่จะพลาดงานนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาไปร่วมงาน ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะดื่ม เธอดูเวลาด้วยนะ ให้รีบพาจิ่งเหยากลับมา”
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ฟัง ไม่รู้ว่าจะต้องแปลกใจไหม
แต่เธอก็ตอบกลับไปว่า “งานนี้ฉันไม่ต้องไปหรือเปล่าคะ ไม่เห็นจิ่งเหยาจะบอกฉันเลย คิดว่าน่าจะพาผู้ช่วยไปแทน ถึงเวลาก็ให้ผู้ช่วยพากลับมาส่งก็ได้นี่คะ”
เฟิงจิ้งหยวนคิดไม่ถึงว่ากู้ฉางฉิงจะตอบแบบนี้ จึงแสดงสายตาไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ
“เธอพูดอะไรของเธอ หรือว่าเธอไม่ใช่ภรรยาของจิ่งเหยา”
เธอตำหนิเสียงดัง ทำให้สีหน้าของกู้ฉางฉิงเรียบนิ่ง
ไม่ทันให้เธอได้อธิบาย เฟิงจิ้งหยวนก็พูดขึ้นมาอีก
“เหอะ คิดว่าเธอเรียนรู้แล้วจริงๆซะอีก แต่ก่อนไม่ว่าอะไร เธอก็จะตอบตกลงทันที แต่ช่างเถอะ ฉันให้ลูซือหยี่ไปแทนก็ได้ เธอไม่ตกลง แต่ยังไงก็มีคนอื่นยอมไปแน่นอน”
พูดจบ หลังจากที่ปะทะกันกับกู้ฉางฉิง เธอทำท่าจะเดินออกไป
กู้ฉางฉิงได้ฟังว่าให้ลู่ซือหยี่ไปแทน ในใจก็อึดอัดขึ้นมาทันที
เธอเม้มปากแน่น มองตามหลังเฟิงจิ้งหยวนไป แล้วพูดขึ้นว่า “บอกตำแหน่งฉันมา ถึงเวลาฉันไปเองค่ะ”
เฟิงจิ้งหยวนได้ยินแล้ว ก็หยุดชะงัก แล้วหันมาพูดว่า
“ฉันคิดว่าคุณไม่สนใจ”
เธอพูดเหน็บแนม แต่ก็ยอมบอกตำแหน่งงาน แล้วถึงเดินออกไป
กู้ฉางฉิงบันทึกตำแหน่ง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองเฟิงจิ้งหยวน
ไม่รู้ว่าเธอตาฝาดหรือเปล่า ที่เห็นเฟิงจิ้งหยวนที่เดินออกไปแล้ว ยิ้มเยาะ และทำหน้าเย้ยหยัน
เธอส่ายหน้า
เธอมองไปอีกครั้ง ก็มองไม่เห็นหลังเฟิงจิ้งหยวนแล้ว
เธอไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมาก หันกลับมาวาดแบบต่อ
ตกกลางคืน เธอขึ้นรถมาตามตำแหน่งที่เฟิงจิ้งหยวนบอก มาถึงคลับเฮาส์ที่จัดงานเลี้ยง
เธอจำได้ว่าเป็นคลับเฮาส์ที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง
มีข่าวลือว่าค่าใช้จ่ายที่นี่ อย่างน้อยก็เป็นล้าน มากสุดก็สิบล้าน
มองไปรอบๆจากตรงที่ลงรถ ก็เห็นว่าคนที่มาล้วนเป็นคนรวย มีชาติตระกูลทั้งนั้น
กู้ฉางฉิงนึกกลัวขึ้นมา
เพราะเธอไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มาก่อน
เธอมองไปที่ประตูทางเข้าที่หรูหรา ใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมา
มองว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เธอก็คิดถึงคำพูดที่เฟิงจิ้งหยวนพูดเมื่อตอนบ่าย กลัวว่าเธอจะมาช้าไป แล้วผู้หญิงคนนั้นจะเรียกให้ลู่ซือหยี่มา
คิดแล้ว เธอก็กัดฟันเดินเข้าไป
ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอคือกู้ฉางซิน ที่มีเวลาอีกหนึ่งปี ยังไงเธอก็ต้องเคยชินกับสถานที่แบบนี้ให้ได้
และเฟิงจิ่งเหยาก็อยู่ด้านใน เธอก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
ในความเป็นจริง เฟิงจิ่งเหยาก็อยู่ที่นี่ด้วย
แต่ไม่ใช่งานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเหมือนที่เฟิงจิ้งหยวนพูด แต่เป็นงานเพื่อเจอกับลูกค้า ในห้องอาหารเพื่อคุยธุระกิจกัน
ในขณะเดียวกัน ในห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ไม่ไกลจากห้องอาหารที่เขาอยู่นั้น ก็มีลู่ซือหยี่และเฟิงจิ้งหยวนอยู่ที่นั่น
ลู่ซือหยี่มองไปรอบๆ ด้วยสายตาเป็นประกาย
“จิ้งหยวน นังกู้ฉางซินจะมาจริงๆใช่ไหม งานคืนนี้จะล่มหรือเปล่า ถ้าหากว่าโดนพี่จิ่งเหยาจับได้ว่าพวกเราพาหล่อนออกมา จะทำยังไง”
เธอรู้มาว่าเฟิงจิ่งเหยาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆ กลัวว่าจะเหมือนกับเหตุกาณ์ที่เคยเกิดก่อนหน้านี้ เหมือนเธอแกว่งเท้าหาเสี้ยน แล้วสุดท้ายก็ต้องรับกรรมนั้นเอง
เฟิงจิ้งหยวนกวาดตามองเธอ รู้ทันทีเลยว่าเธอกังวลอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
“วางใจเถอะ ถ้าจิ่งเหยาจับได้แล้วยังไง พวกเราไม่ยอมรับก็จบแล้วป่ะ”
เธอยิ้มเยาะ ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว จะไปกลัวอะไร ไม่ต้องพูดละ ยังไงคืนนี้หล่อนก็กลับตัวไม่ได้แล้วล่ะ พอถึงเวลาใครจะไปเชื่อหล่อน”
เมื่อลู่ซือหยี่ฟังเช่นนี้แล้ว เธอก็เข้าใจ จากสายตาที่เป็นกังวลก็ดูผ่อนคลายมากขึ้น
ใช่แล้ว คืนนี้จิ้งหยวนเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
กู้ฉางซิน นังผู้หญิงคนนั้นที่เมื่อก่อนไม่ได้น่าเชื่อถือตรงไหน
จะไม่เชื่อคนส่วนมาก พี่จิ่งเหยาก็คงจะเข้าข้างนังนั่นมากเกินไปแล้วล่ะ
คิดไปพลางยกยิ้มมุมปาก
แค่เพียงแผนการครั้งนนี้สำเร็จ พี่จิ่งเหยาต้องรู้จักนังคนนั้นดีขึ้นแน่ๆ ซึ่งมันก็เป็นโอกาสของเธอแล้ว
เธอกำลังคิดภาพอันสวยงาม ก็มีพนักงานจากด้านนอกเดินเข้ามา
“คุณเฟิงครับ คุณกู้มาถึงแล้วครับ”
เฟิงจิ้งหยวนกับลู่ซือหยี่หันมาสบตากัน
ทั้งคู่ยิ้ม แล้วลุกเดินไปที่ประตู
“ฉางซิน มาแล้วหรอ เข้ามาเร็ว”