สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 111 ตรวจสอบเธออย่างละเอียด

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ทางด้านกู้ฉางชิง หลังจากออกมาแล้วก็เริ่มปวดบิดในท้อง

เธอนั่งยองๆอยู่ข้างถนนด้วยความปวดทรมาน ดวงตาของเธอไม่สามารถเก็บความกล้ำกลืนและเสียใจไว้ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หัวใจเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง

เธอมองไปบนถนนสองข้างทางเห็นแสงไฟนีออนส่องสว่าง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีที่ไป

เมื่อตะกี้เฟิงจิ่งเหยาพูดเรื่องแย่ๆมากมาย จนเธอไม่อยากกลับไปที่บ้านตระกูลเฟิง

แต่ที่บ้านตระกูลกู้ เธอก็ยิ่งไม่กล้ากลับไป

เธอนั่งยองๆข้างถนนอยู่นาน อาการปวดท้องยิ่งนานก็ยิ่งปวดทรมานมากขึ้น

ไม่มีวิธี เธอไม่สามารถเอาร่างกายตัวเองไปลำบากได้

ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะกลับไปบ้านตระกูลเฟิง

เดิมทีเธอวางแผนที่จะกลับไปที่ห้องเพื่อกินยา ใครจะรู้ว่าพอเข้ามาในห้อง เธอก็ไม่สามารถอดทนได้อีก ตาทั้งสองข้างมืดลง เธอปวดจนเป็นลมล้มไป

ไม่แปลกที่เธอจะอ่อนแอ

เริ่มแรกท้องของเธอก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าและเสียเวลาอยู่ข้างทางตั้งนาน เธอสามารถอดทนจนกลับมาได้ แต่มันเกินขีดจำกัดความอดทนของเธอ

ในเวลาเดียวกันเฟิงจิ่งเหยาก็ตามเธอกลับไปที่บ้านหลังใหม่

เขาไม่รู้ว่ากู้ฉางชิงเป็นลมหมดสติไป จึงยืนมองแสงไฟในห้องอยู่ที่สวนดอกไม้ แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาคิดว่าหลังจากที่กู้ฉางซินทะเลาะกับเขาแล้วจะไม่กลับมา เขาเป็นกังวลมาตลอดทาง

แต่เมื่อเขาไปถึงประตูห้อง ความกังวลก็กลับกลายเป็นความลังเล

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้คือเขาทำผิดต่อกู้ฉางซิน และยังพูดจาไม่ดีขนาดนั้น ถ้าเข้าไปตอนนี้เธอเห็นเขาแล้วจะไม่สบอารมณ์

และตลอดทั้งชีวิตเขายังไม่เคยกล่าวขอโทษใครมาก่อน แต่ไหนแต่ไรเป็นคนอื่นที่ให้ความสำคัญกับเขามาโดยตลอด

สักพักใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถปิดกั้นความรู้สึกขอโทษได้

หลังจากที่เรื่องยุ่งไปกันใหญ่ เขาก็วางแผนจะไปอยู่ที่ห้องหนังสือทั้งคืน

คิดๆดูแล้วรอจนถึงวันพรุ่งให้ความโกรธของผู้หญิงคนนี้ลดลงก่อน ในตอนนั้นเขาค่อยสั่งให้ชวี่ยี่ส่งของที่เธอชอบไปให้ ถือเป็นการขอโทษของเขา

คิดอย่างนั้นแล้วขาก็หันหลังและจากไป

ไม่คิดว่าเขาเพิ่งจะเดินออกมาได้สองก้าว ก็อดไม่ได้ที่จะหยุด

เพราะจู่ๆเขาก็รู้สึกว่าที่ตัวเองทำแบบนี้ เหมือนกับกลัวผู้หญิงคนนั้น

นั่นเป็นห้องของเขา ทำไมเขาต้องหลบไปอยู่ที่ห้องหนังสือ?

และในตอนแรกผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน ดังนั้นความเข้าใจผิดของเขาเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้ใช่หรอ?

เขายิ่งคิดก็ยิ่งว่ามันไม่ถูก เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องกลัวผู้หญิงคนนั้น จึงหันกลับมาและเดินไปที่ห้อง

แต่ลืมไปว่าเขาไม่ได้ให้โอกาสกู้ฉางชิงอธิบายเลย

หลังจากที่เขามาถึงประตูห้อง เขาก็ให้กำลังใจตัวเอง เขาวางมือลงบนลูกบิดประตูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะลังเล

เขากำลังคิดว่าเข้าไปในห้องแล้วจะทักทายกู้ฉางชิงยังไง

บอกว่าเขากลับมาแล้ว?

ถ้ากู้ฉางชิงไม่สนใจเขาจะทำยังไง?

เขาคิดที่หน้าประตูอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เจอความคิดที่ดี สุดท้ายเขาก็ไม่ได้สนใจมัน เข้าไปก่อนค่อยว่ากัน

ในขณะที่คิดเขาก็ผลักประตูเข้าไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะทำท่าทางเข็งๆ

เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เขาจะเห็นภาพจากด้านหลังที่กู้ฉางซินกำลังโกรธอยู่ ไม่คิดว่าจะเห็นกู้ฉางซินจะล้มหมดสติอยู่ที่พื้น

“กู้ฉางซิน!”

เขาตื่นตระหนกและอุ้มเธอขึ้นจากพื้น

ก็เห็นกู้ฉางชิงสีหน้าซีด หน้าผากของเธอมีรอยย่นและมีเหงื่อออกเต็มไปหมด

ถึงเธอจะหมดสติ แต่สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความเจ็บปวด

เฟิงจิ่งเหยาเห็นแบบนั้นก็รีบเรียกให้พ่อบ้านเตรียมรถ เพื่อที่จะไปโรงพยาบาล จากนั้นก็พาเธอขึ้นรถไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่บ้านหลังใหญ่ก็ตื่นตระหนกเช่นกัน

คุณนายเฟิงเรียกพ่อบ้านมาถาม:“เกิดอะไรขึ้นที่บ้านหลังใหม่?กลางค่ำกลางคืนเอะอะโวยวาย คงไม่ใช่กู้ฉางซินก่อเรื่องวุ่นวายให้เฟิงจิ่งเหยานะ?”

พูดจบเธอก็ดูดีอกดีใจที่คนอื่นเกิดความโชคร้าย

“ตอบคุณนาย คุณชายกับคุณนายรองไม่ได้ทะเลาะกัน ดูเหมือนคุณนายรองเธอจะไม่สบาย คุณชายพาคุณนายไปส่งโรงพยาบาล”

พ่อบ้านตอบอย่างเคารพ ได้ยินดังนั้นคุณนายเฟิงก็ขมวดคิ้ว

“ทำไมไม่สบายอีกแล้ว ไม่สายเกือบทุกวัน แปลกจริง”

เธอพึมพำเหมือนไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก และโบกมือให้พ่อบ้านออกไป

และเฟิงจิ้งหยวนทางนั้นก็รู้ข่าวคราว แต่ก็ไม่เชื่อว่ากู้ฉางซินจะไม่สบายจริงๆ

เธอได้ยินมาว่าหลังจากพวกเขาออกไป จิ่งเหยาได้อบรมผู้หญิงคนนั้นอย่างดุดัน

กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะแกล้งไม่สบาย ฉายโอกาสนี้ทำให้จิ่งเหยาสงสาร และปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป

เธอนึกถึงเรื่องนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะตะคอก

กู้ฉางซินผู้หญิงคนนี้วางแผนเก่งจริงๆ

ไม่ได้ เธอจะต้องคิดหาหนทางไม่ให้ผู้หญิงคนนี้หลอกจิ่งเหยาได้!

……

ในโรงพยาบาล กู้ฉางชิงยังไม่รู้ว่าการพิจารณาของเธอยังไม่สิ้นสุด

เธอถูกเฟิงจิ่งเหยารีบนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นก็เข้าไปในห้องฉุกเฉิน

เฟิงจิ่งเหยารออยู่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ

ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดไฟในห้องฉุกเฉินจะดับลง หมอและพยาบาลก็เข็นกู้ฉางชิงออกไป

“เธอเป็นยังไงบ้างครับ?”

เฟิงจิ่งเหยาถามด้วยความเป็นห่วง

“คนไข้ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงในขณะนี้ แต่ต่อไปควรใส่ใจกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต คนไข้เป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรง ครั้งนี้เป็นเพราะดื่มมากเกินไป จนเกิดแผลในกระเพาะ ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลัน ถ้าไม่ระมัดระวังในเรื่องนี้ก็จะค่อยๆลุกลามกลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในอนาคต ถึงตอนนั้นการรักษาก็จะยากลำบากขึ้น”

หมอพูดอธิบายคราวๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของกู้ฉางชิง ทำให้เฟิงจิ่งเหยาตะลึง

และไม่รอให้เขาคิดมาก หมอก็ชี้แจ้งอีกว่า:“สองวันนี้ก็ให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตการณ์ก่อน”

ในขณะที่คุยกัน ชวี่ยี่ก็รีบเข้ามา

“ท่านประธาน คุณนายรองไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เขาถามตามมารยาท

“ไม่เป็นไร คุณไปทำตามขั้นตอนการรักษาในโรงพยาบาลก่อน”

เฟิงจิ่งเหยาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นก็เดินตามพยาบาลไปที่ห้องวีไอพี เพื่อจัดหาห้องพักให้กู้ฉางชิง

หลังจากนั้นรอจนพยาบาลออกไป เขาก็ยืนอยู่ข้างเตียง มองดูคนบนเตียงอย่างไม่ลดละสายตาของเขาลึกล้ำมากจนคนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ในเวลานี้ชวี่ยี่ก็ทำตามขั้นตอนการรักษาในโรงพยาบาลเสร็จ และเดินถือแฟ้มประวัติกลับมา

“น่าแปลก คุณนายรองเป็นโรคกระเพาะอักเสบเพราะดื่มมากเกินไป ไม่ใช่ว่าคุณนายรองเธอดื่มเหล้าเก่งหรอ?”

เขาพูดถึงเรื่องที่ผิดแปลกแล้วก็บอกคนที่อยู่บนเตียง:“และก่อนหน้านี้ฉันก็ถาม พวกเขาไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฤทธิ์สูง ก็แค่ดื่มค็อกเทลไปสองสามขวด”

เฟิงจิ่งเหยาฟังเขาพูดจนจบ แสงที่มืดมนก็สว่างวาบในดวงตาของเขา

เขามองไปที่กู้ฉางชิงด้วยแววตาคลุมเคลือ และก็จำได้ว่าในมื้อค่ำเมื่อวานนี้ ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะดื่มไวน์ขาวไปสามแก้ว แล้วหลังจากนั้นก็หมดสติ

“คุณแน่ใจนะ ว่าข้อมูลที่คุณไปตรวจสอบมาก่อนนี้ไม่ผิด?”

เขานึกถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับกู้ฉางซินก่อนหน้านี้ และรู้สึกว่ามีอะไรหลายอย่างไม่สอดคล้องกัน ความมีลับลมคมในหลายอย่างทำให้ยากที่จะไม่สงสัย

“ท่านประธาน คุณสั่งให้ผมตรวจสอบสองครั้ง ทั้งสองครั้งเหมือนกันจะมีอะไรผิดพลาดได้ยังไง?”

ผู้ช่วงเองก็พบกับความมีลับลมคมในนี้ เขาเข้าใจความหมายของท่านประธาน และหมดหนทางจะพูด

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว

“คุณไปตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูลทั้งสองครั้งไม่ถูกต้อง แน่นอนว่ามีบางอย่างผิดพลาดอยู่ในนั้น”

หลังจากที่เขาพูดจบดูเหมือนว่าเขาจะนึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นได้ จึงพูดว่า:“คุณคิดหาวิธีเริ่มจากตระกูลกู้ก่อนเลย แล้วก็โรงเรียนก่อนหน้านี้ของกู้ฉางซิน เพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักเธอ

เรื่องราวรายละอียดต่างๆเอามาให้ฉันตรวจสอบ!”

เขารู้สึกว่ากู้ฉางซินผู้หญิงคนนี้มีความลับบางอย่างที่ปกปิดไว้ ทำให้เขาฝืนและรู้สึกไม่สบายใจ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท