สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 124 มีคนจงใจให้ร้าย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ผู้ตรวจค้นดีใจมากที่หาน้ำตาสาวงามพบจากกระเป๋าสตางค์ของกู้ฉางฉิง

จากท่าทางของเธอเช่นนี้ยิ่งทำให้สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไป

ส่วนกู้ฉางฉิงก็สับสนงงงวย

เธอคิดไม่ถึงว่าของที่ถูกขโมยจะมาอยู่ในกระเป๋าของเธอได้อย่างไร

ทั้งที่กระเป๋าถือของเธอก็อยู่ติดตัวเสมอ

“กู้ฉางซิน นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ขณะที่กู้ฉางฉิงยังคงสับสนอยู่กับเหตุการณ์ คุณนายเฟิงก็หน้านิ้วคิ้วขมวดถามขึ้นเสียงดัง

“พระเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าที่แท้คุณกู้เป็นคนเอาน้ำตาสาวงามไปนี่เอง”

“น่าแปลก คุณกู้เองก็ไม่ขาดแคลนสิ่งเหล่านี้ ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้?”

“ใครจะรู้? เคยได้ยินว่าบางคนมีความชื่นชอบพิเศษ ก็คือชอบลักเล็กขโมยน้อย”

“เชอะ พวกเธอจะไปรู้อะไร ฉันได้ยินมาว่าคุณกู้เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองสุด ๆ ถ้าถูกใจอะไรเข้าก็จะแย่งสิ่งนั้นมาให้ได้”

เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเธอก็หดหู่ลง

นอกจากนี้คุณนายเฟิงยังจ้องเขม็งมาราวกับเสืออยู่อีกด้านหนึ่ง เธอรู้ดีว่าสถานการณ์นี้ร้ายแรง ถ้าหากเธอจัดการได้ไม่ดีล่ะก็ เกรงว่าเมื่อกลับไปแล้วผู้หญิงคนนั้นจะไม่ปล่อยให้เธออยู่อย่างเป็นสุขแน่

ในขณะที่คิด เธอก็กล่าวขึ้นอย่างสุขุมกับเสียงวิพากษ์รอบทิศทาง

“ทุกท่าน โปรดระวังคำพูดด้วยค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมไข่มุกนี้ถึงได้มาอยู่กับฉัน”

ทันทีที่เธอพูดจบ ก็มีเสียงเย้ยหยันถากถางแทรกเข้ามา

“เชอะ เธอไม่รู้ว่าทำไมไข่มุกถึงมาอยู่ในกระเป๋าเธอได้? หรือเธออยากจะบอกว่ามีคนจงใจให้ร้ายเธอ?”

เฟิงจิ้งหยวนที่ยืนอยู่ข้างคุณนายเฟิงมองกู้ฉางฉิงอย่างดูแคลน

อันที่จริงวินาทีที่หาไข่มุกเจอ เธอก็สงสัยว่าต้องมีคนตั้งใจจะให้ร้ายเธอแน่

เพราะเธอเองก็ประสบกับเรื่องประมาณนี้มาหลายต่อหลายครั้ง

แต่ในตอนนี้ถ้าเธอพูดแบบนั้นออกไป เกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อเธอ

ไม่ต้องพูดถึงเมื่อก่อนกู้ฉางซินเป็นคนอย่างไร แค่คำพูดของเฟิงจิ้งหยวนเมื่อครู่ก็ทำให้เธอไม่รู้จะโต้แย้งอะไรได้อีก

สีหน้าของกู้ฉางฉิงแลดูแย่มาก

เมื่อเฟิงจิ้งหยวนเห็นเข้า แววตาก็เปล่งประกายด้วยความพอใจ

ลู่ซือหยี่ที่ยืนมองดูอยู่นอกฝูงชนก็รู้สึกเหมือนได้ระบายอารมณ์

ปล่อยให้นังสารเลวคนนี้แสดงความหยิ่งทะนงต่อหน้าเธอไปเถอะ อยากจะดูนักว่าคราวนี้เธอจะพลิกเอาตัวรอดได้อีกไหม

“ทำไมเงียบล่ะ กู้ฉางซิน เธอไม่คิดว่าควรจะอธิบายอะไรให้พวกฉันและทุกคนฟังหน่อยเหรอ? ตอนนี้หน้าของตระกูลเฟิงถูกเธอทำลายป่นปี้แล้ว!”

เฟิงจิ้งหยวนขยับเข้ามาใกล้อีกอย่างไม่เต็มใจ

กู้ฉางฉิงมองไปที่เธอ จากนั้นก็มองดูคนรอบข้างที่จับจ้องอยู่ที่เธอ ริมฝีปากแดงเม้มแน่นแล้วพูดว่า “ฉันบอกแล้ว ฉันไม่ได้เป็นคนเอาไป”

เฟิงจิ้งหยวนหัวเราะเยาะออกมา “ฉันยังคงพูดคำเดิม ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนเอาไป แล้วทำไมของถึงได้อยู่ในกระเป๋าของเธอ?”

กู้ฉางฉิงเงียบ

คุณนายเฟิงที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ ก็ระเบิดโพล่งออกมาด้วยความโกรธ

“ช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริง ๆ รู้สึกคิดผิดที่ให้จิ่งเหยาแต่งกับคนอย่างเธอ!”

เธอกัดฟันแช่งด่า

แม้ว่าเสียงจะไม่ดัง แต่คนที่อยู่ใกล้ก็ยังได้ยิน

กู้หงเซินยืนโกรธขึ้งอยู่อีกข้าง

เขาจ้องมองกู้ฉางฉิงด้วยความโกรธ ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะตบนังเด็กนี่สักที

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

อีกทั้งเขายังต้องเข้าไปปกป้องเธอ

เพราะผู้หญิงคนนี้อยู่ในฐานะของฉางซิน เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ทำลายฉางซินได้

“แม่สามี เรื่องนี้ต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดแน่ ๆ ฉางซินจะขโมยของได้อย่างไร?”

เขาพูดจาประนีประนอม อยากจะให้เรื่องนี้จบ ๆ ไป

“เรื่องนี้เราค่อยตรวจสอบกันภายหลังดีกว่า ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าก็คืองานเลี้ยง อย่าให้สิ่งเล็กน้อยมากระทบอารมณ์ของทุกคนเลย”

เฟิงจิ้งหยวนได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงเย็นชาว่า “มีข่าวลือว่าคุณกู้เอ็นดูหลานสะใภ้อย่างมาก ตอนนี้ฉันได้เห็นกับตาแล้วว่าคุณกู้นั้นตามใจจนไม่มีขอบเขต กู้ฉางซินทำเรื่องลักเล็กขโมยน้อยเช่นนี้ คุณไม่เพียงแต่ไม่มีคำอธิบายอะไรให้เรา แถมยังคิดจะปกป้องเธออีก หรือกฎหมายจะไม่อยู่ในสายตาของคุณกู้คะ?”

กู้หงเซินสำลักกับคำพูดของเธอ ใบหน้าที่ฝืนยิ้มอยู่ก็หดลงทันที

“คุณหนูห้ากล่าวแรงเกินไปแล้ว”

เฟิงจิ้งหยวนหรี่ตาลง “แรงเกินไปตรงไหน น้ำตาสาวงามนี้มีมูลค่าในตลาดมากกว่าห้าล้านหยวน แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับความผิดฐานลักทรัพย์ และอาจมีโทษจำคุกมากกว่าสิบปีก็ได้ แต่ฉันไม่เห็นว่าคุณกู้จะสนใจ หรือว่าคุณกู้จะจัดการเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว”

เมื่อพูดจบ เธอก็มองไปที่กู้ฉางฉิงอย่างเย้ยหยัน นัยว่ากู้ฉางฉิงเป็นโจรลักขโมย

กู้หงเซินโมโหจนพูดไม่ออก ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ

เมื่อคุณนายเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นว่าได้เวลาพอสมควรแล้ว ก็เดินออกมาและกล่าวว่า “คุณกู้ ถึงแม้จิ้งหยวนจะพูดจาไม่น่าฟังไปบ้าง แต่มีคําพูดหนึ่งที่เธอพูดได้ไม่เลว เรื่องลักเล็กขโมยน้อยเช่นนี้แม้จะไม่ใช่ความผิดอะไรใหญ่โต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับได้ ตระกูลเฟิงไม่สามารถยอมรับลูกสะใภ้ที่มือไม้ไม่สะอาดเช่นนี้ได้”

“แม่สามี คำพูดนี้ของคุณหมายความว่าอะไร?”

เมื่อกู้หงเซินได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกไม่ดี จึงรีบถามขึ้น

กู้ฉางฉิงก็หน้าเปลี่ยนสี

เห็นได้ชัดว่าเธอเข้าใจถึงความหมายในคําพูดนี้ของคุณนายเฟิง

นี่คือต้องการไล่เธอออกจากบ้านตระกูลเฟิง

ทั้งที่อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย

เธอรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด

ด้านคุณนายเฟิงก็พร้อมที่จะประกาศการตัดสินใจของเธอออกมา

และในตอนนั้นเอง เฟิงจิ่งเหยาที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงได้เดินเข้ามา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

คุณนายเฟิงเห็นเขาเข้าก็ขมวดคิ้ว

ก่อนที่เธอจะตอบ เฟิงจิ้งหยวนที่อนรนทนไม่ได้ก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา

“จิ่งเหยา เธอกลับมาก็ดีแล้ว กู้ฉางซินได้ขโมยน้ำตาสาวงามของเฉาเกอไป และพี่สะใภ้กำลังจัดการกับเรื่องนี้”

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาได้ยินดังนั้นก็มองไปที่กู้ฉางฉิงพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด

เมื่อกู้ฉางฉิงเห็นแล้วก็อยากที่จะอธิบาย

แต่ก่อนที่คำพูดจะได้ออกจากปาก กู้หงเซินก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“จิ่งเหยา เป็นไปไม่ได้ที่ฉางซินจะทำเรื่องแบบนี้ คุณรีบพูดอะไรกับคุณแม่หน่อย เธอกำลังจะไล่ฉางซินออกจากบ้านแล้ว”

เฟิงจิ่งเหยากวาดตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วหันมามองแม่ของตัวเอง

คุณนายเฟิงก็ไม่หลบเลี่ยงสายตาของเขาและพูดว่า “จิ่งเหยา แม่รู้ว่าลูกมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉางซิน แต่ฉางซินนั้นเป็นคนที่สอนเท่าไหร่ก็ไม่เปลี่ยน เธอไม่เหมาะที่อยู่ร่วมชายคากับเรา ตระกูลเฟิงของเราไม่สามารถมีคนเช่นนี้ได้……”

เธอยังอยากที่จะตัดสินลงโทษกู้ฉางฉิง แต่ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาขัดจังหวะขึ้นอย่างเย็นชาเสียก่อน

“ใครบอกว่าเธอขโมยของกัน? เธอก็แค่รู้สึกว่าน้ำตาสาวงามนี้สวยดี ผมบอกไว้แล้ว ถ้าเธอชอบก็ให้ซื้อกลับไป ที่ผมออกไปข้างนอกก็เพื่อไปแลกเช็คห้าสิบล้านเพิ่มเข้าไปในกองทุนการกุศล ก็เพื่อให้เธอเอาสิ่งที่ชอบกลับไปได้!”

เขาโอบกู้ฉางฉิงไว้และเผชิญหน้ากับคุณนายเฟิงอย่างไม่เกรงกลัว

กู้ฉางฉิงเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทั้งตัวแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างโง่ ๆ

ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตกใจกับเงินก้อนโตของเฟิงจิ่งเหยา

“ที่แท้ประธานเฟิงก็ยอมทุ่มเงินมากมายเพื่อทำให้ภรรยามีความสุข”

“นั่นน่ะสิ นั่นน่ะสิ”

พวกเขาพูดชมแบบติดตลก

ด้านคุณนายเฟิงกับเฟิงจิ้งหยวนไม่คาดคิดว่าสุดท้ายเรื่องมันจะกลับตาลปัตรแบบนี้ พวกเธอตัวสั่นด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับเป็นการตบหน้าจิ่งหยา

ส่วนกู้หงเซินก็รู้สึกโล่งใจ

อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าผู้หญิงคนนี้จะถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลเฟิง และทำลายแผนการทั้งหมดของเขา!

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท