สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 132 นี่คือกำลังใช้อำนาจคุกคามฉันหรอ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เฟิงจิ้งหยวนได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าก็ไม่ดีเลย

โดยเฉพาะสายตาที่จ้องมองมาอย่างผิดปกติทุกทิศทาง ทำให้เธอทั้งอับอายทั้งโมโห

เธอจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมไปยังพนักงานเก็บเงิน

“รอก่อน!”

พูดจบ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาฝ่ายบริหารลูกค้าของธนาคาร

“คุณเฟิง นี่เป็นคำสั่งของประธารเฟิง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”

คนรับผิดชอบทราบถึงวัตถุประสงค์ในการมาของเฟิงจิ้งหยวน จึงรีบกล่าวเลี่ยง

เฟิงจิ้งหยวนไม่คาดคิดว่าเฟิงจิงเหยาจะอายัดบัตรธนาคารของเธอ

เธอวางสายโทรศัพท์อย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โทรศัพท์ไปหาเฟิงจิงเหยาทันที แต่ทว่าไม่มีคนรับ

เธอไม่ตายใจ ต่อสายโทรต่อไป ผลสุดท้ายก็เหมือนเดิม

เดิมทีพนักงานเก็บเงินก็รออยู่ เพียงแต่เห็นว่านานแล้วเธอก็ยังหาคนมาชำระเงินไม่ได้จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวเร่ง: “คุณผู้หญิง คุณยังอีกนานไหม ด้านหลังยังมีคนรอเช็คบิลอยู่ ถ้าหากไม่มีเงิน พวกเราก็จะจัดการแจ้งความต่อตำรวจ”

พนักงานเก็บเงินคนนั้นกล้ายกับว่าไม่รู้จักฐานะทางสังคมของเฟิงจิ้งหยวน กล่าวอย่างใช้อำนาจคุกคาม

“ใครไม่มีเงิน คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

เดิมทีเฟิงจิ้งหยวนก็โมโหเพราะเฟิงจิงเหยาปฏิเสธการรับสายโทรศัพท์อยู่แล้ว ได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของเธอ ก็ยิ่งโมโหยกใหญ่

เธอทำหน้าตากดขี่ข่มเหงต้องการแสดงฐานะทางสังคมของตัวเองออกมา แต่เธอก็อดกลั้นไว้

ไม่มีสาเหตุอื่นใด ถ้าหากเธอประกาศฐานะทางสังคมของตนเอง ไม่ใช่จะทำให้คนทั้งหมดรู้ว่าเธอคุณหนูที่ห้าของตระกูลเฟิงที่สง่างามออกมาดื่มเหล้าแล้วไม่มีเงินจ่ายอย่างนี้ นี่ไม่ทำให้คนหัวเราะจนฟันร่วงหรอ?

กำลังคิดอยู่ ทางด้านพนักงานเก็บเงินก็กระตุ้นขึ้นมา

“ฉันไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงเป็นใคร แต่ฉันรู้ว่าค่าเหล้าของคุณผู้หญิงยังไม่ได้ชำระเงิน”

เฟิงจิ้งหยวนได้ยินเธอเอ่ยเรื่องที่ตนเองไม่มีเงินอีกครั้ง ก็โมโหไม่หยุด

เพียงแต่เธอก็รู้ว่าเวลาเช่นนี้ไม่ใข่เวลาที่จะก่อเรื่องวิวาท เธอจ้องมองไปที่พนักงานเก็บเงินอย่างโหดเหี้ยม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เรียกเพื่อนมาชำระเงิน

คนทั้งสองชำระเงินเสร็จก็ออกไป ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครยอมอยู่สถานที่ที่น่าอับอายนาน

เฟิงจิ้งหยวนกลับมาถึงตระกูลเฟิงอย่างโมโหจนหายใจไม่ทัน

เธอมองแสงไฟที่สว่างไสวของบ้านหลังใหม่ พอนึกถึงที่ตนเองเสียหน้าเมื่อกี้ ความโมโหก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา

เห็นเธอก้าวเท้าเดิน ไปยังห้องโถงอย่างโมโหกระหืดกระหอบ

“คุณหนูที่ห้า”

พ่อบ้านเห็นเฟิงจิ้งเหยา จึงเรียกด้วยความเคารพนบนอบ

“เฟิงจิงเหยาล่ะ? เรียกเขาให้ออกมาพบฉัน!

เฟิงจิ้งหยวนเดินมุ่งตรงเข้าไปนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรับแขกแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

พ่อบ้านมองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ดี ขมวดคิ้วแล้วกล่าวตอบกลับว่า: “บ่ายวันนี้คุณชายออกไปทำธุระที่เมือง ถ้าหากคุณหนูที่ห้ามีเรื่องอะไรสามารถโทรหาคุณชายได้”

เฟิงจิ้งหยวนคาดไม่ถึงว่าเฟิงจิงเหยาจะออกไปทำธุระข้างนอก ในสายตาก็แปลกใจ เพียงแต่ถูกเธอยับยั้งไว้อย่างรวดเร็ว ความโมโหอย่างรุนแรงก็เข้าแทนที่

“เขาหนีไปอย่างรวดเร็ว!”

เธอกัดฟันพูด ในใจเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

ก็ไม่รู้ว่าเธอยั่วยุผู้ชายคนนั้นยังไง คาดไม่ถึงว่าจะอายัดบัตรธนาคารของเธอ

คิดถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงว่าเฟิงจิงเหยาไม่อยู่ นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีเงินใช้ต่อไป

เธอคิดถึงตรงนี้ ความรู้สึกอายและโกรธแฝงไปด้วยความกระวนกระวายใจ

“คุณชายพวกคุณบอกไหมว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“อันนี้คุณชายไม่ได้บอก”

พ่อบ้านกล่าวตอบกลับอย่างลังเลใจ เมื่อได้ยินเฟิงจิ้งหยวนโมโหอย่างกระหืดกระหอบ

เมื่อเธอลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะออกไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกู้ฉางซินหญิงชั่วคนนั้น

“คุณนายรองของพวกคุณล่ะ?”

เฟิงจิงเหยาชายคนนั้นไม่รับโทรศัพท์ของเธอ ก็ไม่ใช่จะไม่รับโทรศัพท์ผู้หญิงคนนั้นได้

“คุณนายรองอยู่ในห้อง คุณหนูที่ห้าต้องการพบคุณนายรองหรอ?”

พ่อบ้านถามอย่างลังเลใจเล็กน้อย

เฟิงจิ้งหยวนคล้ายกับว่าไม่ได้ฟัง โบกมือซ้ำๆบนโซฟา

“ไปเรียกคุณนายรองของพวกคุณลงมา บอกว่าฉันมีเรื่องจะพบเขา”

พ่อบ้านเห็นเช่นนี้แล้ว ก็ทำได้เพียงขึ้นไปชั้นบนแจ้งให้กู้ฉางชิงทราบ

“คุณอาเล็กต้องการพบฉัน?”

หลังกู้ฉางชิงทราบข่าว ก็ขมวดคิ้ว ในสายตาเต็มไปด้วยความงุนงง

โดยปกติแล้วเฟิงจิ้งหยวนกับเธอไม่ลงรอยกัน มาหาเธอดึกดื่นอย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องอะไร

เดิมทีเธอก็ไม่อยากพบ แต่ก็กังวลว่าคุณผู้หญิงคนนี้จะไปใส่ร้ายพูดเหลวไหลต่อหน้าคุณนายเฟิง ในที่สุดเธอก็ตามพ่อบ้านลงมาชั้นล่าง

“คุณอาเล็ก คุณจะพบฉัน”

เธอลงมาชั้นล่าง เห็นคนนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เลิกคิ้วกล่าวถาม

เฟิงจิ้งหยวนได้ยินเสียงก็เอียงหน้า ก็เห็นสวมเสื้อคลุมชุดนอนผ้าไหมแท้ บนใบหน้าสะอาดงดงามไร้ที่ติ

ลักษณะท่าทางที่ไม่มีความผิดนั้นดูแล้วในใจเธอเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ถ้าไม่ใช่มีเรื่องที่ต้องการเรียกผู้หญิงคนนี้ เธอก็อยากจะพูดสอนอย่างเต็มที่จริงๆ

“ใช่ ฉันจะพบคุณ คุณติดต่อเฟิงจิงเหยาตอนนี้ทันที ให้เขายกเลิกการอายัดบัตรธนาคารทั้งหมดของฉัน!”

กู้ฉางชิงได้ฟังคำพูดนี้ ในสายตาก็แปลกใจ

เฟิงจิงเหยาอายัดบัตรธนาคารคุณอาเล็ก?

เพราะอะไร?

เมื่อเธอกำลังเต็มไปด้วยความงุนงง เฟิงจิ้งหยวนพบว่าเธอไม่เคลื่อนไหวอยู่นาน จึงกล่าวเร่งรัดเธออีกครั้งว่า: “ฉันพูดคุณได้ยินไหม? ยังไม่ไปโทรศัพท์อีก”

กู้ฉางชิงดึงสติกลับมา เห็นท่าทีที่หยาบคายนี้ของเธอ ก็ไม่อยากจะช่วยเหลือ กล่างเลี่ยงว่า: “เรื่องนี้ฉันเกรงว่าจะช่วยคุณอาเล็กไม่ได้ จิงเหยาออกไปทำธุระข้างนอก อีกทั้งก่อนจะไปก็บอกไว้แล้วว่า คืนนี้มีการประชุมที่สำคัญมาก ไม่ต้องการห็ฉันรบกวน”

เฟิงจิ้งหยวนฟังคำพูดนี้แล้ว ก็ไม่เชื่อโดยสิ้นเชิง

“ฉันว่าคุณไม่อยากช่วยเหลือนะสิ ก็รู้อยู่ว่าคุณผู้หญิงคนนี้ใจแคบ ฉันจะบอกคุณให้ คืนนี้คุณไม่โทรฉันก็จะตบ!”

น้ำเสียงเธอใช้อำนาจคุกคาม

กู้ฉางชิงสีหน้าไม่สบายใจทันที

“คุณอาเล็กนี่คือใช้อำนาจคุกคามฉันหรอ?”

“ฉันใช้อำนาจคุกคามคุณแล้วเป็นยังไง? ถ้าไม่ใช่คุณผู้หญิงคนนี้พูดยั่วยุจิงเหยา จิงเหยาอยู่ดีๆจะอายัดบัญชีของฉันทำไม ต้อวเป็นคุณแน่ๆที่ใส่ร้ายฉันต่อหน้าจิงเหยา!”

กู้ฉางชิงฟังคำพูดของเธอ อยากจะหัวเราะจริงๆ

ถึงอย่างไรเรื่องเหล่านี้ก็ยังไม่จบสิ้น

เฟิงจิ้งหยวนยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห โดยเฉพาะคือนึกถึงแผนการกระทำครั้งนี้ที่ล้มเหลว ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่ขายหน้าเมื่อเย็น ตำหนิกล่าวโทษที่กู้ฉางชิงไม่เหลือหลอ คำพูดอะไรที่ไม่เข้าหูล้วนนำมาพูดกับเธอ

เธอเห็นชุดคลุมชุดนอนผ้าไหมแท้บนตัวกู้ฉางชิง คล้ายกับนึกอะไรออก กล่าวดูถูกถากถางว่า: “กู้ฉางซิน จิงเหยาไม่อยู่บ้าน คุณชุดยั่วยวนแบบนี้ คงจะไม่คิดฉวยโอกาสจิงเหยาของพวกเราไปนัดพบกับชายคนรักของคุณนะ!”

กู้ฉางชิงฟังคำพูดเหล่านี้ของเธอ สีหน้าก็ยิ่งไม่น่าดู โมโหจนสั่นไปทั้งตัว!

ก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้าตบเฟิงจิ้งหยวนไปฉาดนึง

เสียง’เพี๊ยะ’ ชัดเจนอย่างมากในห้องรับแขก คนทั้งหมดไม่มีท่าทีตอบโต้

เฟิงจิ้งหยวนปิดหน้าตกตะลึงแล้วค่อยๆดึงสติกลับมา มองกู้ฉางชิงอย่างตะลึงงัน อีกไม่นานในสายตาก็เต็มไปด้วยความโกรธเดือดดาล

“นังหญิงชั่ว คุณกล้าตบฉัน!”

เธอตะโกนด้วยความโกรธ โผเข้าไปหากู้ฉางชิง

กู้ฉางชิงให้เธอทำสำเร็จซะที่ไหน หลบออกทันที

เพียงแต่ยังช้าไปก้าวนึง ได้รับบาดเจ็บถูกเธอคว้าเป็นรอยเลือด

เดิมทีเธอก็ข่มความโมโหเอาไว้ เวลานี้ก็ยิ่งโมโหถึงที่สุด ไม่สามารถเกรงใจได้อีกต่อไป

หลังจากเห็นว่าเธอหลบเลี่ยง ก็ยื่นเท้าข้างนึงออกมาทันที ตรงไปสกัดเฟิงจิ้งหยวนให้ล้มด้วยความโกรธ

ความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ ทำให้เฟิงจิ้งหยวนเสียสติ ตามไปตบตีกู้ฉางชิงพัลวันอย่างไม่สนใจใยดี

กู้ฉางชิงไม่ได้ไม่มีสติเหมือนกับเธอ เธอรับมืออย่างชำนาญ ก่อกวนเล็กๆน้อยๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้เฟิงจิ้งหยวนตกที่นั่งลำบาก

เหล่าคนรับใช้เห็นสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบเข้าไปไกล่เกลี่ย

เดิมทีเฟิงจิ้งหยวยไม่ได้ให้ความสนใจคนรับใช้เหล่านี้ เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้กู้ฉางชิงได้เห็นดี

พ่อบ้านเห็นสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบย้ายเฟิงจิ้งหยวนออก

“คุณหนูที่ห้า อย่าลืมสิว่าบัญชีของคุณยังถูกคุณชายของพวกเราอายัดอยู่ ถ้าหากคุณลงมือกับคุณนายรองของพวกเรา เกรงว่าทางด้านคุณชายนั้นจะไม่ยกเลิกการอายัดให้คุณง่ายๆ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท