กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ สะดุ้งตกใจ
“ขอโทษนะคะคุณจำคนผิดแล้วค่ะ”
เธอเสแสร้งยิ้มและตอบ
จี้ฟงหยุนขมวดคิ้ว สายตาจ้องมองไปที่กู้ฉางชิง
“ฉันจำไม่ผิดหรอก”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกแปลกๆ
เธอมองไปที่จี้ฟงหยุน ในขณะที่เธอกำลังจะปฏิเสธ จี้ฟงหยุนก็ได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉางชิง ฉันรู้ว่าเธอกำลังจะปฏิเสธ แต่ต่อให้เธอเปลี่ยนไปแค่ไหน ฉันก็ยังจำเธอได้”
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ กัดริมฝีปากและไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
จี้ฟงหยุนเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอพูด พูดต่อว่า: “ฉางชิง ฉันรู้ว่าเธอมีเรื่องจำเป็นต้องทำแบบนี้ ไว้ใจฉันเถอะฉันไม่บอกใครหรอก ขอเพียงแค่เธออย่าหลบหน้าฉัน”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปหากู้ฉางชิงหนึ่งก้าว
กู้ฉางชิงถอยออกโดยไม่รู้ตัว มองเขาด้วยความปวดหัว
สายตารู้สึกไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกมาก็ไม่จริง
“ฉันมีธุระ เชิญคุณตามสบาย”
เธอเลือกที่จะไม่ตอบและบอกลา
ยังไม่ทันให้โอกาสจี้ฟงหยุนได้พูด เธอก็หันหลังจากไป
จี้ฟงหยุนที่กำลังมองดูเธอจากไป ขมวดคิ้ว และยิ่งสงสัยมากขึ้นในใจ
เขาอยากรู้มากว่ากู้ฉางชิงกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมต้องใช้นามแฝงและยังทำเหมือนไม่รู้จักเขาอีก
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่าจี้ฟงหยุนสงสัยและอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ
เธอกลับเข้าไปในงานเลี้ยง กำลังมองหามู่จิน ทันใดนั้นก็ได้ยินบทสนทนาข้างๆทำให้เธอถึงกับหยุดชะงัก
“เอ้ะ นั่นใช่ประธานเฟิงจิงเหยาของเฟิงซื่อกรุ๊ปหรือเปล่า? ทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้?”
“ใช่จริงด้วย ทำไมถึงมาปรากฏที่นี่?”
“อะไรกัน? นี่พวกเธอยังไม่รู้หรอว่าเฟิงจิงเหยาเพิ่งก่อตั้งบริษัทเสื้อผ้า ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮอตฮิตในโซเซียล ดูแล้วเขาน่าจะมาทำงานร่วมกับRCล่ะมั้ง แต่มีเรื่องอื้อฉาวแบบนั้น คงส่งผลไม่ดีต่อบริษัทก่อตั้งใหม่แน่”
ทันทีที่คำนี้พูดออกไป คนไม่น้อยก็เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
กู้ฉางชิงไม่สนใจกับคำพูดของพวกเขา
ตาทั้งสองของเธอจ้องไปที่เฟิงจิงเหยาที่กำลังเดินเข้ามาจากประตู
แม้ว่าจะเป็นแค่ชุดสูทสีดำธรรมดาไม่เปลี่ยน แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาไร้ที่ติและมีออร่าที่ไม่มีใครเทียบได้ โดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมาย ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาไปได้
เธอรอให้ผู้คนรอบๆเฟิงจิงเหยาเดินออกไปหมดเธอจึงค่อยเดินไปหา
“เธอมาได้ยังไง? บอกว่ากลับมาไม่ทันไม่ใช่หรอ?”
เฟิงจิงเหยามองดูผู้หญิงสดใสที่อยู่ตรงหน้าดวงตาเต็มไปด้วยความดีใจ บอกได้เลยว่าเธอมีความสุขมากที่เขามา
แต่ความจริงเขาคงไม่บอกกู้ฉางชิงหรอกว่าที่รีบกลับมาก็เพราะเธอ
“มันเป็นเรื่องของบริษัท ฉันเองก็ควรมาเจอคนที่รับผิดชอบงานสิ”
เขาตอบกลับห้วนๆ ทำให้กู้ฉางชิงรู้สึกผิดหวัง
เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้รีบกลับมาเพื่อมาหาเธอ
เฟิงจิงเหยาสังเกตเห็นแววตาที่ผิดหวังของเธอ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
เขาเองก็ไม่ใช่คนที่อารมณ์ดีนัก
เขามองไปที่รอบๆ สังเกตเห็นใบหน้าของกู้ฉางชิงค่อยๆแดงขึ้น ขมวดคิ้วและถาม: “เธอดื่มเหล้าหรอ?”
กู้ฉางชิงอึ้งไปสักครู่ ตอบกลับเบาๆว่า: “ดื่มแล้วนิดนึง”
เฟิงจิงเหยาขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ ก็เปลี่ยนเรื่องและพูดขึ้นมาว่า: “ฉันจะพาเธอไปหาคุณมู่”
เฟิงจิบเหยาไม่ปฏิเสธและเดินตามเดินไป
กู้ฉางชิงพาเขาเดินตรงไปทางที่มู่จินอยู่
ในเวลาเดียวกัน จี้ฟงหยุนเองก็เดินออกมาจากทางเดินพอดี
เขากำลังมองหาตัวกู้ฉางชิง ก็หันไปเห็นกู้ฉางชิงกำลังอยู่กับชายรูปหล่อ คิ้วขมวดทันที
แต่ทางนี้ กู้ฉางชิงพาเฟิงจิงเหยามาอยู่ตรงหน้ามู่จินแล้ว
“คุณมู่ นี่คือประธานของบริษัทเรา เฟิงจิงเหยา”
เธอพูดจบ ก็หันกลับมาที่เฟิงจิงเหยาและพูดว่า: “ท่านประธาน คนนี้คือดีไซเนอร์มู่จินของRC และเป็นผู้รอบผิดชอบงานครั้งนี้”
เมื่อเธอพูดจบ ผู้ชายทั้งสองคนก็เริ่มสนทนา
“ประธานจิง เป็นเกียรติที่ได้เจอ”
“คุณมู่ก็เกรงไป”
แล้วทั้งสองคนก็คุยเรื่องข้อตกลงการทำงานร่วมกัน
กู้ฉางชิงที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ เวลาไม่นานก็รู้สึกเวียนหัวเพราะเธอเริ่มรู้สึกเมา
แต่เธอก็อดทนไว้ ไม่อยากให้เฟิงจิงเหยารู้
“เวียนหัวหรอ?”
เขาถามด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่พูดจบมู่จินหันมามองพอดี
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ พยักหน้าและตอบว่า: “นิดหน่อยค่ะ”
เฟิงจิงเหยาเห็นเช่นนี้ ก็หันไปบอกอำลากับมู่จิน
เขาพยุงกู้ฉางชิงและเดินออกไป ไม่คาดคิดเหลือบไปมองเห็นจี้ฟงหยุนทำให้เขาหยุดนิ่ง ใบหน้าก้มลง
กู้ฉางชิงเห็นเขาหยุดกระทันหัน มองเขาด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรอ?”
เฟิงจิงเหยาลดสายตาลงและมองเธออย่างลึกซึ้ง
“ไม่มีอะไร”
พูดจบเขาก็พากู้ฉางชิงจากไป
กู้ฉางชิงมองไปสีหน้าที่เย็นชาของเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีอะไร
ในระหว่างทางกลับ เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันจากตัวผู้ชายคนนี้
“เฟิงจิงเหยา เธอโกรธอะไรอยู่หรือเปล่า?”
เธอรู้ว่าเฟิงจิงเหยากำลังโกรธ แต่ไม่รู้ว่าโกรธเพราะเรื่องอะไร
เฟิงจิงเหยามองเธอด้วยสายตาเย็นชา และไม่สนใจเธอ
กู้ฉางชิงเบ้ะปากและจะไม่ถามอีก หันหน้าไปทางนอกหน้าต่าง
เฟิงจิงเหยาเห็นท่าทางของเธอ แววตายิ่งเห็นชัดขึ้น
ทั้งสองคนไม่คุยกันเลยตลอดทางจนถึงบ้านเฟิง
ในขณะนั้นเหล้าที่เธอดื่มไปก็ออกฤทธิ์ เธอลงจากรถด้วยความมึนมัว เวียนไปทั้งหัว
“เธอเป็นอะไรไหม?”
เฟิงจิงเหยาขมวดคิ้วและถามออกมาโดยไม่รู้ตัว
กู้ฉางชิงสะบัดมือเขาออก เพราะไม่พอใจที่เขาไม่สนใจตอนอยู่บนรถ พูดออกมาด้วยความโกรธ: “เธอโกรธอยู่ไม่ใช่หรอ ไม่ต้องมายุ่ง”
พูดจบ เธอก็เดินเซไปมาเข้าไปในบ้าน กะว่าจะขึ้นไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อน
เฟิงจองเหยามองดูเธอที่กำลังเข้าบ้านไม่กระพริบตา ไม่พูดอะไรและเดินตามเข้าไป
กู้ฉางชิงรู้ว่าเขาเดินตามอยู่ข้างหลังแต่ไม่ได้สนใจ
เธอจับราวบันไดขึ้นไป ไม่รู้ว่าเพราะเร่งรีบเกินไปหรือเปล่าทำให้เธอไม่ระวังสะดุดบันไดและล้มไปข้างหลัง
“โอ้ยย”
เธอตะโกนออกมา และคิดว่าตัวเองไม่รอดแน่
ถ้าเกิดล้มลงไป ต้องหัวแตกแน่ๆ
ในขณะที่เธอหลับตาเพื่อเตรียมรับความเจ็บปวดถ้าล้มลงพื้น ทันใดนั้นก็มีมือยื่นเข้ามาโอบเธอไว้
“เดินระวังหน่อยได้ไหม?”
เฟิงจิงเหยาคว้าเธอไว้ ขมวดคิ้วและมองไปที่คนในอ้อมกอด
กู้ฉางชิงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะและได้สติกลับมา
“ขอบคุณนะ”
ถึงแม้จะไม่พอใจกับน้ำเสียงของเขา แต่ก็ยังพูดขอบคุณกับเขา
พูดจบ เธอดิ้นจะไป แต่เฟิงจิงเหยากลับไม่ปล่อยให้เธอไป
“ปล่อยฉัน”
กู้ฉางชิงพยายามดิ้นแต่ก็ไม่มีประโยชน์ ขมวดคิ้วและมองไปที่ผู้ชายตรงหน้า
เฟิงจิงเหยาถาม: “เธอแน่ใจ?”
กู้ฉางชิงอึ่งไปสักครู่ เธอยังไม่เข้าใจทำไมถึงถามแบบนี้ แต่ก็พยักหน้า
“แน่ใจ”
เมื่อเธอพูดจบ เฟิงจิงเหยาค่อยๆปล่อยมือ
กู้ฉางชิงไม่ได้เตรียมตัวและลืมดูสถานการณ์ของตัวเองตอนนี้
แรงโน้มถ่วงทำให้เธอจะล้มไปข้างหลังอีกครั้ง ด้วยสัญชาตญาณแล้วเธอรีบดึงกลับไปในอ้อมกอดของเฟิงจิงเหยา