เฟิงจิงเหยามองดูเธอที่กำลังตกใจในอ้อมกอดเขา ใจที่กำลังตกใจก็โล่งลง
“ยอมให้ฉันแล้วหรอ หืม?”
เขาพูดกระซิบเบาๆที่ข้างหูกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงได้รับลมหายใจอ่อนๆของเขา รู้สึกแน่นนิ่งไปทั้งตัว
แก้มที่แดงระเรื่ออยู่แล้วกลับแดงเพิ่มอีกด้วยความเขิน ราวกับแอปเปิ้ลที่สุกงอมมีความหวานหอมน่าหลงไหล ทำให้คนอดไม่ได้ที่อยากจะกัดชิมสักคำ
เฟิงจิงเหยาเห็นเช่นนี้ถึงกับกลืนน้ำลาย
สายตาเขาจ้องมองและก้มลง ทันใดนั้นก็อุ้มเจ้าหญิงกู้ฉางชิงขึ้นมา
กู้ฉางชิงสะดุ้งตกใจ และรีบกอดคอและไหล่ของเขาด้วยสัญชาติญาณ
“เธอทำอะไรหนะ?”
“ก็อุ้มเธอไปห้องไง ไม่งั้นเธอก็ล้มหัวฟาดหรอก คืนนี้พวกเราก็คงไม่ต้องนอน ไปโรงพยาบาลเลยดีกว่า”
เฟิงจิงเหยาพูดติดตลก
กู้ฉางชิงทั้งอายทั้งรำคาญแต่ก็โต้แย้งไม่ได้
ตอนนี้เธอเองก็เวียนหัว ถ้าปล่อยให้เดินขึ้นไปเองอาจจะทำให้ตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาลจริง
ด้วยความที่ว่าได้แรงงานฟรีไม่ต้องทำอะไรเขาก็ดูแลอย่างดี เธอจึงวางใจและปล่อยตัวลงในอ้อมกอดของเฟิงจิงเหยา
เฟิงจิงเหยารู้สึกถึงความเปลี่ยนไปของเธอ สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สายตาที่เย็นชาก็ค่อยๆหายไป
กู้ฉางชิงไม่สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสายตาเขา เธออยู่นิ่งๆในอ้อมกอดของเฟิงจิงเหยา ฟังเสียงเต้นของหัวใจเขา ความคิดค่อยๆจางหายไป
ยิ่งเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเฟิงจิงเหยา ทำให้ใจเธอราวกับว่าถูกอะไรทิ่มแทง
ในขณะที่เธอกำลังนิ่งอึ้งก็ถึงห้องนอนพอดี
เฟิงจิงเหยาไม่ได้อุ้มเธอไปที่เตียงแต่กลับพาเธอไปที่ห้องอาบน้ำ
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติจนกระทั่งถูกวางลง
“ทำอะไรของเธอ?”
เธอนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำและมองเฟิงจิงเหยา
“ก็เธอยินยอมเองไม่ใช่หรอ ฉันกำลังจะร่วมกับเธอไง”
เฟิงจิงเหยามองดูเธอด้วยสายตาชั่วร้าย ในขณะเดียวกันก็เปิดฝักบัวที่อยู่บนหัวพวกเขา
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็เปียกชุ่ม กู้ฉางชิงได้สติกลับมาเสื้อผ้าก็ถูกเฟิงจิงเหยาถอดออกหมด และเขาเองก็ไม่รู้ว่าเข้ามาที่ห้องน้ำเมื่อไหร่
“เฟิงจิงเหยา!”
กู้ฉางชิงกรีดร้องด้วยความอายและรำคาญ มือทั้งสองปิดเรือนร่างที่ออกมา แต่เธอไม่รู้ว่าถึงทำแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เฟิงจิงเหยามองดูผิวขาวนวลของเธอ ไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่ ใบหน้าแดงขึ้นทีละนิดภายใต้แสงที่มึดมน
“เธอดื่มเมาแล้ว ฉันจะช่วยเธออาบน้ำ”
เธอพูดออกมาด้วยความเสียงแหบ
“ใครขอให้เธอช่วย ออกไป!”
กู้ฉางชิงไม่เข้าใจความปรารถนาในแววตาเขา ใจเต้นแรง แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองอยู่แบบนี้ได้ กรีดร้องออกมา
แต่ว่าก็ไม่มีผลอะไรกับเฟิงจิงเหยา
เขาไม่สนใจแม้ว่ากู้ฉางชิงจะปฏิเสธ ราดน้ำใส่กู้ฉางชิงและเอามือลูบไปทั่วร่างกายกู้ฉางชิง
ตอนแรกกู้ฉางชิงยังต่อต้าน หลีกหนี แต่เขาก็แกล้งหยอกทำให้กู้ฉางชิงค่อยๆเคลิ้มตาม
เธอเม้มริมฝีปาก สายตาพร่ามัว เฟิงจิงเหยาหยุดลูบไล้ตัวเธอและรีบอาบน้ำให้เธอทันที
ไม่ถึงสามนาที เขาก็ทำความสะอาดร่างกายของทั้งสองเสร็จ อุ้มกู้ฉางชิงกลับเข้าห้อง
เพราะว่าหลงเสน่ห์ เขาขอกับกู้ฉางชิงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กู้ฉางชิงก็ทำท่าเหนื่อยล้าออกมา เขาจึงปล่อยเธอไป
เขามองดูหญิงสาวที่หลับไปในอ้อมกอด แอบยิ้มมุมปากแล้วค่อยๆวางเธอลง จากนั้นก็ย่องออกจากห้องไปห้องทำงาน
เพราะว่าตอนค่ำเขารีบกลับมา ทำให้มีงานที่ยังไม่ได้เคลียร์อีกไม่น้อย
ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ เขาก็นึกถึงผู้ชายที่เจอในงานเลี้ยง หยิบโทรศัพท์และโทรหาชวี่ยี่
“ฉันอยากให้เธอตรวจสอบคนคนหนึ่ง”
เขาพูดจบ เขาก็อธิบายสั้นๆเกี่ยวกับรูปร่างจี้ฟงหยุนที่เขาเห็นคืนนี้
“ฉันรู้แล้ว”
ชวี่ยี่รับคำสั่ง หลังจากวางสายเขาก็เริ่มหาทันที
เฟิงจิงเหยามองดูสายที่เพิ่งวางไป ใบหน้าซีดไปทั้งหน้า
เขาอยากรู้มากว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงทำให้กู้ฉางซินต้องซ่อนตัวจากเขา
และเขาก็อยากรู้อีกว่า งานเลี้ยงในคืนนี้นอกจากกู้ฉางชิงไปร่วมงานแล้วยังมีจุดประสงค์อื่นอีกหรือเปล่า
สมมุติ……นัดเจอกับผู้ชายคนนั้น
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงจิงเหยาออกไปบริษัทแต่เช้า
ชวี่ยี่เห็นเขาก็รีบรายงานเรื่องที่ได้รับมอบหมายเมื่อคืน
“ท่านประธาน คนที่คุณให้หา หาเจอแล้ว“
เฟิงจิงเหยาขมวดคิ้วและถาม: “เขาเป็นใคร?”
“คือคุณชายของจี้ซื่อกรุ๊ป”
ชวี่ยี่ตอบตามความจริง เฟิงจิงเหยาได้ยินก็ขมวดคิ้ว
“เขากับกู้ฉางชิงเป็นอะไรกัน?”
“เออ……ท่านประธาน เท่าที่พวกเราตรวจสอบมา พวกเขาไม่มีอะไรลึกซึ้งต่อกัน วันนั้นเป็นครั้งแรกของเขาที่เข้าร่วมงานเลี้ยง”
เฟิงจิงเหยาได้ยินเช่นนี้ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างเย็นชา
“ครั้งแรก?”
เขาพูดฟังดูดีแต่ว่าในหัวก็คิดถึงภาพที่เห็นในวันนั้น
ดูจากปฏิกิริยาที่พวกเขามีต่อกันแล้วไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่เจอกัน
เขาคิดเช่นนี้แล้วก็สั่งให้ชวี่ยี่ไปตรวจสอบอีกครั้ง
ชวี่ยี่รับคำสั่ง เห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของท่านประธานเขาเองก็ไม่พูดอะไรมากและเดินจากไป
จะว่าไปแล้วทางกู้ฉางชิง เธอไม่รู้ว่าเฟิงจิงเหยากำลังตรวจหาข้อมูลของจี้ฟงหยุน
เธอเหนื่อยมาทั้งคืนนอนจนตื่นขึ้นเอง
เพราะว่าขาอ่อนแรง ขณะที่ลุกจากเตียงเกือบล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
“ไอ่คนระยำ”
เธอกัดฟันด่าเฟิงจิงเหยาด้วยความไม่พอใจ
ทั้งๆเป็นเขาเองที่ออกแรง แต่ทำไมความทรมานถึงมาตกที่ฉัน ไม่พอยังไปบริษัทสบายใจเฉย
ในขณะที่เธอพรึมพรำไม่พอใจ โทรศัพท์บนหัวเตียงก็ดังขึ้น
เธอเหลือบเห็นชื่อบนโทรศัพท์ รีบเก็บอารมณ์ไว้ในใจแล้วรับโทรศัพท์
“คุณมู่”
ใช่แล้ว คนที่โทรมาก็คือมู่จิน
“คุณกู้ตอนนี้ว่างไหม? ฉันอยากไปดูบริษัท และรวดเซ็นสัญญาเลย”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ก็ทำเหมือนว่ากำลังว่าง
นัดหมายสถานที่เจอกับมู่จิน วางสายและรีบไปแต่งตัว
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองคนก็เจอกันที่จุดนัดพบ
กู้ฉางชิงพามู่จินไปบริษัท
ที่บริษัท หลี่ม่านได้รับข่าวแต่แรกแล้วจึงให้พนักงานในบริษัททำตัวดีๆ
เมื่อคนมาถึง ออกมาต้อนรับที่หน้าประตูด้วยตนเอง
“คุณมู่ นี่คือผู้จัดการใหญ่ของเรา ผู้จัดการหลี่”
กู้ฉางชิงแนะนำหลี่ม่าน
มู่จินยื่นมือไปจับมือ หลังจากทักทายกันเสร็จทั้งสามคนก็เดินเข้าไปในลิฟ
พวกเขาไปที่แผนกออกแบบก่อน
“ทุกคนวางทุกอย่างในมือลงก่อน ขอแนะนำให้รู้จักกับมู่จินหัวหน้าออกแบบของแบรน์RC ต่อไปนี้ทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกัน การจะทำงานออกแบบต้องมีความคุ้นเคยกัน ทุกคนมาทำความรู้จักกันไว้”
หลี่ม่านปรบมือ เพื่อให้ผู้คนในแผนกออกแบบหยุดทำงานในมือ
ทุกคนจ้องมองไปที่มู่จิน สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
พวกเขารู้ว่าบริษัทกำลังจะร่วมมือกับRC แต่ไม่คิดว่าจะตกลงกันได้เร็วขนาดนี้
ในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมจะทักทาย มู่จินก็พูดออกมาก่อนด้วยความเกรงใจ: “ไม่ต้องทำให้มันวุ่นวายหรอกผู้จัดการ การทำงานร่วมกันครั้งนี้ฉันว่าให้คุณกู้เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดจะดีกว่า คนเยอะไปก็ไม่ดี จะว่าไปก็เป็นคุณกู้ที่เป็นคนเจรจาข้อตกลงแต่แรก ให้เธอดูแลงานนี้คนเดียวเถอะ ฉันเชื่อว่าผู้จัดการจะเข้าใจเหตุผลนี้ในสักวัน”