สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 185 ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงพูดประโยคนี้จบ ก็มองซูตี้ด้วยท่าทีแข็งกร้าว

ชวี่ชิงหยุนกับมู่ฉิงคงก็ตกใจกับท่าทีแข็งกร้าวของเธอ

โดยเฉพาะสิ่งที่เธอพูดกับพวกเธอเมื่อกี้นี้ ในเวลาเดียวกันทำให้พวดฝกเธอรู้สึกประหลาดใจแล้วก็คลายความโกรธลงไป

เพียงแต่ซูตี้มองตรงกันข้ามกับพวกเธอ

เธอโกรธมาก อย่างไรเสียเธอก็ไม่เคยรู้สึกว่าตนเองพูดอะไรผิด

“คุณเป็นบ้าอะไร ไม่ละอายใจที่บอกให้ฉันขอโทษหรือไง!”

เธอพูดจบก็ลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทบนเก้าอี้ แล้วเดินตรงออกไป

“ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมรับการจัดการของฉัน ฉันเห็นว่าความร่วมมือก็ไม่จำเป็นแล้ว พวกคุณชอบใครก็ไปหาเอาได้เลย”

กู้ฉางฉิงมองดูเธอจากไป สีหน้าบึ้งตึง ช่องอกขึ้นลงไม่สม่ำเสมอ เห็นได้ชัดว่าโกรธไม่เบา

มู่ฉิงคงเห็นเช่นนี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า : “นักออกแบบกู้ ตอนนี้คนไปแล้ว พวกเราจะทำยังไง?”

กู้ฉางฉิงไม่สนใจที่จะเรียกเธอ เม้มปากพูดว่า : “ทั้งหมดกลับไปทำงาน อะไรควรทำก็ทำ ฉันสามารถอธิยายกับบริษัททางด้านนั้นได้”

มู่ฉิงคงกับชวี่ชิงหยุนพยักหน้าแล้วออกจากห้องทำงานไป

พวกเธอออกไปแล้ว กู้ฉางฉิงก็จัดห้องทำงานให้เป็นระเบียบ

ไม่นานโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นมา เธอก็หยิบขึ้นมารับ

“ผู้จัดการแผนกกู้ มาที่ห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่ด้วย”

น้ำเสียงของหลี่ม่านดังขึ้นในโทรศัพท์

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็ไม่ได้เฉยเมย วางต้นฉบับในมือลงแล้วออกไปทันที

“ผู้จัดการใหญ่ คุณตามหาฉันหรอ?”

เธอเคาะประตูเข้าไปแล้วเอ่ยถาม

หลี่ม่านเห็นเธอ ก็ขมวดคิ้วถามทันที : “ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า พวกคุณกับนักออกแบRCท่านนั้นขัดแย้งกัน ตอนนี้คนอื่นเลิกท้วงติงแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?”

กู้ฉางฉิงได้ยิน แม้ว่าจะไม่รู้ว่าใครบอกเรื่องนี้กับผู้จัดการใหญ่ แต่ยังคงเล่าเรื่องราวอย่างละเอียดออกมา

“เรื่องนี้ฉันสามารถจัดการได้ แน่นอนว่า ฉันจะลองติดต่อสำนักงานใหญ่RC ดูว่าจะสามารถส่งนักออกแบบคนใหม่มาได้ไหม”

หลี่ม่านฟังคำพูดของเธอจบ ก็ขมวดคิ้วแน่น

“นีคุณเรียกว่าจัดการได้หรอ ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมา”

เธอตำหนิกู้ฉางฉิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทำให้กู้ฉางฉิงตกตะลึง ในแววตาเต็มไปด้วยความข้องใจสงสัย

หลี่ม่านเข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าเธอไม่เข้าใจ จึงอธิบายว่า : “ก่อนอื่น ความร่วมมือครั้งนี้ เราเป็นฝ่ายไปติดต่อมา คุณก็รู้อยู่แก่ใจ ด้านในนี้ยังมีมิตรภาพของตัวคุณเองเล็กน้อย ตอนนี้คุณไม่พอใจกับนักออกแบบที่ส่งมา ร้องขอให้เปลี่ยนคน คุณว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับบริษัทเรา? อันดับต่อมา ก่อนหน้าคุณก็พูดแล้วว่า ในการออกแบบของเราจริงๆแล้วมีข้อบกพร่องอยู่ เช่นนั้นนี่ก็เป็นปัญหาของเรา คนอื่นที่มาไกล เป็นไปไม่ได้ที่ยังจะต้องการแนะนำพวกคุณให้ออกแบบให้”

กู้ฉางฉิงได้ฟังเหตุผลที่ยืดยาวนี้ เพราะว่าอัดอั้นตันใจเลยไม่ได้คิด เพียงแค่ฟัง

หลี่ม่านเห็นว่าเธอไม่พูดนานๆ เดาว่าไม่มากก็น้อย งั้นท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่บอกให้เธอเกลี้ยกล่อมซูตี้กลับมา

กู้ฉางฉิงเพียงแต่โกรธเล็กน้อย ถึงแม้ว่าพวกเธอจะผิด แต่ซูตี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหา

เช่นนี้ต้องรีบไปหา กลับกันดูเหมือนว่าพวกเธอต้องไปขอร้องเธอ

เธอโกรธอยู่ในห้องทำงานเป็นเวลานาน จึงค่อยๆสงบลงมา ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้

กลับมาคิดอย่างถี่ถ้วน เธอก็พบว่าจริงๆที่ผู้จัดการใหญ่พูดก็ไม่ผิด

ลองเปลี่ยนความคิดดูแล้ว อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลที่ซูตี้จะโกรธ

ไม่ใช่ว่าประเมินค่าตัวเธอเองต่ำ การออกแบบของพวกเขากับซูตี้ยังมีความต่างเล็กน้อย อีกทั้งองค์ประกอบสไตล์การออกแบบก็แตกต่างกันมากเช่นกัน

ตัดสิ่งเหล่านี้ออกไป วันนี้เธอก็ใช้อารมณ์ในการทำงาน

นึกถึงสิ่งเหล่านี้ เธอก็ใจเย็นลงมา จึงวางแผนที่จะรวมแนวคิดการออกแบบของแบรนด์ใหม่ให้สอดคล้องกัน

ก็ด้วยเหตุนี้ ตอนเย็นเธอจึงอยู่ที่บริษัทเพื่อทำงานล่วงเวลา

ระหว่างนั้นเธอก็เหนื่อยล้าเล็กน้อย ก็เลยไปชงกาแฟให้ตัวเอง

เธอดูการปรับแต่งในคอมพิวเตอร์ ไม่แน่ใจว่าซูตี้จะยอมรับแผนงานนี้ไหม เธอก็เลยนึกถึงมู่จิ่น ก็เลยโทรไปเล่นๆ

“คุณมู่ โทรมาหาคุณตอนนี้ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของคุณใช่ไหม?”

“ไม่หรอก ตื่นแล้วและกำลังจะไปบริษัท คุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไรหรอ?”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็เลยบอกวัตถุประสงค์ที่ตนเองโทรมา

“ฉันอยากสอบถามเกี่ยวกับซูตี้คนนี้กับคุณสักหน่อย”

มู่จิ่นได้ฟังแล้ว ก็ไม่ได้ปกปิด เขาก็พูดออกมาให้เข้าใจ

“ซูตี้คนนี้ จะพูดยังไงล่ะ ชีวิตส่วนตัวถึงแม้ว่าจะดูไม่เป็นระเบียบ แต่เป็นคนที่จริงจังมากในการทำงาน โดยเฉพาะความปรารถนาในการออกแบบ ทีละเข็มทีละเส้น มีความเข้มงวดมากถึงมากที่สุด”

เขาพูดถึงตรงนี้ ก็หัวเราะเบาๆ : “ฉันเดาว่าด้านพวกคุณน่าจะมีการขัดแย้งกัน”

กู้ฉางฉิงก็อดหัวเราะไม่ได้ : “ใช่ ดังนั้นฉันจึงมาสอบถามจากคุณไง”

มู่จิ่นพูดโน้มน้าวอยู่สองสามประโยค จากนั้นทั้งสองก็วางสายไป

กู้ฉางฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องทำงานเคาะๆโต๊ะเหมือนสูญเสียบางสิ่งไป

ถึงแม้ว่าซูตี้คนนี้จะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่ว่าเหมือนอย่างที่มู่จิ่นบอกเช่นนั้น เธอมีศักยภาพอย่างนั้น มิเช่นนั้นเธอจะไม่สามารถนั่งตำแหน่งผู้จัดการแผนกของRCได้

เธอคิดถึงตรงนี้ พิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็แก้ไขแผนงานใหม่อีกครั้ง

เดิมทีก่อนหน้าเธอวางแผนจะปฏิบัติตามความคิดของซูตี้ ให้การออกแบบครบถ้วนทันสมัย แต่คำพูดของมู่จิ่นก็เตือนสติเธอ เมื่อก่อนซูตี้ออกแบบต่างประเทศมาตลอด ไม่รู้ว่าตลาดในประเทศกับต่างประเทศต่างกัน

องค์ประกอบคลาสสิกที่เป็นที่ชื่นชอบในประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีนี้ อาจจะไม่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศ แต่ทว่าในประเทศจีนนั้นไม่เหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นปารีสแฟชั่นวีคในปีเหล่านี้ หรือมิลานแฟชั่นวีคก็เช่นกัน สามารถเห็นมีองค์ประกอบที่คลาสสิกอยู่ นี่เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่ายังมีผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่เริ่มให้การยอมรับแล้ว

เธอจัดการข้อมูลเหล่านี้เสร็จ เธอก็ตรงไปยังโรงแรมที่ซูตี้พักอยู่ คิดว่าจะเอาให้เธอ

“คุณมาทำอะไร?”

ซูตี้เปิดประตู เห็นกู้ฉางฉิงยืนอยู่นอกประตู ฉับพลันสีหน้าก็ไม่ค่อยดีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“คุณซู เกี่ยวกับการขัดแย้งเมื่อตอนบ่าย ฉันคิดๆแล้ว อาจเป็นเพราะความคิดของเราต่างกัน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาจึงมีความแตกต่างกันมาก นี่คือฉันทำแผนงานขึ้นมาใหม่ ฉันหวังว่าคุณจะดูสักหน่อย”

เธอพูดจบ ส่งข้อมูลที่จัดให้เป็นระเบียบในมือไป

ผลคือซูตี้ไม่พูดอะไรรับมาพลิกดู แล้วโยนทิ้งไปพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า : “ฉันบอกแล้ว เรื่องนี้ฉันจะไม่สนใจอีก คุณก็อย่าเอาขยะอะไรมาให้ฉันดูเลย”

พูดจบ เธอก็ปิดประตูดัง’ปัง’ ใส่หน้ากู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงมองข้อมูลที่ทิ้งอยู่บนพื้น ก็ถอนหายใจ แล้วหยิบขึ้นมาใหม่

หากพูกว่าเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ เธอไม่ได้โกรธ นั่นคือเป็นไปไม่ได้

เพียงแต่ก่อนที่จะมา เธอเตรียมทำใจไว้แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าซูตี้จะโกรธขึ้นมา ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

จนปัญญา ท้ายที่สุดเธอทำได้เพียงไปหาผู้ช่วยของซูตี้เท่านั้น

“อ้ายเวย นี่เป็นแผนงานที่ฉันปรับปรุงใหม่ รอให้พรุ่งนี้ซูตี้หายโกรธแล้ว รบกวนให้เธอดูหน่อยนะ”

แม้ว่าผู้ช่วยที่ชื่ออ้ายเวยจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่ยังคงรับมา ถึงอย่างไรเธอยังคงมีเหตุผล

ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทไม่ใช่ว่าซูตี้บอกว่าไม่สนใจก็จะไม่สนใจ

กู้ฉางฉิงเห็นว่าเธอตอบรับแล้ว นี่จึงโล่งใจและจะออกไป

เธอเดินมาถึงหน้าประตูโรงแรม เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเฟิงจิงเหยาโทรมา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท