ลู่ซือหยี่ถูกมองจนตื่นตระหนก ใจก็รู้ว่าตนเองไม่สามารถอธิบายได้ ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมามลายหายไปหมดแล้ว
“คุณน้าหมิง คุณต้องเชื่อฉันนะ ว่าเป็นลูกของพี่จิ่งเหยา ฉันไม่ได้ทำอะไรกับผู้ชายคนนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน……”
เธอเดินหน้าอธิบาย ในเวลาเดียวกันก็ต้องการจะดึงรั้งคุณนายเฟิง ทว่าถูกคุณนายเฟิงหลบหลีกอย่างรังเกียจ
เธอมองคุณนายเฟิงด้วยความตกตะลึง ขยับปากกำลังจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็ถูกตัดบทด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“พอได้แล้ว เรื่องไร้สาระของพวกคุณก็ต้องมีขีดจำกัดนะ!”
นายท่านเฟิงนั่งบนที่นั่ง จับไม้ค้ำยันเคาะลงบนพื้นอย่างแรง : “ยัยหนูตระกูลลู่ ถึงแม้บางเรื่องฉันจะไม่ได้สนใจตลอดมา แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่รู้”
เขาพูดจบ กวาดสายตามองตระกูลลู่ทุกคนอย่างดุดัน ท้ายที่สุดก็จับจ้องไปที่ลู่ซือหยี่
“ตั้งแต่แรกคุณจงใจที่จะทำลายการแต่งงานของจิ่งเหยากับฉางซิน ตอนนี้ก็เป็นเรื่องเด็กในท้อง ฉันเห็นแก่เด็ก ก็เลยต้องอดทนต่อเรื่องวุ่นวายของพวกคุณไปพลางๆก่อน แต่ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด! พูดอีกอย่างหนึ่ง ตั้งแต่นี้ต่อไปทั้งสองตระกูลก็ไม่ต้องไปมาหาสู่กันแล้ว!”
คำพูดนี้ออกมา พ่อลู่แม่ลู่ก็แค่อยากต่อสู้คืนความยุติธรรมให้ลู่ซือหยี่ แต่ก็จำใจต้องเงียบไป
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้ เรื่องวันนี้ มันล้มเหลวจนแก้ไขไม่ได้แล้ว
ทันใดนั้น ก้นบึ้งหัวใจของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความไม่ยินยอม
วางแผนเรื่องราวมานานขนาดนี้ ในบัดดลก็ต้องการประสบความสำเร็จ แต่ทว่าก็พินาศลงในชั่วพริบตา ไม่มีใครยอมรับได้
แต่รับไม่ได้พวกเขาก็ต้องยอมรับ ถึงอย่างไรนายท่านก็พูดทิ้งไว้อยู่ที่นี่แล้ว
พูดได้ว่าเรื่องครั้งนี้พวกเขาคาดการณ์ผิดพลาด
พวกเขาไม่คาดคิดว่าเฟิงจิ่งเหยาจะทำเรื่องละเอียดถี่ถ้วนขนาดนี้
ต้องการทราบข้อมูลที่บันทึกของโรงแรมลี่จิ่งอินเตอร์เนชั่นแนล พวกเขาได้ลบไปแล้ว อีกทั้งคิดว่าทำแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยังคงไม่คิดว่าจะถูกเฟิงจิ่งเหยาจับได้
“อย่างที่นายท่านพูด ครั้งนี้เป็นพวกเราที่ก่อความวุ่นวาย”
ถึงแม้ว่าพ่อลู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่เพื่อรักษามิตรภาพระหว่างทั้งสองตระกูลไว้ ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด
ลู่ซือหยี่ได้ยินคำพูดของพ่อ ก็รู้ว่าจบสิ้นลงแล้ว เดินซวนเซถอยกลับ
เธอไม่ยอม ตาแดงมองไปที่เฟิงจิ่งเหยา รีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวเขาทันที
“พี่จิ่งเหยา ทำไมคุณถึงต้องทำกับฉันขนาดนี้”
เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างบ้าคลั่ง ถามอย่างเสียงหลงว่า : “ทำไมคุณถึงไม่ยอมให้โอกาสฉัน เห็นได้ชัดว่าเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ผูกพันธ์กันมานานหลายปีขนาดนี้ ทำไมถึงเทียบไม่ได้กับกู้ฉางซินแค่ไม่กี่เดือน?”
เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำถามที่น้ำเสียงเฉียบขาดของเธอ จึงขมวดคิ้วแน่น
เขากวาดสายตาไปที่แขนที่ถูกลู่ซือหยี่จับไว้ ก็สะบัดออกด้วยความสะอิดสะเอียน
“อย่าเอาเธอไปเปรียบเทียบกับคุณ คุณไม่สามารถเทียบได้หรอก อย่างน้อยฉางซินก็ไม่แผนสูงเช่นนี้เหมือนคุณ มีความประสงค์ต่ำๆไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล”
เขาพูดจบ ไม่มองลู่ซือหยี่เงยหน้าขึ้นกล่าวลานายท่านเฟิง
“คุณปู่ ในเมื่อเรื่องชัดเจนแล้ว บริษัทยังมีเรื่อง ฉันไปก่อนนะ”
พูดจบ เขาก็หันกลับออกไป
ลู่ซือหยี่ตกตะลึงเมื่อเห็นเขาจากไป สมองหวนคิดคำพูดของเขาเมื่อกี้นี้ คนทั้งคนก็เหมือนสูญเสียจิตวิญญาณไป
สองสามีภรรยาตระกูลลู่เห็นเช่นนี้ ก็ชัดเจนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไป มิเช่นนั้นก็จะทำให้สถานการณ์ของพวกเขาน่าอับอายยิ่งขึ้น
พ่อลู่บอกใบ้เจตนาแม่ลู่ ให้เธอประคองลู่ซือหยี่ จากนั้นจึงกล่าวลานายท่านเฟิง
“นายท่าน เรากลับก่อน”
นายท่านเฟิงไม่พอใจ ไม่พูดจา
พ่อลู่สีหน้าเคร่งขรึม ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรบอกใบ้ให้แม่ลู่ออกไป
หลังจากพวกเขาเดินออกไป นายท่านเฟิงก็ยืนขึ้นมาด้วยไม้ค้ำยัน
เขามองคุณนายเฟิงด้วยสีหน้าเย็นชา พูดสั่งสอนว่า : “ดูเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ต่อไปก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลลู่อีกต่อไป มิเช่นนั้นตระกูลดีๆจะต้องถูกทำลายด้วยมือของคุณ!”
คุณนายเฟิงถูกสั่งสอนจนแข็งทื่อไปทั้งตัว สีหน้ายิ่งไม่ต้องพูด ย่ำแย่ลงโดยฉับพลัน ไม่น่าดูจนถึงขีดสุด
นายท่านเฟิงก็ได้สนใจ สั่งสอนเสร็จ ก็ใช้ไม้ค้ำยันเดินตรงออกไปเลย
……
เวลาเดียวกันนี้ กู้ฉางฉิงที่กำลังรอข่าวคราวอยู่ที่บริษัทก็ได้รับโทรศัพท์ของเฟิงจิ่งเหยา
ชั่วพริบตาที่เสียงกริ่งดังขึ้น เธอก็กดรับ
“ผลตรวจออกแล้วใช่ไหม?”
เธอกล่าวถามอย่างอดใจไม่ไหว
ถึงเธอจะรู้ว่าเรื่องนี้มีกู้หงเซินเข้าร่วมไม่มีทางปล่อยให้แผนชั่วกลุ่มคนตระกูลเฟิงนั้นสำเร็จอย่างแน่นอน แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะถาม ฟังเฟิงจิ่งเหยาบอกกับเธอด้วยตัวเอง
“อื้ม ออกแล้ว เด็กกับฉันไม่ทีความสัมพันธ์กัน เด็กในท้องของลู่ซือหยี่เป็นลูกของคนอื่น”
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตได้ถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงของเธอ ค่อยๆยกริมฝีปากขึ้นแล้วเล่าเรื่องก่อนหน้านี้อย่างคร่าวๆรอบหนึ่ง
กู้ฉางฉิงฟังจบ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจริงๆ
เธอไม่นึกเลยว่าลู่ซือกยี่เพื่อให้ได้เฟิงจิ่งเหยา คาดไม่ถึงว่าจะทำเรื่องบ้าบอขนาดนี้
ยัดเยียดเด็กที่ตั้งครรภ์กับคนอื่นให้เฟิงจิ่งเหยา
เมื่อเธอนิ่งเงียบไป เฟิงจิ่งเหยาก็คาดเดาว่าเธอกำลังช็อก เม้มปากแล้วกล่าวว่า: “เรื่องนี้คุณไม่ต้องคิดมาก มันจบแล้ว”
กู้ฉางฉิงอืมเบาๆคำหนึ่ง รู้สึกไม่สบายใจและไม่ผ่อนคลาย
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว แล้วยังกล่าวปลอบโยนต่อว่า: “วางใจ นับแต่นี้ต่อไปจะไม่มีเรื่องเหล่านี้อีกแล้ว”
กู้ฉางฉิงตะลึงไปเล็กน้อย ปฏิกริยาของเฟิงจิ่งเหยานี้คือกำลังปลอบโยนเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
อันที่จริงเธอไม่ได้สนใจ แค่หดหู่เล็กน้อย
แต่เธอไม่คิดที่ตะบอกเฟิงจิ่งเหยา
“ฉันรู้”
เธอยิ้มตอบรับเบาๆ เฟิงจิ่วเหยาก็ฟังออกถึงความไม่เหมือนเดิมในน้ำเสียงของเธอ รู้ได้ว่าเธอปล่อยวางแล้ว ก็ไม่พูดอะไรอีก
“งั้นคุณก็ทำงานเถอะ ตอนเย็นฉันจะไปรับคุณไปทานอาหารด้วยกัน”
“โอเค”
พูดจบ คนทั้งสองก็วางสายโทรศัพท์แล้วก็ทำงานของตนเอง
ในเวลาเดียวกัน หลังสวนดอกไม้ตระกูลเฟิง
เฟิงจิ้งหยวนใบหน้าเคร่งขรึมนั่งเผชิญหน้ากับมู่เฉาเกอ
ตรงกันข้ามกับความโกรธของเธอ มู่เฉาเกอก็ชัดเจนว่าสบายอกสบายใจอย่างมาก
“ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณเฟิงยังเขื่อลู่ซือหยี่อยู่หรือเปล่า?”
เธอเม้มปากจิบชาอึกหนึ่ง จ้องมองเฟิงจิ้งหยวนอย่างกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม
เฟิงจิ้งหยวนเม้มริมฝีปากบางๆ กล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เชื่อเธอ ก็ไม่มีทางสนับสนุนคุณเด็ดขาด!”
เวลานี้ เธอรู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในห้องรับแขกเมื่อกี้นี้ ในใจก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติกลับมา
มู่เฉาเกอเห็นทาทีที่ต่อต้านของเธอ ไม่เพียงแค่ไม่โกรธ แต่กลับยิ้มขึ้นมา
“ตอนนี้ลู่ซือหยี่หมดอำนาจแล้ว คุณจะสนับสนุนฉันมีอะไรไม่มีหรอ? หรือจะบอกว่า คุณชอบกู้ฉางซินมากกว่า?”
เธอพูดถึงตรงนี้ ก็หนี่ตาเล็กน้อย: “ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ฉันจำได้ว่าคุณกับเธอไม่ลงรอยกันมาโดยตลอด”
เฟิงจิ้งหยวนฟังคำพูดของเธอ รู้ว่านี่คือเธออยากจะพูดโน้มน้าวตนเอง
เพียงแต่……
“มู่เฉาเกอ คุณไม่ต้องมายั่วโมโหฉัน ไม่มีประโยชน์ สนับสนุนเธอกับลงรอยกับเธอมันคนละเรื่อง
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส ตอบรับมู่เฉาเกอ
มู่เฉาเกอเลิกคิ้ว หัวเราะเบาๆทีหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแสว่า: “ถึงแม้ว่านี่จะเป็นคนละเรื่อง แต่ฉันเชื่อว่า คุณจะสนับสนุนฉันมาโดยตลอด……….”
เฟิงจิ้งหยวนคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้หลังจากที่เธอปฏิเสธ ยังจะพูดอย่างมั่นใจในตัวเอง ในทันใดก็หงุดหงิดและสับสนเล็กน้อย
เธอรู้ดีว่าแผนการของผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะเทียบได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเธอวางแผนคิดร้าย เธอจึงวางแผนที่จะออกไปก่อน