กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอเรียกรถกลับคฤหาสน์ไปก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวพักผ่อน
และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในสองสามวันมานี้ทำเธอล้าไปทั้งกายทั้งใจหรือไม่ ไม่นานเธอก็หลับไหลไป
กลางดึกเมื่อเฟิงจิ่งเหยากลับมาเห็นคนที่ไม่คิดอะไรหลับไปแล้ว ความรู้สึกไม่สบายใจก็กลับมาอีกครั้ง
แต่ว่าเขามันเป็นประเภทเงียบๆไม่แสดงออกอยู่แล้ว ดังนั้นเขาก็ทำได้เพียงแค่เก็บมันเอาไว้ในใจแล้วไปล้างหน้าพักผ่อน
วันถัดไป ในตอนที่กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเฟิงจิ่งเหยาก็เพิ่งตื่นเหมือนกันจึงทักทายออกไป
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เฟิงจิ่งเหยาเห็นยอมยิ้มบางๆบนหน้าเธอ ภาพแผ่นหลังสง่าผ่าเผยของเธอเมื่อวานก็แวบเข้ามาในหัว กำลังที่จะตอบกลับไปนั้น แต่ก็ครางอื้ออึงในจมูกตอบกลับไปเท่านั้น หลังจากนั้นคนใบหน้าเย็นชาก็เดินไปห้องแต่งตัว
กู้ฉางฉิงรับรู้ถึงความโกรธของเขา กลับไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไร ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ผู้ชายคนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆเลย
ทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารด้วยความเงียบ ทานเสร็จเฟิงจิ่งเหยาก็ออกไปบริษัท
กู้ฉางฉิงชำเลืองออกไปเห็นบรรยากาศข้างนอกกำลังดีก็วางแผนจะออกไปหาแรงบันดาลใจในการออกแบบสักหน่อย
ในขณะที่เธอกำลังเก็บกระดานวาดนั้นโทรศัพท์บนเตียงก็ดังขึ้น เป็นโทรศัพท์จากบริษัทที่เรียกเธอไปประชุมเกี่ยวกับผลตัดสินเกี่ยวกับโทษของเธอ
ใบหน้าของกู้ฉางฉิงยังคงเรียบนิ่ง เรียกรถออกไปบริษัท
พอถึงบริษัท ยังคงมีเหล่าคนไม่ดีทั้งหลายนินทาเธอแต่เธอก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เดินมุ่งตรงไปห้องประชุมทันที
ณ เวลานี้ในห้องประชุมมีคนอยู่ไม่น้อยทีเดียว กู้ฉางฉิงเลือกที่นั่งค่อนข้างไกลออกไปหน่อย
ในอันดับแรก หลี่ม่านเหลือบมองกู้ฉางฉิงที่เข้ามาแล้วก็มองไปรอบๆห้องประชุม เมื่อเห็นว่าคนมาเกือบครบแล้วจึงปรบมือเพื่อให้ทุกคนเงียบลง
“เนื้อหาการประชุมหลักๆของวันนี้มีสามหัวข้อด้วยกัน”
เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพูดเนื้อหาการประชุม
“เรื่องที่กู้ฉางฉิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบตีนั้น จากการพูดคุยของผู้บริหาร ปลดออกจากตำแหน่งตอนนี้และลดตำแหน่งเป็นนักออกแบบทั่วไป และงานหลังจากนี้จะต้องถูกควมคุมดูแลจากผู้จัดการจี้ เธอไม่มีปัญหาอะไรนะ?”
พอถึงประโยคสุดท้าย หลี่ม่านก็หันไปมองกู้ฉางฉิง
แน่นอนกู้ฉางฉิงไม่มีทางออกความเห็นอะไรได้อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันในใจเธอก็รู้สึกตกใจอยู่พอสมควร
เดิมทีเธอคิดว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้บริษัทไล่เธอออกเลยก็ได้ แต่ว่าพอคิดไปถึงเฟิงจิ่งเหยา เดาได้เลยว่าที่เธอยังไม่ถูกไล่ออกผู้ชายคนนั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ
และพวกพนักงานคนอื่นๆก็ตกใจไม่ต่างกับกู้ฉางฉิง
แน่นอนว่าพวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
นั่นก็เพราะว่าเรื่องของกู้ฉางฉิงทำให้ผลงานการออกแบบของพวกเขาได้รับผลกระทบไปด้วย จนถึงขั้นที่ว่าต้องหยุดการขาย แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังคงได้ทำงานที่นี่ต่อไป
“เกินไปหรือเปล่า เสียหายขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่ไล่เขาออกอีกล่ะ!”
ชวี่ชิงหยุนเป็นคนแรกที่พึมพำออกมาอย่างไม่พอใจ ในห้องประชุมนี้เสียงของเธอดังพอที่จะทำให้ทุกคนได้ยิน
และสิ่งเธอพูดออกมาก็เหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้นักออกแบบคนอื่นๆแสดงความเห็นไม่พอใจออกมา
“ทำไมบริษัทถึงยกโทษให้ผู้หญิงคนนี้ด้วยหลายครั้งหลายหนด้วย ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”
“ไม่ยุติธรรมเกินไปจริงๆ ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
“หรือว่าผู้หญิงคนนี้ติดสินบนผู้จัดการหรือไง”
คำวิพากย์วิจารณ์เหล่านั้นยิ่งพูดก็ยิ่งออกทะเล จนหลี่ม่านมีสีหน้าที่เคร่งขรึม
เธอรู้ว่าการไม่อธิบายเหตุผลที่ดี ทำให้บรรยากาศในบริษัทในอนาคตนั้นไม่สงบแน่ๆ ดังนั้นจึงสาดสายตาไปมองกู้ฉางฉิงอีกครั้งแล้วพูดออกมาว่า “ที่บริษัทตัดสินใจออกมาแบบนี้ก็เพราะว่ากู้ฉางฉิงทำคุณงามความดีให้บริษัทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากพวกเธอมีความคิดเห็นอะไรสามารถไปแจ้งได้ที่สำนักงานใหญ่ เพราะผลการตัดสินใจนี้มาจากการพิจารณาของท่านประธาน ”
พนักงานคนอื่นๆที่ได้ยินแบบนี้ แม้ว่าจะไม่พอใจอยู่แต่ก็ต้องปิดปากอย่างจำยอม
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูดของหลี่ม่านเลยสักนิด
หลังจากประชุมเสร็จ พวกเขากดดันจนทิ้งความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายให้กู้ฉางฉิง
แม้แต่ชีเสี่ยวจิ่วก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เธอด้วยซ้ำ
กู้ฉางฉิงก็รับรู้ได้ทันทีแต่ก็ไม่ได้สนใจ เก็บของเพื่อที่จะกลับบ้านไปทำงาน
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครชอบบรรยากาศการทำงานแบบนี้อยู่แล้ว
ขณะที่เธอจะออกไปจากที่นี่ จู่ๆจี้อี้ก็ออกจากห้องทำงานมาเรียกเธอไว้
“ผู้จัดการแผนกจี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
กู้ฉางฉิงถามออกไปอย่างเย็นชา
จี้อี้กวาดสายตาที่คาดเดาไม่ได้ไปมองกู้ฉางฉิง พูดไปยิ้มไป”คืออย่างนี้นะ แผนงานสินค้าชิ้นใหม่ของฤดูใบไม้ร่วงมาแล้วน่ะ”
ได้ยินแบบนั้นกู้ฉางฉิงก็คิดไปว่าเขาคงจะมอบงานนั้นให้เธอ พยักหน้าแล้วพูดว่า”ทราบแล้วค่ะ ฉันจะส่งแบบร่างตามเวลาที่กำหนดค่ะ”
จี้อี้รู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังเข้าใจผิด พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันไม่ได้คาดหวังให้เธอทำคุณงามความดีอะไรหรอกนะ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ดึงทุกคนและบริษัทให้แย่ลง”
พูดไปแวบหนึ่งสายตาเหยียดหยามวูบไหวออกมา
“ถึงแม้ว่าเฟิงจิ่งเหยาจะปกป้องเธอในครั้งนี้ แต่ก็ไม่สามารถปกป้องเธอครั้งที่สองได้หรอกนะ ยังไงที่นี่ก็คือบริษัท ถ้าทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจมันจะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาของบริษัท”
กู้ฉางฉิงฟังเธอพูดจบก็ขมวดคิ้วแน่น
“ฉันไม่แน่ใจว่าแย่ลงที่คุณพูดถึงน่ะหมายความว่าอะไร ถ้าเอาผลงานมาพูดล่ะก็ ฉันก็มั่นใจในฝีมือมากอยู่”
แววตาโลดเต้นไปด้วยเพลิงมองไปยังจี้อี้ แต่จี้อี้ที่ฟังเธอพูดจบก็หัวเราะออกมา
“คุณนักออกแบบพูดแบบนี้ คงไม่รู้สินะว่าชื่อเสียงของคุณในสายงานมันฉาวโฉ่ขนาดไหน”
ทำเอาหน้ากู้ฉางฉิงชาไป ใบหน้าเปลี่ยนไปจากปกติ
สิ่งที่จี้อี้พูด เธอย่อมรู้อยู่แก่ใจ
เรื่องคืนนั้นสร้างผลกระทบให้เธอมากเลยทีเดียว ทำไมเธอจะไม่รู้
และยิ่งรู้เธอก็ยิ่งอยากใช้ผลงานของเธอมารับประกัน
ไม่ว่าจะเป็นกู้หงเซินก็ดี กู้ฉางซินก็ดี ก็ไม่สามารถมาขัดขวางการสร้างสรรค์ผลงานของเธอได้
เธอมีเป้าหมายที่ชัดเจน สายตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่มองไปที่จี้อี้ พูดอย่างหนักแน่น “ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ”
พูดจบ เธอก็ไม่สนใจว่าจี้อี้จะมีสีหน้ายังไง เพียงหมุนตัวเดินตรงออกไป
จี้อี้ทอดมองไปยังแผ่นหลังที่ห่างออกไป คิดกลับไปถึงแววตามุ่งมั่นเมื่อสักครู่ของเธอก็ขมวดคิ้วแน่น
แต่หลังจากที่กู้ฉางฉิงออกมากลับไม่ได้เรียกรถในทันที
เพราะว่าตอนที่ออกมาจากบริษัทก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้หงเซินพอดี
“เรื่องที่ฉันให้เธอทำก่อนหน้านี้ถึงไหนแล้วล่ะ?”
กู้ฉางฉิงได้ยินแบบนี้ก็กำโทรศัพท์แน่น
“ฉันเคยบอกไปแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ ที่นี่ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้สงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ฉันไม่สามารถหาเวลาไปพูดเรียกร้องอะไรเขาได้”
กู้หงเซินฟังจบก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่เขาสั่งให้ไปทำกู้ฉางฉิงนั้นไม่เคยทำตามเลย ใบหน้านั้นขรึมลงทันที
“เยี่ยมมาก”
เขาพูดสองคำนี้ออกมาอย่างเยือกเย็นแล้ววางสายไป
กู้ฉางฉิงจ้องไปที่โทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกังวลและสงสัย
ในความเข้าใจที่เธอมีต่อกู้หงเซินนั้นไม่ได้รับรู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา คนๆนี้ไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่
แต่เธอรอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ใดๆ
เธอค่อยๆเอาเรื่องนี้โยนออกจากหัวไป
ใครจะรู้ หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง เธอจะได้รับข้อความนึงที่ทำเธอทั้งตกใจทั้งโกรธ ดวงตาคู่นั้นแดงเหมือนโกรธแค้นราวกับจะฆ่ากู้หงเซินซะให้ได้
ในข้อความนั้นมีรูปแม่ของเธอที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย และยังพิมพ์ข้อความคุกคามเธออีก
ภายในสองชั่วโมงถ้าเธอไม่จัดการเรื่องนี้ซะ แม่ของเธอจะไม่ได้รับการรักษาใดๆจากโรงพยาบาลอีก