เมื่อกู้ฉางฉิงกลับไป ในร้านกาแฟเขตเมืองร้านหนึ่ง เฟิงจิ้งหยวนและมู่เฉาเกอนั่งเผชิญหน้ากัน
“คุณได้ยินมาแล้วใช่ไหม? นังชั่วกู้ฉางซินนั่นทะเลากับจิ่งเหยาแล้วหนีออกไปเมื่อคืนนี้”
เมื่อเห็นเฟิงจิ้งหยวนกำลังคนกาแฟอย่างอารมณ์ดีมาก
คำพูดของเธอจบลง มู่เฉาเกอก็ประหลาดใจ
“จริงหรอ?”
เธอไม่เชื่อเล็กน้อย มองมาที่เฟิงจิ้งหยวน
เฟิงจิ้งหยวนหันกลับมามองเธอ เลิกคิ้วพูดว่า : “ทำไม? คุณไม่เชื่อหรอ?”
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ ในที่สุดก็เชื่อ
เฟิงจิ้งหยวนพูดต่อว่า : “พูดจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นสามารถเสแสร้งแกล้งทำจริงๆ เพียงแต่เช่นนี้ก็ดี รอให้เธอเสแสร้งจนพอ ไม่ช้าก็เร็วจิ่งเหยาก็จะเบื่อเธอเข้าสักวัน”
เธอพูดจบ มองไปทางมู่เฉาเกอ
มู่เฉาเกอเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้ตอบกลับ
เฟิงจิ้งหยวนเบ้ปาก เร่งเร้าพูดว่า ทุกๆวันนี้คุณกับครอบครัวจิ่งเหยาของพวกเราอยู่ด้วยกันทั้งเช้าทั้งเย็น ก็ควรหาโอกาสใกล้ชิดให้มากๆ มิเช่นนั้นคุณอยากเข้าประตูตระกูลเฟิงของพวกเรา ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน”
มู่เฉาเกอได้ฟังประเด็นนี้ ก็ประหลาดใจเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามทัศนคติของเฟิงจิ้งหยวนที่มีต่อเธอไม่ได้เป็นเช่นนี้มาก่อน
เธอหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบหนึ่งทีอย่างใจเย็น จึงตอบกลับว่า : “ขอบคุณคุณเฟิงอย่างมากที่เตือน ฉันจะหาโอกาสให้มากๆ”
เฟิงจิ้งหยวนเห็นท่าทางที่ไม่รีบไม่ร้อนของเธอ รู้สึกว่าเธอไม่ได้ฟังคำพูดของตนเองเข้าไปเลย
หลังจากที่เธอนั่งอยู่สักพัก ก็เสนอตัวขอออกไป
รอเธอไปแล้ว มู่เฉาเกอก็ไม่ได้อยู่นาน ลุกขึ้นกลับไปที่เฟิงซื่อกรุ๊ป
เวลาบ่าย มู่เฉาเกอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาที่ตั้งใจทำงานอยู่ ในหัวก็อดคิดถึงคำพูดของเฟิงจิ้งหยวนที่นัดเธอออกไปเมื่อตอนเที่ยง
“จิ่งเหยา ตอนเย็นไปทานข้าวด้วยกันไหม พอดีจะได้พูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการด้วย”
เธอยิ้มอย่างเชิญชวน แต่ทว่าเฟิงจิ่งเหยาจ้องมองคอมพิวเตอร์ไม่มีการตอบกลับใดๆ
มู่เฉาเกอคิดว่าเฟิงจิ่งเหยาหมกมุ่นกับการทำงานมากเกินไป เลยไม่ได้ฟัง
แต่ไม่รู้ ที่เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองคอมพิวเตอร์ไม่ใช่ทำงานอยู่ แต่เป็นการเหม่อลอย
เห็นหน้าโฮมเพจคอมพิวเตอร์ของเขาแสดงเวปเพจของกู้ฉางฉิงที่ฟอร์รัมการออกแบบต่างประเทศอย่างน่าประทับใจ
และข่าวล่าสุดด้านบนคือการออกแบบใหม่ที่ส่งออกมาเมื่อไม่นานมานี้
การออกแบบนั้นเป็นชุดเสื้อผ้าบุรุษ ด้านบนมีองค์ประกอบจำนวนมาก มันดูมหัศจรรย์กว่าเสื้อผ้าสตรีที่กู้ฉางฉิงออกแบบก่อนหน้านี้เสียอีก
เหมือนสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับใคร
และภายใต้การออกแบบนี้ เป็นข่าวซุบซิบที่ได้รับการชื่นชม
“longกำลังมีความรักใช่ไหม? จู่ๆทำไมจึงเริ่มออกแบบเสื้อผ้าบุรุษล่ะ?”
“ใช่ ฉันก็รู้สึกประหลาดใจมาก”
“ฉันรู้สึกว่าคนด้านบนพูดถูกอย่างมาก โดยส่วนมากนักออกแบบหญิงจะเริ่มวาดรูปผู้ชาย ส่วนใหญ่คือกำลังมีความรัก”
“ฉันไม่สนใจว่าท้ายที่สุดlongกำลังมีความรักหรือเปล่า ฉันอยากทราบว่ารูปแบบนี้longได้อนุญาตให้เอาออกไปไหม?”
“เห็นด้วยกับด้านบน ถ้าlongไม่อนุญาตให้เอาออกไป บริษัทของเรายินดีจะคุยกับคุณเกี่ยวกับลิขสิทธ์นี้”
เฟิงจิ่งเหยาอ่านข้อความลงมาเรื่อยๆ จู่ๆอารมณ์ภายในใจก็อธิบายไม่ได้ ทำให้เขาพูดไม่ออกว่ารู้สึกอะไร
มู่เฉาเกอไม่รู้สิ่งเหล่านี้ เธอเห็นเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ตอบกลับ ลุกขึ้นเดินไปที่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเฟิงจิ่งเหยา
เธอเคาะโต๊ะ แล้วพูดอีกครั้ง : “จิ่งเหยา ตอนเย็นไปทานข้าวด้วยกันไหม?”
เฟิงจิ่งเหยาจึงได้สติกลับมา เงยหน้ามองมู่เฉาเกอ ในแววตามีความไม่เข้าใจ
“ทำไมหรอ?”
มู่เฉาเกอได้ยิน ก็ตกตะลึงเล็กน้อย เพียงแต่ยังคงพูดอีกครั้ง
“ตอนเย็นเราไปทานข้าวด้วยหกันเถอะ ถือโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการด้วย”
เฟิงจิ่งเหยาคิ้วขมวด ไม่รู้ทำไมสายตาจึงกวาดไปมองการออกแบบบนคอมพิวเตอร์ เม้มปากพูดว่า : “เย็นนี้ไม่ได้ ตอนเย็นฉันมีธุระนิดหน่อย จำเป็นต้องกลับไป”
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ ในแววตาก็ประกายความผิดหวัง แต่เธอก็ปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว
“โอเค งั้นพวกเราค่อยนัดกันครั้งต่อไป”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า
……
เลิกงานตอนเย็น เฟิงจิ่งเหยาเก็บของเล็กน้อย ก็ขับรถกลับตระกูลเฟิง
ขณะเดินทาง เขานึกถึงตลอดว่ากู้ฉางฉิงกลับมาแล้วหรือยัง
พอถึงบ้านใหม่ เขาก็ไม่ได้รีบขึ้นชั้นบน เรียกพ่อบ้านมากล่าวถาม
“คุณนายรองกลับมาแล้วหรือยัง?”
พ่อบ้านตอบกลับว่า: “คุณนายรองกลับมาแล้วครับ”
เฟิงจิ่งเหยาได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็โล่งใจทันที
เขาโบกมือให้พ่อบ้านออกไป และขึ้นไปชั้นบนเองคนเดียว
ใครจะรู้ว่า พอเขาเดินมาถึงห้อง ก็พบว่ากู้ฉางฉิงเก็บสัมภาระอยู่ด้านใน
“คุณกำลังทำอะไร?”
เขากวาดสายตามองกระเป๋าเดินทางที่ข้างเท้ากู้ฉางฉิง สีหน้าเศร้าลงไปเล็กน้อย
กู้ฉางฉิงได้ยินเสียงนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย
เธอเอียงหน้าไปมองเฟิงจิ่งเหยาทีไม่รู้ว่ามาปรากฎตัวที่หน้าประตูเมื่อไร จิตใจสงบอย่างมาก
“คุณกลับมาแล้ว”
เธอทักทายอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความห่างเหิน
เฟิงจิ่งเหยาฟังแล้ว ขมวดคิ้วแน่น กล่าวถามอีกครั้ง: “คุณเก็บข้าวของทำไม?”
หรือว่าเพราะคำพูดของเขาเมื่อวาน ผู้หญิงคนนี้จึงจะหนีออกจากบ้านไปด้วยความโกรธ
เขาคิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็วิตก
กู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดภายในใจของเขา แต่ก็สังเกตเห็นได้ว่าเขาไม่สบายใจสักเท่าไร
“มีการประชุมแลกเปลี่ยนของนักออกแบบที่ต่างประเทศ มู่จิ่นบอกให้ฉันไปเข้าร่วม ฉันอยากไปดูสักหน่อย ไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง”
ฉันตอบกลับเบาๆ สายตามองไปยังเฟิงจิงเหยาด้วยความสงบ: “นี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสหนึ่ง ฉันอยากจะฉวยเอาไว้ คุณให้ฉันไปได้ไหม?”
เฟิงจิ่งเหยาเห็นเธอปรึกษากับตนเองด้วยใบหน้าที่สงบ ไม่รู้ทำไม คำพูดที่เดิมทีอยากปฏิเสธแต่กลับพูดไม่ออก
แต่การตอบรับแบบนี้ เขาก็รู้สึกว่าระหว่างคนทั้งสองมีอะไรที่ขาดหายไป
เมื่อเขาเงียบ กู้ฉางฉิงก็เข้าใจเจตนาอีกฝ่ายผิด
“ถ้าคุณไม่เห็นด้วย งั้นก็ช่างมันเถอะ”
เธอพูดพลาง ก็นำสัมภาระที่เก็บเรียบร้อยแล้วออกจากกระเป๋าเดินทาง สีหน้าเคร่งขรึม ชัดเจนว่าไม่มีความสุข
“ไม่ต้องหรอก ถ้าคุณอยากไปก็ไปเถอะ”
เฟิงจิ่งเหยาเห็นสีหน้าของเธอไม่มีความสุข ไม่รู้ทำไม คำพูดนี้ก็ออกมาจากปากโดยตรง
บางทีเขาอาจจะไม่อยากให้เธอไม่มีความสุข หรือบางทีอาจจะเพื่อชดเชยเรื่องราวเมื่อวาน
กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดนี้ ก็นิ่งอึ้งก่อน แล้วจึงตอบสนองกลับมา
เธองุนงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆผู้ชายคนนี้ถึงเปลี่ยนความคิด แต่ก็ยังกล่าวของคุณด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ขอบคุณ”
พูดจบ เธอก็เริ่มเก็บสัมภาระอีก
เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเธอขอบคุณด้วยความเย็นชาห่างเหิน แล้วเห็นภาพด้านหลังเธอที่เก็บของอีก ไม่รู้ทำไม ในใจมันเฟลอย่างมาก
เขาจ้องมองกู้ฉางฉิงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หวังว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดอะไรอีกบ้าง
แต่กู้ฉางฉิงไม่ได้ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของเขาโดยสิ้นเชิง เก็บข้าวของของตนเองอย่างใจจดใจจ่อ
เฟิงจิ่งเหยาเห็น ก็ไม่สบายใจเล็กน้อย
เหมือนกับถูกคนที่ตนเองเอาใจใส่มองข้าม
เขาคิดถึงตรงนี้ ทันทีก็แข็งทื่อไปทั้งตัว
เขาคาดไม่ถึงว่าจะต้องการความสนใจของผู้หญิงคนนี้?
บ้าไปแล้ว!
เขาจ้องมองภาพด้านหลังกู้ฉางฉิงอย่างยากที่จะเชื่อ ในใจส่ายหัวปฏิเสธความคิดนี้ไม่หยุด
คาดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถูกคนปฏิบัติอย่างเย็นชา
เขาหาข้ออ้างให้กับตนเอง ถึงแม้ว่าในใจจะรับได้แล้วเล็กน้อย แต่ยังคงไม่สบายใจอยู่
เพราะความเย็นชาของกู้ฉางฉิง ทำให้เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้อย่างมาก
รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลง ที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา