สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 264 ไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงมองเห็นสิ่งนี้ ก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ของขั้นสูงขนาดนี้ อีกทั้งไม่ใช่ของเธอ ทำไมถึงมาอยู่ในกระเป๋าเธอ?

เธอนึกไม่ออก ท้ายที่สุดก็เลยไม่คิด ก็เลยเก็บแฟลชไดร์ฟ

และเวลานี้ ที่ชั้นใต้ดินของคาสิโนในประเทศE ที่นี่มีความชั่วร้ายและน่ากลัว ถึงแม้โดยรอบจะมีเสียงโห่ร้องของพวกนักพนันชั้นบน ปต่ถ้าตัเงใจฟังอย่างถี่ถ้วนแล้ว ยังคงพบว่า ในเสียงเหล่านี้ ปะปนด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดทรมาน

“กูจะถามอีกครั้ง ของอยู่ไหน?”

ในที่มืดสลัว เพียงแสงสีขาวอยู่ที่กลางห้อง

และในนั้น มีคนถูกมัดติดกับเสาไม้ไว้ มีบาดแผลทั่วร่างกาย

เลือดสีแดงสดหยดลงที่พื้นทีละหยดๆ

หากกู้ฉางฉิงยู่ที่นี่ ต้องพบว่าชายที่ถูกมัดคือชายผิวดำที่ชนเธอในร้านกาแฟในวันนั้น

“ฉันไม่รู้……”

ชายผิวดำตอบอย่างอ่อนแรง

ทันทีที่เขาพูดคำนี้ออกมา บุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด สีหน้าก็เคร่งขรึม

“มึงเป็นคนเอาของออกมา มึงไม่รู้ มึงคิดว่ากูจะเชื่อหรอ?”

เขาจ้องมองชายผิวดำคนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า : “กูจะตีต่อไป กูจะดูว่ามึงจะดันทุรังได้ถึงเมื่อไหร่”

เกือบจะในชั่วพริบตาที่เขาพูดจบ เสียงหวดแส้ก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง รวมทั้งเสียงเจ็บปวดทรมานของชายคนนั้น

เวลานี้ จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออก คนที่ดูเหมือนลูกน้องยืนทำความเคารพอยู่หน้าประตู : “หัวหน้า ได้ข่าวแฟลชไดร์ฟแล้ว”

ได้ยินคำนี้ก็พยักหน้า ลุกขึ้น

“ของอยู่ที่ไหน?”

เขาถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด ลูกน้องไม่กล้าเฉยเมย

“เมื่อกี้นี้เราได้รับสัญญาณจากแฟลชไดร์ฟ ตรวจสอบสถานที่แล้ว ตอนนี้แฟลชไดร์ฟอยู่มิลาน”

“มิลาน?”

หัวหน้าสีหน้าเคร่งขรึม ดูเหมือนว่าคาดไม่ถึงว่าจะหนีไปไกลขนาดนี้

“คุณนำคนไปตอนนี้เลย ต้องเอาบริษัทกลับคืนมา!”

เขากำชับน้ำเสียงเย็นชา ทันทีที่เหมือนนึกอะไรออก แสงแห่งความกระหายเลือดสว่างวาบในดวงตา : “ส่วนคนที่ย้ายของไป หากจำเป็น ก็ไม่ต้องเก็บไว้!”

“ครับ!”

ลูกน้องรับคำสั่ง

“จำไว้ว่า เร่งมือหน่อย อย่าให้ใครหาเราเจอ”

ท้ายที่สุดหัวหน้าไม่ลืมที่จะกำชับ

ลูกน้องแสดงออกว่าเข้าใจ แล้วหันออกไปจัดการ

……

ทางด้านกู้ฉางฉิงนี้ ไม่รู้ว่าแฟลชไดร์ฟนั้นที่ทำให้เธองงงวยจะทำให้เกิดหายนะกับเธอขนาดนี้

หลังจากที่เธอเก็บแฟลชไดร์ฟแล้ว แล้วก็หมกมุ่นในการสร้างผลงานวรรณกรรม

ถึงวันที่สาม มู่จิ่นมาหาเธอแต่เช้า

“เป็นยังไง คุ้นเคยแล้วใช่ไหม?”

เขาถามอย่างเป็นห่วง

“ก็ดี คุณนั่งก่อนสิ ฉันจะไปเปลี่ยนชุดแล้วก็ออกไปกันได้เลย”

กู้ฉางฉิงเรียกให้มู่จิ่นมานั่งที่ห้องรับแขก แล้วตนเองก็เข้าไปในห้อง

ไม่นาน เธอก็เดินออกมาในชุดเดรสสีฟ้าอ่อน

หลังจากที่มู่จิ่นชื่นชมแล้ว จึงพูดถึงแผนการเดินทางของวันนี้

“การสัมมนาจัดขึ้นในช่วงเย็น ฉันจะพาคุณไปเดินเล่นรอบๆก่อน รอถึงบ่ายสี่โมง เราค่อยไป คุณว่าไง?”

กู้ฉางฉิงยักไหล่ พูดหยอกล้อว่า : “ถิ่นของคุณคุณตัดสินใจเองเถอะ ฉันขอแค่ศึกษาก็พอ”

มู่จิ่นหัวเราะ และกู้ฉางฉิงก็หัวเราะอยู่สักครู่ ทั้งสองจึงออกไป

เขาไม่ได้พากู้ฉางฉิงไปที่ไท่หยวน แต่พาเธอไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้ารอบๆ ชี้ให้เธอเห็นถึงเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของทางด้านยุโรป-อเมริกานี้

คนทั้งสองเดินชมไปพลาง พูดคุยไปพลาง ไม่ว่าจะเป็นผลงานวรรณกรรม หรือบนความเอาใจใส่ สามารถพูดได้ว่าทำให้กู้ฉางฉิงได้รับผลประโยชน์อย่างมาก

“ฉันรู้สึกว่าการเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ไม่ได้สูญเปล่า แทบจะเทียบเท่ากับหลักหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น”

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน กู้ฉางฉิงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ

มู่จิ่นหันสายตากลับไปมองเธอ ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “นี่ไม่ใช่ความคิดแบบโบราณของประเทศZพวกคุณโดยสิ้นเชิง การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด”

กู้ฉางฉิงเบิ่งตาค้างเล็กน้อย มองมู่จิ่นอย่างตะลึงงัน คล้ายกับประหลาดใจอย่างมากกับคำพูดแบบนี้ที่เขาพูดออกมา

“มู่จิ่น รู้สึกว่าตอนนี้ยิ่งนานวันคุณยิ่งพูดภาษาจีนของพวกเราได้แล้วนะ”

เธอพูดหยอกล้อ หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันอีกสักครู่ ก็เกือบจะถึงเวลาเตรียมตัวแล้ว

มู่จิ่นพากู้ฉางฉิงไปบริษัท สร้างหุ่นจำลองเพื่อเธอด้วยตัวเอง

เขาให้ผู้ช่วยไปที่ห้องทำงานของตนเองให้หยิบชุดราตรีปาดไหล่สีแดงชุดหนึ่ง

พูดได้ว่า ชั่วพริบตาที่ชุดราตรีนี้ปรากฎออกมา ก็ทำให้กู้ฉางฉิงตกตะลึง

ไม่มีเหตุผลอื่นใด ชิ้นนี้แทบจะกล่าวได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนและตะวันตก และสีของเสื้อผ้าเองก็แตกต่างจากโทนสีอ่อนที่ใช้มาโดยตลอด โดยใช้สีแดงอย่างกล้าหาญ

สีสันฉูดฉาดแต่ไม่โอเวอร์ แน่นอนว่ายิ่งทำให้คนเลือก

“นี่เป็นชุดราตรีที่ฉันออกแบบใหม่ล่าสุด คุณไปลองดู”

มู่จิ่นไม่ได้เห็นความตกตะลึงในสายตาของกู้ฉางฉิง ทันทีก็หยิบชุดออกมา แล้วให้เธอไปลอง

“ฉันได้หรอ?”

กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา ในสายตามีความอยากจะลอง ก็เกรงว่าตนเองจะใส่แล้วสื่อไม่ออกถึงแก่นสำคัญของชุดนี้

“แน่นอน ฉันคิดว่า นอกจากคุณแล้ว น่าจะไม่มีใครควบคุมมันได้”

มู่จิ่นกล่าวชมเชย อันที่จริงเข้าไม่ได้บอกว่า ชุดราตรีนี้ มันเป็นแรงบันดาลใจของเขาที่มาจากการออกแบบย้อนยุคก่อนหน้านี้ของเธอ

กู้ฉางฉิงไม่รู้ แต่ได้รับการรับรองของเขา ก็ไม่ถ่อมตัวอีกแล้ว หยิบชุดราตรีไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

ไม่นาน ก็เห็นประตูใหญ่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเปิดออกอีกครั้ง กู้ฉางฉิงถือกระโปรงเดินกวัดแกว่งออกมา

ทันใดนั้น ห้องแต่งตัวก็มีเสียงสูดลมหายใจดังขึ้น ในสายตาของคนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง

ผิวขาวของกู้ฉางฉิงเปล่งประกายชัดเจนมากขึ้นภายใต้เสื้อผ้าสีแดงสด เอวที่เรียวเล็กตั้งตรงขึ้น

ลายปักของด้ายสีทองและสีเงินบนกระโปรง ในขณะที่เธอเดินไปรอบๆดูเหมือนว่าดอกไม้ที่กำลังผลิบานดูน่าดู

ยิ่งเธอยืนอยู่กับที่ไม่ขยับด้วยแล้ว ถ้าฉากหลังไม่ใช่ห้องทำงานสมัยใหม่ ง่ายมากที่จะได้รับการยกย่องให้เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ในช่วงปลายศตวรรษ

“เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ชุดราตรีนี้เหมาะสมกับคุณมาก”

มู่จิ่นดึงสติกลับมาก่อน เขามองกู้ฉางฉิงอย่างชื่นชม

เขาพูดจบ โดยรอบก็มีเสียงชื่นชมขึ้นมาไม่น้อย

กู้ฉางฉิงถูกพวกเขาชื่นชมก็เขินอายอย่างมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือสไตล์ เหมาะสมกับเธออย่างมาก

เธอมองความงดงามของตนเองในกระจก ไม่รู้ทำไม ก็นึกถึงเฟิงจิ่งเหยา

จับพลัดจับผลู เธอให้มู่จิ่นถ่ายรูปให้เธอรูปหนึ่ง และส่งไปให้เฟิงจิ่งเหยาโดยไม่ต้องคิด

เวลานี้เฟิงจิ่งเหยากำลังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เมื่อดูข้อความด้านบนเป็นข้อความจากกู้ฉางฉิง มุมปากก็อดยกขึ้นไม่ได้

พอเขาเปิดข้อความดู เนื้อหาด้านในทำให้เขาอดมีชีวิตชีวาไม่ได้

เพียงเห็นภาพที่กู้ฉางฉิงเพิ่งถ่ายทางโทรศัพท์ เดรสยาวรัดรูปดอกกุหลาบสีแดง ไม่เพียงเผยให้เห็นผิวพรรณที่สวยงามไร้ที่ติของเธอเท่านั้น ความมีเสน่ห์ทั่วทั้งร่างกายที่ส่งออกมาทำให้เธอเหมือนกับราชินี ทำให้คนทึ่งอย่างมาก

เฟิงจิ่งเหยาเห็นแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ค้นพบว่า เวลานี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เขาเซฟรูปด้วยจติตสำนึก หลังจากนั้นก็ออกจากwechat

แต่เมื่อเขามองมือถือที่เหมือนออกมาจากโรงงานเช่นนี้ ในสมองก็นึกถึงหน้าจอโทรศัพท์มือถือของชวี่ยี่ที่เผลอกวาดสายตาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็รู้สึกว่าตนเองขาดอะไรไป

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วขยับมือถือขึ้นมา นำรูปกู้ฉางฉิงเป็นหน้าเดสก์ท็อปโดยตรง นี่จึงรู้สึกว่าสมบูรณ์แบบ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท