กู้ฉางฉิงมองจี้อี้โดยไม่พูดอะไร เม้มปากพูดว่า : “หัวหน้า ฉันอยู่บริษัทมา แน่นอนว่าฉันมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น ถ้าผู้จัดการไม่พอใจกับแผนการที่กำหนดของบริษัท ก็ต้องไปหาเบื้องบนแล้ว”
จี้อี้ได้ยินคำพูดที่พูดอย่างเต็มปากเต็มคำนี้ของกู้ฉางฉิง
“ความสามารถที่ไม่ธรรมดาหรอ?”
เธอพูดจบ สายตาก็มองกู้ฉางฉิงอย่างถากถาง
“จริงๆ ได้แต่งงานกับเฟิงจิ่งเหยาเป็นความสามารถที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เพียงแต่ฉันไม่ได้คิดว่าคุณกู้จะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเช่นนี้ คนอื่นๆอาจจะไม่เข้าใจ แต่ว่าฉันเข้าใจ คุณกู้อยู่บริษัทนี้ได้ ไม่ได้อาศัยความสามารถอะไร แต่เป็นจิ่งเหยา”
พร้อมกับคำพูดนี้ สีหน้ากู้ฉางฉิงก็เย็นชาลง
เธอจ้องมองจี้อี้ ในแววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ รวมถึงไม่เข้าใจ
เห็นได้ชัดว่าตอนที่เจอกันตอนแรก ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นเช่นนี้
เธอกดความสงสัยในใจไว้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : “ผู้จัดการจี้พูดถูก ฉันจะบอกคำพูดเหล่านี้กับจิ่งเหยา ให้เขาเอาไปปรับปรุงแก้ไขในอนาคต”
พูดจบ เธอก็ไม่สนใจจี้อี้อีกเลย หันกลับออกไป
จี้อี้มองดูเธอออกไป ก็โกรธอย่างมาก ในเวลาเดียวกันก็ตื่นกลัวเล็กน้อย
กลัวว่ากู้ฉางฉิงจะบอกการสนทนาเมื่อกี้นี้กับเฟิงจิ่งเหยาจริงๆ
……
หลังจากที่กู้ฉางฉิงออกมา ก็ไม่ได้กลับตระกูลเฟิงในทันที แต่ไปที่ร้านกาแฟในระแวกนั้น หาสถานที่เงียบๆในการวาดแบบร่าง
มั่วหลีขับรถมาจับตาดูอยู่ด้านนอก
กู้ฉางฉิงสังเกตเห็นว่าเธอจับตาดูอยู่ ก็ไม่ได้สนใจ เริ่มทำงานต่อไป
ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เธอวาดจนล้าแล้ว กำลังจะบิดขี้เกียจ คาดไม่ถึงว่าฟู่หยุนชวนจะออกมาจากห้องวีไอพี ดูเหมือนว่าจะเพิ่งคุยธุระเสร็จ
แต่เวลานี้ฟู่หยุนชวนก็เห็นเธอ สีหน้าทั้งดีใจทั้งแปลกใจ
เห็นเขาพูดกับคนข้างๆสองสามประโยค แล้วก็เดินมาทางกู้ฉางฉิง
“คุณกู้ บังเอิญจัง มาเจอกันที่นี่ รังเกียจไหมถ้าฉันจะนั่งด้วย?”
เขาทักทายอย่างสุภาพบุรุษ ผสมผสานกับรูปลักษณ์ภายนอกของเขา ทำให้คนรู้สึกสุขกายสบายใจ
เป็นธรรมดาที่กู้ฉางฉิงจะไม่ปฏิเสธ แล้วก็ตอนนี้ทั้งสองบริษัทกำลังร่วมมือกันด้วย
“ประธานฟู่เชิญนั่งค่ะ”
เธอเรียนเชิญ ในขณะเดียวกันก็ให้พนักงานเสิร์ฟกาแฟให้ฟู่หยุนชวนอีกแก้ว
ฟู่หยุนชวนไม่ได้ปฏิเสธ สายตาก็กวาดไปที่กระดานวาดภาพข้างๆมือกู้ฉางฉิง ยิ้มพูดว่า : “นี่เป็นการออกแบบล่าสุดของกู้ฉางฉิงหรอ? ฉันว่าดูมีสไตล์สร้างสรรค์มาก”
กู้ฉางฉิงยิ้มพูดว่า : “นี่คือฉบับร่างของชุดป้องกัน ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จะทำให้คุณตลกเอาได้”
ฟู่หยุนชวนส่ายหัว เขาชื่นชมกับการออกแบบของกู้ฉางฉิงพักหนึ่ง ทำให้กู้ฉางฉิงเกรงใจอย่างมาก
“จะว่าไป ครั้งนี้ทั้งสองบริษัทร่วมมือกัน ยังรู้สึกขอบคุณในการติดต่อของคุณกู้ ทำให้ฟู่ซื่อเราได้รับส่วนแบ่ง”
กู้ฉางฉิงรับคำชื่นชมของเขาไม่ไหว ก็เลยเจตนาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า : “ฉันไม่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ของประธานฟู่ ทั้งสองบริษัทสามารถร่วมมือกันได้ แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ทุกๆคนได้รับผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน”
ฟู่หยุนชวนหัวเราะ ก็ไม่ได้คุยเกี่ยวกับประเด็นนี้อีก เลยพูดถึงเรื่องการออกแบบ
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างถูกคอ ทำให้มั่วหลีที่อยู่ด้านนอกเห็นเข้าก็ขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้ ทำงานได้ไม่ดีก็พอแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะวิ่งมาร้านกาแฟเพื่อนัดพบผู้ชายคนอื่นอีก ยังหัวเราะร่าอย่างมีความสุขขนาดนี้ ประพฤติตัวออกนอกลู่นอกทางอย่างที่คาดไว้จริงๆ!
ไม่ได้การ เธอต้องรายงานให้คุณผู้ชายทราบ
มิเช่นนั้นผู้หญิงคนนี้จะทำให้ก่อปัญหาให้ จะสามารถทำให้คุณผู้ชายของเธอเสื่อมเสียได้!
พูดจบ เธอก็ถ่ายรูปกู้ฉางฉิง จากนั้นก็ส่งไปให้เฟิงจิ่งเหยา
สิ่งนี้กู้ฉางฉิงไม่รู้ เธอได้พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์มากมายกับฟู่หยุนชวน ได้รับประโยชน์ค่อนข้างมาก รู้สึกดีจนไม่อยากให้สิ้นสุดลง
พูดได้ว่าเธอไม่ได้พูดสิ่งที่อยากจะพูดมานานแล้ว
“คาดไม่ถึงว่าคุณฟู่จะค้นคว้าวิจัยการออกแบบมากมายขนาดนี้ ทำให้ฉันอายไปเลย”
เธอมองฟู่หยุนชวนอย่างชื่นชม ในสายตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
ฟู่หยุนชวนมองประกายในดวงตาของเธอ ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ในบริษัททำสิ่งนี้ ก็จำเป็นต้องมีการค้นคว้าวิจัย ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันกับบริษัทอื่นได้ยังไง”
พูดจบ เขาก็มองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่างที่ค่อยๆมืดลง กล่าวเชื้อเชิญว่า: “คุณกู้ตอนเย็นมีธุระไหม? ฉันอยากจะเชิณคุณไปทานอาหารด้วยกัน และถือโอกาสสอบถามความคิดเห็นที่เมื่อกี้ยังพูดไม่จบ”
กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ ก็ใจเต้นเล็กน้อย
เมื่อกี้ก็พูดแล้วว่า นานมากแล้วที่เธอไม่ได้มีความสุขแบบนี้ในการศึกษาพิจารณากับคนอื่น
เธอคิดๆแล้ว สุดท้ายก็ตอบรับไป
หลังจากนั้นคนทั้งสองก็หาร้านอาหารใกล้ๆพูดคุยต่อ
มั่วหลีที่จับจ้องมาโดยตลอด ในใจก็ยิ่งรังเกียจกู้ฉางฉิงจนถึงที่สุด
ผ่านไปสองชั่วโมง กู้ฉางฉิงรับประทานอาหารเสร็จ ก็ปฏิเสธที่ฟู่หยุนชวนจะไปส่ง นั่งรถกลับไปเอง
เธอก้าวเท้าลงจากรถ มั่วหลีก็เดินตามหลังเข้ามา
“ทำไม ทานข้าวกับผู้ชายคนอื่นมีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ?”
เธอเดินมากล่าวตำหนิข้างๆกู้ฉางฉิง พูดเสียดสี
กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้ของเธอ ก็หยุดฝีเท้าลงทันที เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าในชั่วพริบตา
เธอเอียงหน้าไปจ้องมองมั่วหลีอย่างเย็นชา หรี่ตาแล้วกล่าวว่า: “คุณหมายความว่ายังไง?”
“ฉันหมายความว่ายังไง? หรือว่าคุณไม่รู้ชัดเจน? ฉันจะเตือนคุณให้นะ ออกเที่ยวข้างนอกให้น้อยหน่อย ในฐานะที่คุณเป็นภรรยาของคุณผู้ชาย ทางที่ดีที่สุดก็ควรจะประพฤติตัวเรียบร้อยกับฉัน ถ้าหากคุณกล้าทำเรื่องอะไรที่ไม่ละอายใจกับคุณผู้ชาย ฉันมั่วหลีคนนี้ก็จะไม่ปล่อยคุณไปแน่!”
มั่วหลีมองไปยังกู้ฉางฉิงอย่างเย่อหยิ่ง ใช้อำนาจคุกคามด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
กู้ฉางฉิงอัดอั้น ไม่ชอบเธออย่างมาก
เธอจ้องมองมั่วหลี อ้าปากอยากจะพูดกล่าวตำหนิ แต่ก็ไม่อยากจะพูดอีกแล้ว
เพราะเธอคิดว่าไม่ว่าตนเองจะพูดอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่เปลี่ยนท่าทีนี้ แล้วยังไม่ยอมอ่อนข้อให้เธอเลยสักนิด!
คิดพลาง เธอก็หันตัววางแผนที่จะกลับห้อง แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงดีใจของมั่วหลีข้างๆหู
“คุณผู้ชาย คุณกลับมาแล้ว”
กู้ฉางฉิงอดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าแล้วเอียงหน้าไปมอง เห็นมั่วหลีเข้าไปต้อนรับเฟิงจิ่งเหยาที่ลานหน้าบ้าน ภาพนั้นทำให้เธอมองแล้วไม่สบายใจอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหว
กระทั่งเฟิงจิ่งเหยา เดินมาถึงตรงหน้าเธอ ก้มหน้ามองเธอ ในสายตาคล้ายกับมีความไม่สบายใจอะไร กล่าวถามว่า: “วันนี้ออกไปข้างนอกหรอ?”
กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา ก็ไม่ได้พบความผิดปกติในสายตาของเขา พยักหน้า: “อื้ม วันนี้ไปที่บริษัท”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว
“ไปแค่บริษัทหรอ?”
กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ ก็รู้สึกถึงความผิดปกติด้วยจิตสำนึก มองไปยังเฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเกยาก็ไม่ได้หลบเลี่ยง มองไปยังเธออย่างจริงจัง รอให้เธอตอบกลับ
กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ หางตาก็มองไปยังมั่วหลี
เห็นความลำพองใจที่ไม่ปิดบังในสายตาผู้หญิงคนนั้น ก็เข้าใจในชั่วพริบตา
“เดินไปพูดไปเถอะ”
เธอกล่าวเชื้อเชิญ เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
“ตอนบ่ายไปที่ร้านกาแฟ ไม่คาดคิดว่าจะพบกับประธานฟู่ของฟู่ซื่อกรุ๊ป เลยพูดคุยกับเขาสักพัก ตอนเย็นเขาเชิญฉันรับประทานอาหาร พวกเราก็เลยคุยเรื่องความร่วมมือครั้งนี้กันอีก เขาบอกฉันว่า การออกแบบชุดป้องกันครั้งนี้ สามารถนำไปใช้ได้เพียงชนิดหนึ่ง เขาชื่นชอบการออกแบบของฉัน”
พูดจย คนทั้งสองก็เข้าบ้านใหม่ไป
เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้วิจารณ์อะไรกับการแสดงความคิดเห็นของกู้ฉางฉิง แต่นั่งลงบนโซฟา คลึงหางคิ้วอย่างเหนื่อยล้า
กู้ฉางฉิงรู้ว่านี่คือเหนื่อยมาก เข้าไปถามอย่างเป็นห่วงว่า: “เหนื่อยมากเลยหรอ?”
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า
“ไปต่างประเทศสองสามวันนี้ เรื่องราวสะสมค่อนข้างเยอะ นั่งนาน ปวดเมื่อยไปทั้งตัว”
กู้ฉางฉิงมองสีหน้าที่เป็นทุกข์ของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดใจ
“ฉันจะนวดให้คุณนะ”