สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 274 ไม่ได้คุ้มกันเธอด้วยใจจริง

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

เช้าวันรุ่งขึ้น กู้ฉางฉิงกับเฟิงจิ่งเหยาก็ลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟันแล้วไปทานอาหารด้วยดกัน

เวลามื้ออาหาร ทั้งสองคนก็ตุยเรื่องงานกัน จากนั้นเฟิงจิ่งเหยาก็ไปทำงาน

กู้ฉางฉิงไม่อยากไปบริษัทเพื่อถูกจี้อี้จับผิดอีก เลยถือโอกาสทำงานอยู่ที่บ้านเสียเลย

มั่วหลียังคงอยู่อารักขาเธอเหมือนเดิม

เวลานี้ กู้ฉางฉิงทำงานออกแบบอยู่ในห้องตลอด

รอให้เที่ยง จึงออกมาทานอาหาร

พอดีกับที่เธอทานอาหารเสร็จ ก็เตรียมตัวกลับไปทำงานต่อที่ห้อง พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาทันที

“คุณนายรอง นายท่านมาที่นั่น นายท่านบอกว่าอยากให้คุณมาดื่มชาด้วย ที่ศาลาในสวนหลังบ้านของเรา”

กู้ฉางฉิงตกตะลึงเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่านายท่านจะตามหาเธอ

เพียงแค่นึกว่าเธอไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนนายท่านเป็นเวลานาน เธอเลยพยักหน้าตอบรับ

“รบกวนคุณไปแจ้งให้หน่อยนะ ว่าฉันจะเปลี่ยนชุดแล้วก็ไป”

พ่อบ้านพยักหน้า แล้วหันกลับออกไป

กู้ฉางฉิงเดินตรงกลับไปที่ห้อง เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงยาวที่ดูเหมาะสมแล้วเดินไปที่สวน

มั่วหลีบังเอิญมองเห็นฉางฉิงที่ใส่กระโปรง ราวกับนางฟ้า ความริษยาก็ฉายผ่านแววตา

เพราะว่าเธอก็ไม่เคยใส่เช่นนี้มาก่อน

กู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดของมั่วหลี สังเกตเห็นสายตาที่ไม่พอใจของเธอ คุ้นชินไปแล้วก็เลยมองข้ามไป

ไม่นาน พวกเธอเดินมาถึงศาลาในสวน ก็เห็นนายท่านเฟิงนั่งอยู่ในศาลาแล้ว

วันนี้นายท่านเฟิงแต่งชุดคลุมยาวสีขาว ดูมีเมตตาสง่างามมาก

“คุณปู่!”

กู้ฉางฉิงทักทายอย่างอ่อนหวาน

นายท่านเฟิงเห็นเธอ อมยิ้มทักทาย : “มาๆ เข้ามานั่ง”

กู้ฉางฉิงก็ไม่เขินอาย ตรงเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามนายท่าน

มั่วหลีเดินตามหลังไป คิดอยากจะทักทายนายท่าน ถึงอย่างไรก็เป็นคุณปู่ที่นับถือของคุณผู้ชาย เธอต้องการสร้างความประทับใจที่ดีให้กับผู้อาวุโส

ใครจะรู้ เดิมทีนายท่านเฟิงไม่ได้มองเธอเลย สายตามองแต่กู้ฉางฉิง ดูเป็นห่วงเป็นใยเธอ

“ฉันได้ยินมาว่าสองวันก่อนคุณไปต่างประเทศ บังเอิญพบกับปัญหาเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงนี้ ก็อบอุ่นในใจ

“เรื่องนี้ไปถึงคุณปู่ได้อย่างไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ จิ่งเหยากระต่ายตื่นตูมไปเอง”

เธอไม่อยากพูดมากไป เลยตำหนิเฟิงจิ่งเหยา อยากให้นายท่านสบายใจ

เป็นธรรมดาที่นายท่านเฟิงจะเข้าใจความคิดเห็นของเธอ ก็ไม่พูดสะกิดใจ ยิ้มพูดอย่างปลื้มอกปลื้มใจว่า : “ไม่เป็นไรก็ดี “ไม่เป็นไรก็ดี”

เขาพูดจบ ดูเหมือนว่าจะนึกอะไรออก ก็หยอกล้อกู้ฉางฉิงอย่างขี้เล่น

“เมื่อกี้คุณบอกว่าจิ่งเหยาเป็นกระต่ายตื่นตูม ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของคุณจะคืบหน้าไปได้ด้วยดี”

กู้ฉางฉิงคิดไม่ถึงว่านายท่านจะมีด้านขี้เล่นเช่นนี้ ก็ตกตะลึง แล้วก็เขินอายขึ้นมา

“คุณปู่ ฉันเห็นว่าเดิมทีคุณเรียกฉันมาดื่มชาไม่ใช่หรอ หรือเดินทางมาหยอกล้อฉันเป็นพิเศษ”

เธอกระเง้ากระงอด : “คุณอยู่ที่นี่เลย ฉันจะไม่อยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว”

“โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้ว

นายท่านเห็นเช่นนี้ ยิ้มประนีประนอมอย่างอ่อนโยน

“ก่อนหน้านี้ในบ้านก็เกิดเรื่องตลอด ต่อมาฉันก็ยุ่งเรื่องอื่น ไม่ได้มาดูคุณเลย แผลหายดีแล้วหรือยังไม่ได้ทิ้งรอยแผลเป็นใช่ไหม? ฉันรู้ว่าเด็กผู้หญิงอย่างพวกคุณไม่ชอบรอยแผลเป็น ถ้ามี คุณมาบอกปู่เลย ปู่จะให้จิ่งเหยาพาคุณไปโรงพยาบาลเสริมความงามที่ดีที่สุด”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดของเขาที่เป็นห่วงอย่างมาก ก็ซาบซึ้งใจอย่างมาก

“แผลหายแล้ว เป็นแผลเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพียงแต่ฉันยังจำคำพูดนี้ของคุณปู่ไว้ ถ้าเป็นแผลเป็น ก็สัญญาว่าจะมาหาคุณปู่เลย”

“โอเค คุณอย่าลืมนะ ถ้าเป็นแผลเป็น ขอแค่คุณมาหาฉัน”

เช่นนี้ ผู้ใหญ่หนึ่งคนเด็กหนึ่งคน พูดตุยสนทนากันอยู่ในสวน

พวกเขาต้มชาจุดธูปหอมเล่นหมากรุก เสียงความเสียใจของกู้ฉางฉิงที่เดินหมากรุกพลาดดังไปทั่วทั้งสวน แล้วก็เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของนายท่าน

ถ้าบอกว่ากู้ฉางฉิงเป็นอัจฉริยะด้านการออกแบบ งั้นด้านการเล่นหมากรุก เธอไม่มีพรสวรรค์อย่างแน่นอน

โชคดีที่เธอเต็มใจที่จะเรียนรู้ ก็เลยเรียนรู้ได้ดี

อย่ามองว่าบางครั้งเธอทำตัวหลอกลวง เพียงแค่เพื่อทำให้นายท่านสบายใจ

แน่นอนนายท่านเฟิงก็สังเกตได้ถึงน้ำใจของเธอ ก็เข้ากันได้ดีอย่างมาก

เธอเกิดเรื่อง เขาก็จะอยู่เคียงข้าง เธอเรียน เขาก็ตั้งใจสอน

ไม่ใช่ญาติ แต่ดีกว่าญาติ

ผ่านไปสองชั่วโมง พ่อบ้านก็เดินเข้ามาตัดบทความบันเทิงของคนทั้งสอง

“นายท่าน ถึงเวลาทานยาแล้วครับ”

กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ ก็นิ่งอึ้งไป

“คุณปู่ป่วยหรอ?”

เธอมองไปยังนายท่านอย่างเป็นห่วง

“อย่าไปฟังเจ้าหมอนี่ทำเป็นกระต่ายตื่นตูม ก็แค่อ่อนเพลียธรรมดาๆ ใจหวิวๆ หมอให้พักผ่อนมากๆหน่อย จ่ายยาสงบจิตใจเล็กน้อย เจ้าหมอนี่ก็คอยมาจ้องมองฉันเหมือนนาฬิกาปลุกทุกวันเลย”

นายท่านเฟิงพูดด้วยท่าทีที่ไม่ดี แต่ความอ่อนเพลียบนใบหน้าก็ทรยศเขา

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็ตำหนิตัวเองเล็กน้อย

คุณปู่ป่วย แต่พวกเขาไม่รู้เลย

“คุณปู่ พ่อบ้านก็ทำเพื่อประโยชน์ของคุณนะ คุณรีบไปพักผ่อนเถอะ วันหลังฉันมาเป็นเพื่อนคุณอีกก็ได้”

เธอพูดเกลี้ยมกล่อมนายท่านเฟิงอย่างอ่อนโยน นายท่านเฟิงสบายใจอย่างมาก ก็พยักหน้าเห็นด้วย

กู้ฉางฉิงส่งสายตามองเขาจากไป จึงวางแผนที่จะกลับไป

ผลสุดท้ายพอเธอหันตัวก็พบว่ามั่วหลีที่เดิมทีน่าจะอยู่ด้านหลังเธอคาดไม่ถึงว่าเวลานี้จะหายไปแล้ว

เช่นนี้ กู้ฉางฉิงก็อดไม่ได้ที่ตะเบ้ปาก

ดูท่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้คุ้มกันเธอด้วยใจจริง

งั้นเธอก็ไม่นำเรื่องนี้มาใส่ใจ เดินไปยังบ้านใหม่โดยไม่ได้สนใจ

กระทั่งมั่วหลีที่หายไป อันที่จริงก็ไม่ได้ไปจากตระกูลเฟิง

แต่เมื่อเห็นกู้ฉางฉิงและนายท่านเฟิงพูดคุยกัน ตอนนี้เธอก็ไม่ได้อยู่จนเสร็จสิ้น เธอก็มีความคิดว่า อยากไปลองดูที่ห้องของกู้ฉางฉิง ว่าจะหาแฟลชไดร์ฟอะไรนั่นออกมาได้ไหม

แต่เธอหาอยู่หลายรอบ ค้นหาทุกซอกทุกมุม ก็ล้วนไม่มี

หรือว่าไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงคนนี้?

เธออดไม่ได้ที่จะคาดเดา แต่ก็ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

ถ้าไม่อยู่ที่กู้ฉางซิน คนเหล่านั้นจะมาไล่ตามเธอทำไม?

นอกจาก……….ผู้หญิงคนนั้นเอาสิ่งของมา!

เธอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูเล็กน้อย

เวลานี้ เธอก็ได้ยินเสียงที่ระเบียงทางเดิน

“คุณนายรอง”

เห็นระเบียงทางเดิน สาวใช้กล่าวทักทายกู้ฉางฉิงอย่างเคารพนบนอบ

หลังจากกู้ฉางฉิงแสดงท่าทางพยักหน้า ก็เดินมายังห้อง

ในห้อง มั่วหลีได้ยินเสียงฝีเท้าที่ยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก็พลิกของโดยรอบให้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว หลังจากตรวจเชคจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีปัญหา เธอจึงพลิกตัวลงจากระเบียงไป

แทบจะในชั่วพริบตาที่กระโดดลงจากระเบียง กู้ฉางฉิงก็เปิดประตูเข้ามา

เธอไม่รับรู้ว่าห้องมีบางคนได้เข้ามา มุ่งตรงไปยังห้องน้ำ หลังจากอาบน้ำแล้ว จึงสวมเสื้อผ้าอยู่บ้านสบายๆแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานเพื่อเตรียมทำงาน

หลังจากนั้นพอเธอเตรียมที่จะหยิบพู่กันวาดรูป มือก็หยุดลงชั่วขณะ

เพราะเธอพบว่าพู่กันวาดรูปของตนเองไม่ได้หันปลายพู่กันขึ้นเหมือนตอนก่อนที่เธอจะไป แต่กลับหันลง

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตา เริ่มมองไปรอบๆ ก็พบว่าของๆเธอ ถูกเคลื่อนย้ายไปไม่น้อย

ถึงแม้จะมองเหมือนว่าอยู่ที่เดิม แต่เธอมีความเคยชินกับของที่เธอวาง อีกทั้งเธอก็ยังเฉียบแหลม ถ้ามีคนเคลื่อนย้าย เธอสามารถมองออกได้เพียงแวบเดียว

และคนที่ทำให้เธอสงสัยคือ คนที่อยู่ในบ้านนี้ ใครกันที่สามารถเคลื่อนย้ายของๆเธอได้

คนแรกที่เธอนึกถึงคือคนรับใช้ในบ้าน แต่ก็ถูกเธอยับยั้งอย่างรวดเร็ว

เพราะเฟิงจิ่งเหยาเคยบอกว่า ห้องนี้นอกจากเขาอนุญาติ เวลาอื่นไม่สามารถเข้ามาได้

สุดท้ายไม่รู้ทำไม กู้ฉางฉิงก็นึกถึงมั่วหลีที่หายสาบสูญไปจากสวนดอกไม้เมื่อกี้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท