สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 279 ปฏิเสธที่จะไม่พบ

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงสติกลับมา รีบถามว่า

“ประธานฟู่ ทำไมต้องเลื่อนไปวันหลังด้วย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?”

ฟู่หยุนชวนก็ไม่ได้ปิดบัง พูดตามความจริงว่า : “มีคนทางบริษัทโทรคมนาคมนั้นเปลี่ยนใจชั่วคราว”

กู้ฉางฉิงขมวดคิ้ว

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อคืนบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วไม่ใช่หรอ?”

“ฉันก็ไม่เข้าใจ ฉันคิดว่าจะไปคุยกับพวกเขาคนที่รับผิดชอบ ดูว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง คุณรอข่าวจากฉันอยู่ที่บริษัทก่อน”

ฟู่หยุนชวนบอกความคิดเห็นของตนเอง แต่กู้ฉางฉิงไม่คิดว่าตนเองจะรอได้

“ฉันจะไปด้วยกันกับคุณ เช่นนี้แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีเงื่อนไขอะไร เราจะได้ปรึกษาหารือกันได้โดยตรง”

เธอพูดเสนอ ฟู่หยุนชวนไตร่ตรองสักนิด แล้วก็เห็นด้วย

“ได้ เช่นนั้นเราก็ไปเจอกันที่บริษัทโทรคมนาคม”

กู้ฉางฉิงตอบตกลง วางสายไป แล้วเดินไปที่ลิฟท์

ทว่าไม่รู้ ไม่นานหลังจากที่เธอออกไป ชวี่ชิงหยุนก็เดินออกมาจากมุมทางเดิน

“ความร่วมมือมีการเปลี่ยนแปลงหรอ?”

ชวี่ชิงหยุนนึกถึงคำพูดที่ได้ยินเมื่อกี้นี้ แววตาก็เป็นประกาย

เธอรู้ว่าครั้งนี้บริษัทให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับบริษัทโทราคมนาคมมาก ถ้าหากได้ผลดี บางทีอาจมีวิธีที่จะขับไล่กู้ฉางฉิงออกไปได้

แน่นอน เธอไม่มีความสามารถนี้ ดังนั้นเธอจึงเฝ้าดูกู้ฉางฉิงหายไปในลิฟต์ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลู่ซือหยี่

“ซือหยี่ ช่วงนี้สบายดีไหม?”

เมื่อรับสาย เธอก็พูดอย่างห่วงใยก่อนเลย

แต่ว่าลู่ซือหยี่ในสาย ดูเหมือนอารมณ์ไม่ดี น้ำเสียงอ่อนล้า : “มีเรื่องอะไร?”

ชวี่ชิงหยุนได้ยิน ก็ไม่ไร้สาระต่อไป พูดจุดประสงค์ออกมา

“ช่วงนี้บริษัทร่วมมือกันกับฟู่ซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ดูเหมือนว่าความร่วมมือมีการเปลี่ยนแปลง กู้ฉางฉิงไปปรึกษาหารือกับฝ่ายการตลาดของฟู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ฉันอยากบอกว่า ถ้าเราดำเนินการ อาจจะมีโอกาสทำให้กู้ฉางฉิงออกจากบริษัทได้ ถึงเวลาก็จะสามารถแก้แค้นให้คุณได้”

ลู่ซือหยี่ได้ฟัง จากสีหน้าท่าทางที่ดูอ่อนล้าก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย

“ข่าวนี้เชื่อถือได้หรอ?”

เธอถามให้แน่ใจอีกครั้ง

“เชื่อถือได้ ตอนนี้กู้ฉางฉิงได้ไปพบกับฟู่หยุนชวนแล้ว”

ลู่ซือหยี่ได้ยิน ก็ยิ้มเลย

“โอเค ฉันรู้แล้ว คุณรอข่าวจากฉัน”

เธอพูดจบ ก็วางสายไป

ชวี่ชิงหยุนมองไปที่โทรศัพท์ที่วางสายไป ในสายตาก็เต็มไปด้วยความมืดครึ้ม

เธอมองที่ที่กู้ฉางฉิงออกไปอีกครั้ง หัวเราะเยาะแล้วเดินออกไป

และเธอออกไปไม่นาน ตำแหน่งที่เธอเพิ่งยืนอยู่เมื่อกี้นี้ ก็มีคนหนึ่งเดินออกมา

น่าแปลกใจว่าเป็นมั่วหลีที่ถูกเฟิงจิ่งเหยาส่งมาเพื่ออารักขากู้ฉางฉิง

เธอหรี่ตามองชวี่ชิงหยุนที่เดินจากไป นึกถึงคำพูดของเธอเมื่อกี้นี้ ตาเป็นประกายเล็กน้อย แล้วไม่ได้ทำอะไรเดินออกไปเลย

ถึงอย่างไรเธอก็ปรารถนาให้ผู้หญิงกู้ฉางซินนั่นได้เจอกับความซวย แล้วจะช่วยได้อย่างไร

เธอทำเสียงเยาะเย้ยเบาๆ ออกจากบริษัท ตามกู้ฉางฉิงไป ตามคำสั่งของคุณผู้ชาย อยู่อารักขาข้างหลังเธอ

เพียงแต่การอารักขาอย่างไม่ใส่ใจนี้ ก็มีแต่เธอเองที่รู้

……

และเวลานี้ ลู่ซือหยี่ที่วางสายไป สายตาก็เต็มไม่ด้วยการวางแผนอยู่กับโทรศัพท์

“กู้ฉางฉิง ฟู่หยุนชวน……”

เธอพึมพำเบาๆ ไม่นานก็ดูเหมือนมีความคิดอะไร เธอก็ยิ้มขึ้นมาอย่างร้ายกาจ

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขโทรออก

“เว่ยยาง ว่างไหม? ฉันอยากคุยธุระกับคุณ”

เธอออมยิ้มแล้วเอ่ยปาก แต่ถูกคนอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์กล่าวยั่วเย้าว่า: “ซือหยี่ คนอย่างคุณเนี่ยไม่มีเรื่องไม่มาหาจริงๆ ปกติก็ไม่โทรมาหาฉัน โทรมาก็คือมีเรื่อง”

ลู่ซือหยี่อดยิ้มไม่ได้ ตอบกลับว่า: “นั่นก็ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะรบกวนโลกส่วนตัวของคนทั้งสองระหว่างคุณกับคุณฟู่หรอ? คุณกล้าพูดไหมว่าถ้าฉันนัดคุณตอนคุณออกเดท คุณจะสนใจฉัน?”

ไม่ผิด คนที่ลู่ซือหยี่ไปหาคือคู่หมั้นของฟู่หยุนชวน

หลิวเว่ยยางถูกลู่ซือหยี่พูดหลอกล้ออยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ต้านทานไม่ไหว กล่าวอย่างให้อภัยว่า: “เอาล่ะ เถียงคุณไม่ชนะ วันนี้มาหาฉันมีเรื่องอะไรล่ะ?”

ลู่ซือหยี่จึงพูดเรื่องจริงขึ้นมา

“ทางลู่ซื่อกรุ๊ปของพวกเรานี้มีโครงการที่อยากจะทำความร่วมมือกับฟู่ซื่อกรุ๊ป คุณก็รู้ว่า ฉันกับคุณฟู่ของคุณไม่ได้คุ้นเคยกันมาก ดังนั้นอยากจะขอให้คุณเป็นคนกลาง อีกสักครู่ไปเป็นเพื่อนฉันไปที่เฟิงซื่อกรุ๊ปหน่อยสิ”

หลิวเว่ยยางฟังแล้ว สีหน้าก็ลังเลขึ้นมา

“นี่ฉันโทรไปลองถามก่อน ดูว่าเขาว่างไหม?”

ลู่ซือหยี่ได้ยิน อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว

“เว่ยยาง ไม่ใช่แล้วมั้ง คุณจะไปพบคู่หมั้นของตนเองยังต้องโทรศัพท์ไปนัดล่วงหน้าอีกหรอ”

หลิวเว่ยยางฟังออกถึงความแปลกใจในคำพูดของเธอ ก็ทอดถอนใจอย่างจนปัญญา

“ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้หยุนชวนกำลังยุ่งอะไร ทุกครั้งที่ฉันไปหาเขาล้วนก็ไม่พบคน โทรศัพท์เขาก็ไม่มีเวลา ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถรับประกันกับคุณได้ว่าจะได้พบคน”

ลู่ซือหยี่หรี่ตา นึกถึงแผนการภายในใจ อดไม่ได้ที่จะแสดงสายตาที่ลึกลับขึ้นมา

“ดังนั้นฉันก็ไม่ใช่จะสร้างอากาศให้คุณหรอ ทำให้พวกคุณได้พบหน้ากัน”

“หืม?”

หลิวเว่ยยางไม่ตอบสนองไปชั่วขณะ

“ฉันไปเจรจาความร่วมมือกับคุณฟู่ของคุณ เขาก็คงไม่สามารถปฏิเสธที่จะไม่พบหรอกใช่ไหม?”

ลู่ซือหยี่อธิบาย หลิวเว่ยยางคล้ายกับได้ฟังเรื่องนี้แล้ว ก็เห็นด้วย

“ได้ งั้นคุณรอฉันครึ่งชั่วโมง ฉันแต่งตัวสักหน่อย”

ลู่ซือหยี่รับปาก ให้เธอไม่ต้องรีบร้อน

แต่เรื่องเหล่านี้ กู้ฉางฉิงล้วนไม่รู้

เธอรีบไปทางด้านฟู่ซื่อกรุ๊ป เข้าพบฟู่หยุนชวน

“อีกฝ่ายมีข้อเรียกร้องอะไรใหม่หรอ? ทางด้านของฉันจัดทำสัญญาเสร็จแล้ว ต้องการให้พวกเราทำใหม่อีกฉบับหรือไม่?”

ขณะเดินทางเธอก็ครุ่นคิดถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ นอกจากอีกฝ่ายจะต้องการที่จะกดต้นทุนของพวกเขา เธอก็นึกไม่ออกจริงๆว่ามีสาเหตุอะไรที่ทำให้เปลี่ยนใจ

“สิ่งนี้ไม่จำเป็นในชั่วคราว อีกอย่างการกระทำของพวกเราที่สร้างผลกำไรให้คนอื่น จะสูญเสียการควบคุมการเจรจา ซึ่งนี่เป็นข้อห้ามใหญ่ในสาขาธุรกิจ”

ฟู่หยุนชวนส่ายหน้าไม่ปฏิเสธความคิดเห็นของกู้ฉางฉิง ในเวลาเดียวกันก็สอนเธอถึงวิธีการเจรจา

กู้ฉางฉิงคิเว่าที่เขาพูดมีเหตุผล และคิดบางอย่างขึ้นมา

“ดังนั้นความหมายของคุณคือ พวกเขากำลังจงใจหยั่งเชิงพวกเรา ดูว่าพวกเราจะสามารถเปลี่ยนราคาได้อีกไหม”

ฟู่หยุนชวนพยักหน้า: “ก็ไม่ปฏิเสธว่าสิ่งนี้เป็นไปได้ แต่รายละเอียดต้องรอให้พวกเราไปพบคนก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้พวกเราก็ร่วมมือกันเตรียมการไปก่อน”

เขาพูดแสดงเจตนาเมื่อกู้ฉางฉิงมาถึงด้านหน้าโต๊ะทำงาน: “ถึงแม้พวกเราจะไม่ยินยอม แต่ในใจของพวกเราก็ต้องมีราคาที่ต่ำสุด หลังจากที่พวกเราสามารถชักกลับไปกลับมารอบหนึ่งแล้ว แสร้งทำเป็นอ่อนข้อให้ ทางด้านของคุณสามารถปรับได้ไหม?”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า: “หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ผู้จัดการใหญ่น่าจะเห็นด้วย ฉันจะไปบอกเธอสักหน่อย”

พูดจบ เธอก็ดึงมือถือออกมาติดต่อหลี่ม่าน

หลี่ม่านไม่คาดคิดว่าเรื่องที่เจรจราเสร็จแล้ว จะเปลี่ยนใจ ทันทีก็เป็นกังวลขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น?”

เธอกล่าวถามอย่างกังวลใจ กู้ฉางฉิงอธิบายอย่างไม่ได้ปิดบัง

หลี่ม่านรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มุ่งเป้าไปยังบริษัทของพวกเขา ก็วางใจ

“ในเมื่อฟู่ซื่อกรุ๊ปสามารถทำได้ ทางด้านของพวกเราก็เหมือนกันกับเขา ต้องเอารายการธุรกิจนี้มาให้ได้”

กู้ฉางฉิงพยักหน้า ไม่นานก็จัดทำหนังสือสัญญาใหม่กับฟู่หยุนชวน

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท